“เปลี่ยนบ้านพังให้ปังได้”...หลังซาร่า-นลิน โฮเลอร์ นักร้อง-นักแสดง-พิธีกรสาว เปิดคอนโดให้ได้เห็นสภาพสุดเละ ทำให้ดุ๊ก-ภาณุเดช วัฒนสุชาติ นักแสดงรุ่นพี่ ยื่นมือน้ำใจไมตรีช่วยปรับปรุงแต่งคอนโดให้ใหม่ พร้อมเผยสภาพก่อนรื้อห้องและสภาพห้องใหม่ ผ่านรายการ “รื้อบ้าน” ทางยูทูบและเพจ DUKE BHANUDEJ ตั้งแต่ก้าวแรกที่ได้เห็นห้องซาร่าถึงกับน้ำตาแตกเพราะความตื้นตันใจ แถมเพื่อนซี้อย่างแพท-ณปภา พาเรซซิ่งบุกเซอร์ไพรส์เล่นเอาซาร่าดีใจสุดขีด “ทีมข่าวบันเทิง” เปิดใจ พี่ดุ๊ก-ซาร่า เป็นที่แรก พร้อมเคลียร์ “ดราม่า” ต่างๆนานาที่เกิดขึ้น รวมถึงเรื่องความรักที่เจ็บแต่จบ ยังไม่พร้อมเริ่มต้นใหม่ ใน “คนดังนั่งคุย” จากที่พี่ดุ๊กประกาศจะทำการรื้อห้องให้ซาร่ารู้สึกยังไงบ้างซาร่า “รู้สึกตกใจนะคะเพราะตอนแรก หนึ่งสภาพห้องของเราไม่น่าที่จะเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโตให้คนอื่นเห็น แต่พอเห็นแล้วพี่ดุ๊กเข้ามาช่วยรู้สึกดีใจมากและเกรงใจมาก เพราะมันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ แต่เป็นเรื่องใหญ่ ถ้าเป็นเรื่องเล็กๆทำเองไปนานแล้ว พอเป็นเรื่องใหญ่ที่จะต้องมีคนมาช่วยเหมือนเรามีซุปเปอร์ฮีโร่มาช่วยดึงมือเรา เหมือนเป็นผู้มีพระคุณคนนึง เป็นแสงสว่างในชีวิตเราจริงๆ มันอึดอัดมานาน พอพี่ดุ๊กบอกจะมารื้อบ้านมันเหมือนมีแสงที่เข้ามา เป็นบุญของเรา”พี่ดุ๊ก “ไปรื้อบ้านมาก็หลายคนแต่ครั้งนี้รู้สึกได้ว่าจัดเต็มมาก มาจากการที่ขอให้น้องไปช่วยพี่ทำรายการรื้อบ้าน 5 EP พอไปช่วยได้คุยกัน ทีมงานก็เป็นทีมเดียวกับตีท้ายครัวเลยขอมาบ้านซาร่า แรกๆ ก็อิดออด ไม่ยอมให้ไป ไม่รู้คุยอีท่าไหนเลยได้มาดูห้อง ซาร่าคงอยากจะบอกมาดูห้องฉันไปเลย” ซาร่า “จริงๆ ประชดๆๆ คือห้องหนูไม่มีอะไรเลย มันไม่น่าถ่าย มันรก ไม่เชื่อไปดู ตอนนั้นมาคุยกันที่ร้านคาเฟ่ข้างล่างคอนโดเลยชวนมาดูขำๆ”พี่ดุ๊ก “ทางทีมงานส่งคลิปมาให้พี่ดู คือพี่เห็นแล้วมันคันไม้คันมืออยากทำมาก ที่สำคัญเหตุผลของน้องที่ยอมอยู่อย่างนั้นมันเป็นเหตุผลที่ทำให้เราประทับใจ จริงๆไม่ใช่น้องไม่มีเงินนะ น้องทำงานเยอะ แต่เงินทั้งหมดน้องมุ่งทำบ้านให้แม่ที่เชียงใหม่ เป็นภาระที่หนัก เกิดคำถามทำไมไม่เจียดเงินทำห้องของตัวเอง น้องบอกว่าชีวิตนี้เคยมีหนี้ หาเงินใช้หนี้กลายเป็นดอกเบี้ยไปหมดเลย เลยไม่อยากเป็นแบบนั้นอีกแล้ว อดทนเพื่อคุณแม่ นั่นคือสิ่งที่เราประทับใจ เด็กคนนี้มีความกตัญญูและที่สำคัญเป็นเด็กผู้หญิงที่ถึกมาก พี่เห็นสภาพแล้วตกใจ รื้อพื้นมามีเห็ดงอก มีเชื้อรา แล้วต้องย้ายตัวเองจากแอร์ที่เป็นน้ำตกในห้องนอน ปูเสื่อนอนหน้าทีวีเป็นอย่างนี้มาหลายเดือน ซึ่งตรงนี้มีคอมเมนต์มาว่า งกหรือเปล่า? เค็มหรือเปล่า? ทำไมไม่รู้จักจัดการตัวเอง แต่ในมุมของเรา กลับมองว่าน้องอดทนมาก เค้ารู้จักใช้เงิน เค้าโฟกัสกับสิ่งที่เรียกว่าความกตัญญู ตอนนี้คือรางวัลชีวิตที่เราอยากให้เพราะเราโชคดีที่ว่าเราทำรายการนี้มีสปอนเซอร์ที่น่ารักมาซัพพอร์ต เพราะส่วนตัวเราก็ไม่ได้มีสตางค์ขนาดนั้นหรอก” การวางแผนรื้อบ้านพี่ดุ๊กเตรียมงานยังไงบ้างพี่ดุ๊ก “โจทย์ห้องนี้มีแรงบันดาลใจจากโคมไฟในร้านคาเฟ่ของซาร่าเค้ามีสีสันสวยงาม มีโคมไฟหลายดวงพี่เลยขโมยมาหนึ่งดวง โคมไฟในห้องครัว พี่ก็ดึงสีนั้นมาเล่นเพื่อให้ห้องนี้สดใสเพราะเรามองซาร่าเป็นคนสนุกสนาน เราไม่ใช้สีนั้นเปอร์เซ็นต์เยอะเกินไป เราเลยทาสีห้องเบรกลงมาเป็นโทนสีที่ซาร่าชอบคือเขียวกับน้ำเงิน หลังจากนั้นหยอดสีส้ม สีเหลืองในห้อง ผ้าม่าน เฟอร์นิเจอร์นิดๆหน่อยๆเล่นสีหนักๆ 70 สีแซ่บๆ 30 เปอร์เซ็นต์ นี่เป็นไอเดียได้เลย เราเริ่มต้นจากการเลือกสี เลือกผ้าม่าน ให้ซาร่ามีส่วนเลือก หลังจากนั้นพื้นเราก็ต้องเปลี่ยนเป็นนวัตกรรมใหม่ อยากรู้ต้องไปตามดูในรายการ” ตอนที่ซาร่าเปิดประตูเข้าห้องมาครั้งแรกรู้สึกว้าวขนาดไหนซาร่า “โอ้โห จำไม่ได้เลยค่ะ พี่พาหนูมาห้องใคร ห้องตัวอย่างหรือเปล่า ความรู้สึกแรกมันน้ำตาแตก รู้สึกตื่นเต้นนี่เป็นความร่วมมือจากทุกคนที่พยายามช่วยกันทำให้ห้องออกมาสวยขนาดนี้ ชอบมาก หนึ่งโล่ง แต่ในความโล่งมันมีรายละเอียดต่างๆ ของเก่าเรียกว่าซกมก เข้าห้องมาอึดอัดแล้ว แต่ครั้งนี้พี่ดุ๊กให้หนูปิดตาเดินเข้ามา รู้สึกได้จริงๆ พลังมันโอบอุ้ม ทั้งๆที่เรายังมองไม่เห็นแต่เมื่อก่อนทุกครั้งที่เดินเข้ามาคือนอนพื้นตรงนั้นไม่ได้ทำอะไรเลย แต่ครั้งนี้จากที่นอนกลายเป็นที่อยู่ มันคือที่ใช้ชีวิตแล้ว และหนูรู้สึกครึ่งนึงของชีวิตคือการใช้ชีวิตอยู่กับบ้าน บ้านดีทำให้เรามีความสุข หนูเข้ามาในห้องครั้งแรกรู้สึกว่าความสุขโอบอุ้ม อย่างน้อยอย่างแรกแอร์เย็น (หัวเราะ) มันเป็นความสุข เปิดมาปุ๊บสวยมาก เป็นอะไรที่ว้าวและน้ำตาแตกเลย” ช่วงระยะที่พี่ดุ๊กต้องเก็บความลับ อึดอัดขนาดไหนพี่ดุ๊ก “มีแต่คนถาม หลายๆคนดูตีท้ายครัวจะถามเมื่อไหร่ทำ เมื่อไหร่เสร็จ อยากดู อยากเห็น เราอยากเข้ามาทำแต่จังหวะโควิดรอบสอง แล้วซาร่าโดนดราม่าหนัก ตั้งแต่ห้องเละ ดราม่าเรื่องโควิดนิดนึง ทางคอนโดไม่อนุญาตให้ช่างเข้ามา ระหว่างที่รออยู่มีดราม่าเรื่องความรักด้วยนะ ใช่ไหม (หันไปถามซาร่า) ชีวิตเค้าเจออะไรเยอะทำให้เราอยากรีบเข้ามาทำให้เค้า อยากให้เค้ามีความสุข กดดันนะ ครั้งนี้เราตั้งใจทำพิเศษใช้ชื่อว่ารื้อบ้าน จะเข้าไปรื้อในสิ่งที่มีอยู่ให้มันปังขึ้นมา ซาร่าเป็นคนคิดนะ เปลี่ยนบ้านพังให้ปังได้ เราขโมยอันนี้แล้วเค้าแต่งเพลงให้ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเราปล่อยตามธรรมชาติ พอเห็นอาการรู้สึกดีใจ ชื่นใจ หายเหนื่อย เราอยากให้น้องมีความสุข สิ่งที่เค้าจะตอบแทนเราได้เค้าต้องมีความสุขกับมัน บ้านเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เรามีพลัง ถ้าเราทำบ้านให้มันน่าอยู่เราจะมีพลังบวกไปทำงานหรือเข้าสังคม ซาร่าทำสิ่งนี้ให้ครอบครัวเค้า วันนี้เค้าเลยได้รับสิ่งดีๆจากคนรอบข้าง ตรงนี้สอนซาร่า สามารถแชร์ให้กับคนในสังคมได้ด้วย” ซาร่า “ในชีวิตไม่เคยมีห้องดีๆมาตั้งแต่เกิดเลย นี่คือห้องแรกในชีวิตที่มันดี เมื่อก่อนอยู่เชียงใหม่หนูก็ไม่ได้มีห้องเป็นของตัวเอง เป็นบ้านเช่ามีอยู่ห้องเดียวกับแม่ พอทำงานที่จีน กลับมาสภาพบ้านมันแย่เลยเป็นความฝันอยากทำบ้านให้เค้าได้อยู่ สภาพควรจะเป็นอย่างนั้นเรามีโอกาสหาเงินก็อยากให้ครอบครัวมีความสุข นี่ห้องแรกที่สวยที่สุดในชีวิต หนูดีใจนะที่หนูร้องไห้คือดีใจที่มีคนทำให้เราขนาดนี้”ตั้งแต่ซาร่าออกตีท้ายครัวก็มีดราม่า เรารู้สึกยังไงบ้าง “เอาจริงๆนะ ทุกคนสามารถวิจารณ์ได้หมดแล้วแต่ความคิดของแต่ละคน แต่เราไม่สามารถอธิบายให้ทุกคนทั้งโลกเข้าใจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่มีใครรู้หรอกตัวตนจริงๆ เราเป็นคนยังไง หนูเลือกแคร์คนที่รักเราดีกว่า แคร์คนรอบข้างที่เค้ารู้จักเราจริงๆ เราอธิบายให้คนที่อยู่รอบตัวเราเข้าใจแค่นั้นดีกว่า แม่สอนมาดี ทุกครั้งไปทำงานแม่จะอวยพร ตั้งใจทำงาน เป็นคนดีนะ หนูเกิดจากลูกครึ่งแต่แม่จะสอนให้เรายึดถือความเป็นไทย การพูด ร เรือไม่ชัดแม่จะโกรธ เอามะเหงกเขกหัว อย่าลืมตัวนะ คอยสอนให้เรามีสติตลอดเวลา เรื่องสภาพห้อง มีเห็ดแม่ไม่เคยรู้เลย รู้พร้อมทุกคนหลังออกรายการตีท้ายครัว พอข่าวออกไปแม่โทร.