บอกเองเลยถ้าเล่นบทบาทยากๆได้มันฟินมาก!! พระเอกสุดฮอต “หมาก ปริญ สุภารัตน์” เลยเปิดความท้าทายใหม่รับเล่นภาพยนตร์สยองขวัญครั้งแรกในเรื่อง “เรื่อง ผี เล่า” หรือ HAUNTED TALES ค่าย M39 หนังสั้น 3 เรื่อง ประกอบด้วย “อยู่ในรถ” เรื่องที่ 2 คือ “ไปผุดไปเกิด” และเรื่องสุดท้าย “ใบลาน” นำแสดงโดย “หมาก ปริญ” ที่นอกจากจะดูเพื่อความบันเทิงในสไตล์สยองขวัญสั่นประสาท ก็ยังได้ข้อคิดในเรื่องของบุญบาป กฎแห่งกรรม รวมถึงหลักธรรมคำสอนในพระพุทธศาสนาเข้ามาสอดแทรก กำลังฉายในโรงภาพยนตร์ งานนี้ หมาก ขอเอาประสบการณ์ 11 ปี ออกมาใช้สร้างแอ็กติ้งในแบบใหม่ๆ“หมาก” ต้องขอเล่า เริ่มจากบทบาทใน ใบลาน ว่า“เป็นหนังผีเต็มๆ เรื่องแรกครับ ผมไม่เคยเล่นมาก่อน เป็นบทที่อยากเล่นมานานแล้ว เรื่องนี้ก็ท้าทายมาก แล้วพี่เอ๋-ศุภกร เหรียญสุวรรณ ผู้กำกับ เลือกให้เราเป็นคนเล่นในตอน “ใบลาน” ตอนที่ได้อ่านบทคือสนุกมาก ภาพในหัวแล่นไปหมดแต่พอมาคิดอีกทีรู้สึกว่ายากและเครียดมาก จะเล่นได้มั้ย ตัว “เจษ” เป็นนักเขียนหนังสือนิยายสยองขวัญไปเช่าบ้านหลังหนึ่งทำให้เกิดเรื่องราวทั้งหมดขึ้นมา ส่วนใหญ่ต้องเล่นคนเดียวเป็นหลัก ใช้จินตนาการเยอะมาก เรื่องนี้ก็ได้แอ็กติ้งโค้ชระดับฮอลลีวูดอย่างคุณมิเชล เดนเนอร์ มาช่วย ก็ดีใจที่ได้โอกาสนี้ ก็ต้องขอบคุณผู้กำกับและทีมงานทุกคนที่ให้เค้ามาสอนเรา เอาจริงๆกดดันหนักกว่าเดิมอีก (หัวเราะ) เพราะเค้าเป็นแอ็กติ้งโค้ชให้ดาราฮอลลีวูดหลายคน อาทิ เจอราร์ด บัตเลอร์, เพเนโลเป ครูซ, เจมส์ ฟรังโก ฯลฯ เค้าก็จะสอนเทคนิคต่างๆ สอนให้เราเชื่อในสิ่งที่เราคิด การเป็นตัวละครคือการที่เราเอาตัวเราเข้าไปอยู่ในบท ตอนถ่ายก็ยังเครียดๆอยู่ เค้าก็ส่งดอกไม้มาให้และบอกว่าเชื่อในสัญชาตญาณตัวเองนะ การที่ได้เรียนกับเค้าทำให้เราเห็นชัดขึ้นว่า สิ่งที่ควรทำคืออะไร ทำให้เราเหมือนมีแรงกดดันที่ต้องทำให้ได้ เลยกลายเป็นความสนุก”ทำไมชื่นชอบในศาสตร์ของการเล่นหนัง?“ผมว่าการได้รับบทบาทใหม่เป็นประสบการณ์ใหม่ๆ ความจริงผมชอบบทยากๆ พอกดดันแล้วเราทำได้ จะรู้สึกว่าใครไม่ฟินเราฟิน (หัวเราะ)”ผลงานอื่นๆตอนนี้ล่ะ?“มีละครเกมล่าทรชน เรื่องนี้บู๊แอ็กชันจัดเต็ม จะมีอีกเรื่องเร็วๆนี้ และมีแอบทำโปรเจกต์ทำเพลง ร้องเพลงของตัวเองก็ต้องเป็นตัวเราให้มากที่สุด อาจจะได้เห็นผมลุกขึ้นมาเต้นก็ได้ (หัวเราะ)” เจอบทบาทมาเยอะต้องหาอะไรล้างตัวละครมั้ย?