ก็คงมาว่ากันอีกสักครั้งกับบทบาทการทำหน้าที่ “ผู้ประกาศข่าว” ภาษาชาวบ้านก็เรียก “นักเล่าข่าว” กับรายการข่าวปกติทั่วไป!!เพราะเห็นหลายช่อง หลายรายการข่าว มาในสไตล์อ่านข่าวหรือเล่าข่าว พร้อมกับวิพากษ์วิจารณ์ข่าวนั้นๆไปด้วยถือเป็นการทำเกินหน้าที่ อาจนำไปสู่ความเสียหายได้หลายอย่างข่าวก็คือข่าว...ต้นทางมาอย่างไร ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ผู้ประกาศข่าวจะต้องสื่อความหมายตามสคริปต์ข่าวอย่างชัดเจน เพื่อให้ข่าวนั้นสมบูรณ์ทั้งภาพและเสียงไปถึงผู้ชมก็ไม่ทราบว่าใครเป็นคนริเริ่มนำเอาการวิพากษ์ข่าวมาใช้ในรายการข่าวปกติ ซึ่งมันผิดมหันต์ และผิดพลาดมากๆเพราะไม่เคารพวิจารณญาณของผู้ชมที่จะคิดเห็นได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องให้ใครมาชักจูงความคิดการวิพากษ์–วิจารณ์ข่าวของนักเล่าข่าว มันก็คือความคิดเห็นส่วนตัว ไม่มีข้อเท็จจริงมาเป็นองค์ประกอบ แต่เต็มไปด้วยอคติ หรือไม่ก็แต่งแต้มสีสันเข้าไป ทำให้ข่าวหนึ่งด้อยค่าลงอย่างน่าวิตก!!คุณไม่ควรวิพากษ์เนื้อหาข่าวไปในทิศทางของตัวเอง และไม่ควรวิจารณ์ผู้ตกเป็นข่าวในทางเสียหายเพราะคุณกำลังทำตัวเป็นผู้พิพากษาข่าว ซึ่งไม่ใช่หน้าที่ของผู้ประกาศข่าวหรือนักเล่าข่าวที่ดีจะพึงกระทำ!!หากเป็นรายการวิเคราะห์ข่าว อันนั้นคุณทำได้เต็มที่เลย เพราะผู้ชมจะเข้าใจดีว่าการวิเคราะห์ก็คือการส่งมอบความเห็นส่วนตัว ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็อยู่ที่ข้อมูลว่ามากน้อยแค่ไหนทุกวันนี้ก็ยอมทนดูนักเล่าข่าว (บางคน) “เล่นละคร” หน้ากล้องจนเอียนแล้ว อย่าถึงกับแสดงทัศนะส่วนตัวในข่าวอีกต่อไปเลย!!‘‘แจ๋วริมจอ’’jaewrimjor@gmail.com