“จุดเริ่มต้นของธุรกิจเกิดจากความหลงรักในการออกกำลังกายของพวกเรา ซึ่งการมีร่างกายที่แข็งแรงถือเป็นต้นทุนในการใช้ชีวิตในแบบฉบับที่เราอยากจะใช้ ไปไหนหรือเที่ยวที่ใดก็มีแรงไปได้สบาย อีกทั้งยังทำให้ห่างไกลโรคภัยอีกด้วย”หนึ่งในประโยคคำตอบที่มาจากปาก คุณไนซ์ (สริยา บูลกุล) หนึ่งในหุ้นส่วนผู้ก่อตั้ง “BoxUp Muaythai Gym” (บ็อกซ์อัพ มวยไทยยิม) ยิมออกกำลังกายสมัยใหม่ที่เน้นสอนศิลปะแม่ไม้มวยไทยบนถนนราชพฤกษ์ คุณไนซ์เล่าว่า บ็อกซ์อัพ มวยไทยยิมแห่งนี้เกิดขึ้นจากการรวมตัวกันของกลุ่มเพื่อนเลิฟที่มีใจรักการออกกำลังกาย มาร่วมระดมทุนและความคิดสรรค์สร้างเป็นยิมสอนมวยไทยแนวใหม่เข้าใจผู้เล่น โดยหุ้นส่วนนั้นประกอบด้วย คุณเจม (ศราวุธ โตแจ้ง), คุณป่าน (ปานยจิตต์ พลับใจบุญ), คุณส้ม (กฤษณา มงคลอุดมรัตน์) และ คุณเมย์ (นภัสวัณณ์ น้อยวงศ์)สำหรับการเลือกมาทำธุรกิจยิมมวยไทยนี้ เนื่องจากเล็งเห็นว่าในระยะหลังคนเริ่มหันมาใส่ใจด้านสุขภาพกันมากขึ้นทั้งหาอาหารมีประโยชน์รับประทาน รวมถึงออกกำลังกายสร้างความแข็งแรง อีกทั้งปัจจุบันกระแส “มวยไทย” ก็เป็นที่รู้จักดี คนไทยคุ้นเคยมานาน รวมถึงยังไปสร้างชื่อเสียงในระดับโลกด้วย ซึ่งในเวลานี้ทั้งคนไทยและต่างชาติก็หันมาออกกำลังกายด้วยมวยไทยกันเป็นจำนวนมาก แน่นอนการเปิด “บ็อกซ์อัพ มวยไทยยิม” จึงเป็นโอกาสดีที่เราจะนำเสนอสถานที่ออกกำลังมวยไทยแนวใหม่ ที่ใช้อุปกรณ์การออกกำลังกายประเภทต่างๆมาร่วมใช้กับการต่อยมวยเข้ามาเจาะตลาด คุณไนซ์กล่าว“จุดเด่นของยิมเราจะอยู่ที่การนำวิทยาศาสตร์การกีฬาสมัยใหม่มาประยุกต์ใช้กับศิลปะป้องกันตัวแบบฉบับไทยแท้กับมวยไทย ให้ออกมาลงตัวและตอบโจทย์ความ ต้องการลูกค้าที่มองหาการออกกำลังกายที่ได้ทั้งความสนุก และเทคนิคป้องกันตัวไปด้วย”คุณไนซ์เล่าด้วยว่า ตัวเขาเองก็มาสนใจและรักในกีฬามวยไทยไม่นานมานี้ ซึ่งหลังจากเพื่อนชวนมาทดลองเล่นดูก็หลงรักในศิลปะการต่อสู้นี้ชนิดแบบชอบมากม้าก... “ตัวไนซ์เองชอบออกกำลังกายเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว สมัยช่วงเรียนมัธยมศึกษาก็เป็นนักกีฬาบาสเกตบอลตัวโรงเรียน ถึงขนาดช่วงมัธยมศึกษาตอนปลายได้คัดเลือกเป็นนักกีฬาเขตการศึกษาด้วย แต่หลังจากเข้ามหาวิทยาลัยก็ไม่ค่อยได้เล่นบาสอีก