กระแตไต่ไม้ หรือ DRYNARIAGUER CIFOLIA (L.) J.SMITH อยู่ในวงศ์ POLYPODIACEAE มีลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นไม้จำพวกเฟิร์น เลื้อยเกาะต้นไม้อื่น มีเหง้า ปกคลุมด้วยเกล็ดสีน้ำตาลเข้ม ใบมีด้วยกัน 2 ชนิดคือ ใบที่ไม่สร้างสปอร์เป็นรูปไข่ ไม่มีก้านใบ ขอบใบเว้า เป็นแฉกตื้น กับใบที่สร้างสปอร์เป็นรูปขอบขนาน ขอบเว้าลึก เนื้อใบหนา สีเขียวหม่นและสีเหลือง สีน้ำตาลเรียงกันเป็น 2 แถว ทำให้เวลามีใบดกสร้างสีสันหลากหลายงดงามมาก ขยายพันธุ์ด้วยสปอร์และแยกเหง้า พบขึ้นตามป่าทุกภาคของประเทศไทย โดยจะขึ้นหรือเกาะอยู่ตามต้นไม้ใหญ่ บนก้อนหินกลางแจ้งตามป่าเต็งรัง ป่าดิบแล้ง ป่าชายเลน และบนที่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,000 เมตร ในต่างประเทศพบที่ศรีลังกา จีน อินเดีย ภูมิภาคอินโดจีน มาเลเซีย ฟิจิ และ เขตศูนย์สูตรของประเทศออสเตรเลีย มีชื่อเรียกในพื้นที่ต่างๆอีกคือ กระปรอด (จันทบุรี) กระปรอดว่า (ประจวบคีรีขันธ์) กูดขาฮอก, กูดอ้อม, กูดไม้ (แม่ฮ่องสอน-เหนือ) ใบหูช้าง, สไบนาง (กาญจนบุรี) สะโมง (ส่วย-สุรินทร์) และ หัวว่าว, หว่าว (ปราณบุรี)สรรพคุณทางสมุนไพร ตำรายาแผนไทยภาคอีสานใช้เหง้า จำนวน 3-4 เหง้า ผสมกับลำต้นกล้วยไม้ชื่อ “เอื้องเงิน” จำนวน 1 ต้นรวมรากต้มน้ำมากหน่อยดื่มครั้งละ 1 แก้ว วันละ 2-3 ครั้ง ก่อนหรือหลังอาหารก็ได้เป็นยาบำรุงเลือด ตำรายาแผนไทย เหง้าเป็นยาสมาน คุมธาตุ ขับปัสสาวะ ขับพยาธิ แก้ปัสสาวะพิการ (อาการปัสสาวะปวด ปัสสาวะกะปริบกะปรอย ขุ่นข้นเหลืองแดง และมักมีอาการแน่นท้องกินอาหารไม่ได้) เหง้าของ “กระแตไต่ไม้” ยังใช้ต้มน้ำดื่มแก้นิ่ว ขับระดูขาวในสตรี แก้เบาหวาน ใบตำพอกแผลแก้แผลเนื้อร้าย แผลพุพอง มาลาเรีย ตำพอละเอียดพอกแก้อาการบวมต่างๆได้ดีมากอีกด้วยมีต้นขาย ทั่วไปตามแผงจำหน่ายไม้ป่าและกล้วยไม้ที่ตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับ สวนจตุจักร ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ ราคาแต่ละแผงไม่เท่ากันต้องเดินสอบถามก่อนตัดสินใจซื้อครับ.“นายเกษตร”