มาทำไมอยู่อย่างนั้นล่ะลูก ไม่ได้บอกใคร” แบบนี้ซาร่าต้องเรียกพี่ดุ๊กพ่อแล้วล่ะ ซาร่า “โอ๊ยเป็นยิ่งกว่าพ่ออีก”พี่ดุ๊ก รีบแย้ง “เป็นพี่ดีแล้ว ไม่อยากเป็นพ่อ”ซาร่า ยิงมุกทันที “เป็นพี่แล้วกัน ถ้าเมื่อไหร่ไม่อยากเป็นพี่เป็นแฟนได้มั้ย”พี่ดุ๊กถึงขั้นขำแรงก่อนเรียกซาร่าว่า “หอยหลอด” ฮาาาาาแซวพี่ดุ๊กขนาดนี้ถามจริงๆ ตอนนี้ซาร่าพร้อมเปิดใจเหรอซาร่า “ให้เวลาดีกว่า ให้เวลาเรื่อยๆ ใช้เวลากับความสุขที่ทุกคนให้มา ให้เวลาดีกว่า เหมือนที่หนูเจอพี่ดุ๊กเป็นเวลาที่ดี มีรายการรื้อบ้าน แล้วห้องมันแย่พอดี เป็นจังหวะจริงๆ ถ้าจังหวะมันใช่ก็คือใช่ค่ะ เราเชื่อเรื่องเวลา เหตุผลของเวลา”พี่ดุ๊ก “ไม่ต้องรีบเนอะ มูฟออน ไปต่อ”ซาร่า “ความสุขมาหาเราแล้วจะไปดิ้นรนหาอะไรอีก เราพร้อมใช้ความสุขตรงนี้ เราพร้อมให้คนอื่นเหมือกัน”พอทุกคนรู้ว่าซาร่าโสดมีคนเข้ามาจีบหรือเพื่อนๆแนะนำหนุ่มๆให้มั้ย ซาร่า “ไม่มีเลยค่ะ” พี่ดุ๊กยิงถามต่อ มีใครคุยมั้ย “อยากรู้” ซาร่า “ตอนนี้ไม่มีจริงจัง ไม่ได้มอง ถ้ามีต้องใช้เวลามากกว่านี้ มันเพิ่งไม่กี่เดือน การที่อยู่ดีๆ คุยกับใคร ยังไม่พร้อม ค่อยเป็นค่อยไป อยู่กับตัวเองก่อน 10 กว่าปีมีแฟน ตอนนี้อโลน มีเคว้งเหมือนกัน บางโมเมนต์ สถานที่ที่เราไปด้วยกัน ร้านอาหาร บางเมนูที่มันทำให้คิดถึงกันได้อยู่แล้ว ถามว่าคิดถึงมั้ยมันก็มีคิดถึง ส่วนใหญ่เป็นความรู้สึกดีๆที่มีให้กัน มีอัปเดตบ้าง ไม่ได้คุยเหมือนก่อน เรายังมีเยื่อใยกันอยู่ ไม่ได้ดึงขาด เราหย่อนความสัมพันธ์เราเลยประคองความสัมพันธ์ลักษณะนี้ไปก่อน”เข็ดกับความรักรึเปล่าซาร่า “10 กว่าปีไม่ได้เป็นอย่างที่เราวาดไว้ ไม่ได้เข็ดนะ มันเป็นความรู้สึกใหม่มาก มันไม่เคยมีโมเมนต์นี้มาก่อน แต่มันเป็นความรู้สึกเสียใจมากกว่า อาจจะผิดหวังกับตัวเราเองด้วยเหมือนกัน เราไม่สามารถไปต่อได้ มีผิดหวังบ้าง เราเป็นคนชอบทำให้คนภูมิใจในสิ่งที่ทำอยู่ พอถึงจุดนี้ผิดหวัง เข็ดมั้ย? มันยังไม่เข็ดแต่ไม่พร้อมเปิด คงมองว่าชีวิตไม่ได้โฟกัสเรื่องนี้แล้ว โฟกัสเรื่องอื่นที่ทำให้เรามีความสุขมากกว่า แต่เป็นบทเรียนที่ทำให้เราได้เรียนรู้ ทุกๆอย่างที่เกิดขึ้น ดราม่าทุกอย่างมันคือบทเรียน เราจะไปอยู่กับมันได้ยังไง เพราะสุดท้ายคนต้องอยู่กับความทุกข์ให้ได้ ทำให้เราโตขึ้นมองมุมใหม่ในโลกมากขึ้น”.เรื่อง : วรรณี ห่อวโนทยานภาพ : สุรกิจ แก้วมรกต