แต่ก็ยังไม่ทิ้งการเสียเหงื่อจากการออกกำลังโดยยังหาฟิตเนสเล่นอยู่ประจำ”ในส่วนของผู้เล่นก็มีความหลากหลาย ตั้งแต่กลุ่มลูกค้าผู้หญิง ผู้ชาย ผู้สูงอายุ (ที่ฟิตและแข็งแรง) รวมถึงเด็กก็สามารถเล่นได้ ถือเป็นการฝึกทักษะตั้งแต่เด็ก ส่วนผู้หญิงนอกจากได้หุ่นที่ฟิตเฟิร์ม ยังมีวิชาป้องกันตัวไว้ใช้ยามฉุกเฉินได้ด้วยทั้งนี้ในส่วนของการออกแบบบ็อกซ์อัพ มวยไทยยิม แบ่งออกเป็น 3 โซน คือ 1.โซนอินดอร์ (ในร่ม) ที่จะมีอุปกรณ์ต่อยมวยให้บริการ ทั้งกระสอบทรายขนาดต่างๆ ห้องสอนต่อยมวย 2.โซนเอาต์ดอร์ (พื้นที่เปิดโล่ง) ทำเป็นเวทีมวยที่มองเห็นวิวรอบนอก และ 3.โซนฟิตเนส ที่จะมีอุปกรณ์สร้างกล้ามเนื้อ อาทิ ดัมเบล เครื่องออกกำลังกาย เป็นต้น ไว้ให้บริการมากมาย“ยิมเราจะให้ความสำคัญเรื่องความสะอาดของอุปกรณ์ทุกชิ้น รวมถึงห้องน้ำ และสถานที่ภายในยิมด้วย เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจได้ในเรื่องสุขอนามัย โดยยังมีในส่วนของล็อกเกอร์ อุปกรณ์อาบน้ำ ผ้าเช็ดหน้า ไว้ให้บริการด้วย เพียงลูกค้าเตรียมมาแค่เสื้อกับกางเกงก็สามารถเข้าใช้บริการได้แล้ว” คุณไนซ์เล่าถึงความท้าทายในการทำธุรกิจนี้ว่า ต้องยอมรับว่าในตลาดต่างก็มียิมหรือค่ายมวยเป็นจำนวนมาก ซึ่งก็มีการแข่งขันที่สูง โดยทางยิมจะนำเสนอด้านความต่างมาเจาะกลุ่มลูกค้า เริ่มตั้งแต่การออกแบบสถานที่ให้ดูทันสมัย สบายๆเหมือนลูกค้ามาพักผ่อน รวมถึงการใส่ใจในการสอนที่จะกำหนดให้คลาสที่เรียนต้องมีผู้เล่นไม่มาก เพื่อให้ครูมวยผู้สอนดูแลได้ทั่วถึง ซึ่งในอนาคตก็จะเพิ่มการสอนเป็นแบบตัวต่อตัวด้วยส่วนด้านอัตราค่าบริการนั้นก็มีให้เลือกหลายแพ็กเกจ อาทิ 1 ครั้ง 550 บาท, 5 ครั้ง 1,500 บาท, 10 ครั้ง 4,500 บาท หรือจะเลือกแบบรายเดือนก็มี อาทิ 1 เดือน 5,500 บาท, 3 เดือน 9,999 บาท หรือจะเป็นสมาชิกรายปีก็ได้ นอกจากนี้ยังมีแบบเล่นบุฟเฟ่ต์ 1 เดือนเข้าใช้บริการกี่ครั้งก็ได้ สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าดูข้อมูลได้ที่เพจเฟซบุ๊ก และอินสตาแกรม : boxupmuaythaigymบ็อกซ์อัพ มวยไทยยิม อาจจะเป็นยิมที่เปิดมาได้ไม่นาน แต่เรามีความมุ่งมั่นที่จะรักษาคุณภาพ และบริการที่ดีแบบนี้ไว้ตลอดไป ซึ่งก็เชื่อว่าหากใครได้มาลองเล่นแล้วต้องติดใจแน่นอน คุณไนซ์ กล่าวทิ้งท้าย.