“ต้องเคลียร์ตัวเองเรื่อยๆเลยครับ ต้องพัก ไม่งั้นเป็นบ้า แล้วยิ่งได้บทดาร์กๆเครียดๆก็ต้องไปล้างออกให้หมด หาเวลาไปเที่ยว เข้าป่า ขับรถเที่ยวต่างจังหวัด ทำกับข้าว ช่วงนี้ก็ฝึกทำอาหารกัน อร่อยไม่อร่อยก็ต้องกินให้หมด น้องคิมเค้ามีความสามารถด้านนี้ ผมก็เป็นคนชิม พูดอะไรไม่ได้มาก (ยิ้ม)”มุมของคู่รัก หมากกับคิม-คิมเบอร์ลี่ หลายคนมองว่าเหมือนคู่รักธรรมดาที่ไม่ใช่ดารา?“เราก็คือคนธรรมดาคู่นึงที่ผ่านร้อนผ่านหนาวแล้วก็อยู่ด้วยกันจนถึงทุกวันนี้ มีหวานบ้าง หวานน้อยบ้างเป็นธรรมดา นั่นก็คือชีวิต แล้วเราก็เป็นอย่างนี้ และก็จะเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ทุกวันนี้เราไม่ต้องปรับอะไรกันแล้ว บางทีนั่งกันอยู่สองคนต่างคนต่างทำอะไรของตัวเอง แต่เวลาคิดอะไรออก หันมาคุยกันแล้วแบบ เฮ้ย! เรื่องเดียวกันเฉยเลยเหมือนรู้ใจกันแล้ว”แบบนี้เวลาจะเซอร์ไพรส์ยากมั้ย?“ยากมากครับ แค่หาของขวัญให้ยังยากเลยครับ แล้วเค้าก็มีทุกอย่างอยู่แล้ว ผมเป็นคนไม่ค่อยเซอร์ไพรส์แต่ก็ไม่เคยพลาด (เขิน) เมื่อก่อนอาจจะยังเด็กก็พลาดมาเยอะ เช่น ลืมจองร้านอาหาร ลืมวันไปบ้าง แต่เดี๋ยวนี้ทำงานหนักแค่ไหนก็ต้องล็อกวันไว้ให้ได้ ไม่ใช่ว่าเค้าไม่พอใจนะ แต่เราเองที่ไม่อยากพลาด พออยู่ด้วยกันบ่อยๆก็กลายเป็นว่าเค้าก็ชอบในสิ่งที่เราชอบ เราก็ชอบในสิ่งที่เค้าชอบ อย่างเค้าชอบนั่งรถ ผมชอบขับรถ ก็ไปด้วยกันได้ ผมชอบเข้าป่า เค้าก็อยากรู้ว่าเข้าป่าทำไม มีอะไรดี ก็ไปด้วยกัน”ถามถึงเรื่องวางอนาคตร่วมกัน เห็นว่ามองไกลไปถึงตั้งชื่อลูกรอไว้แล้วแปลว่าต้องใกล้แต่งงานแล้ว?“เราคุยกันเยอะมากเรื่องอนาคต แต่ก็ยังไม่สามารถพูดอะไรได้ ถ้ามีอะไรคืบหน้าจริงๆเราค่อยบอก แต่เราคุยกันเรื่องอนาคตทุกวัน เราคิดว่าจะสร้างครอบครัวด้วยกัน แล้วก็คนนี้นี่แหละ เราคิดเยอะมาก อย่างเรื่องโรงเรียนลูกก็ดูโรงเรียนอินเตอร์ไว้หลายที่ บ้านและทุกอย่างก็ต้องเชื่อมโยงกับอนาคตหมด” มีภาพครอบครัวในหัวชัดเจนแล้ว?“ใช่ครับ คิดมากกว่าวันที่จะแต่งงานด้วยซ้ำ คิดว่าจะอยู่กันที่ไหน คุยกันแล้วด้วยว่าตอนแก่กันสองคนจะอยู่ที่ไหนยังไง อย่างที่บอกว่าเราคุยกันทุกเรื่องเป็นแผนในอนาคตของเราอยู่แล้ว แต่จะมีอะไรคืบหน้าที่เป็นขั้นเป็นตอน เดี๋ยวบอกอีกที เอาจริงๆเราก็ลุ้นเหมือนกัน (หัวเราะ) ก็มีหลายปัจจัย ด้วยเวลา ด้วยอายุ ด้วยดวงด้วย ดูดวงทุกอย่าง (หัวเราะ) แต่ก็ไม่ได้ถึงกับเครียด ตอนนี้เรายังชิลๆอยู่”เวลาคุยเรื่องอนาคตกันมีความสุขมั้ย?“รู้สึกดีมาก มีเถียงกันด้วย แต่ก็ดี ทำให้เราได้ใช้ความคิดด้วยกัน”.