ในหลวงพระราชทานเงิน 100 ล้านบาท แก่ ผอ.รพ.หาดใหญ่เพื่อฟื้นฟู รพ.หาดใหญ่ จัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ทดแทนเสียหายจากเหตุอุทกภัย นายกฯกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่เตรียมขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน ยันยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วยังเดินหน้าฟื้นฟูต่อ รัฐบาลโอนเงินเยียวยาแล้ว 4.9 พันล้านบาท “ผบ.ตร.” ยกย่องหัวใจตำรวจภาคใต้ “ผู้เสียสละ” ช่วยประชาชนเตรียมดูแลสวัสดิการเต็มที่ “สุชาติ” ลงพื้นที่ช่วย รพ.หาดใหญ่ ส่งกรมน้ำกู้ระบบประปา ปลัดเทศบาลนครหาดใหญ่ คาดเศรษฐกิจเสียหายแตะแสนล้านบาท แถมมีขยะล้นเมืองกว่า 1 ล้านตันเมื่อเวลา 18.45 น. วันที่ 5 ธ.ค. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี นำนายแพทย์วิโรจน์ โยมเมือง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหาดใหญ่ เฝ้าฯ รับพระราชทานเงินจำนวน 100 ล้านบาท เพื่อฟื้นฟูและจัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ทดแทนที่เสียหายจากเหตุอุทกภัย และผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เฝ้าฯ รับพระราชทานอากาศยานไร้คนขับ (Drone) สำหรับค้นหาและสำหรับขนส่งอาหาร เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสงขลาและจังหวัดอื่นๆ ในพื้นที่ภาคใต้ที่ท้องสนามหลวง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการลงพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา วันที่ 6 ธ.ค.นี้ ว่า กังวลเรื่องภาคใต้ รู้ว่ามีการลงไปช่วยเหลือเป็นจำนวนมาก ส่วนเรื่องเงินช่วยเหลือ การฟื้นฟูเมือง การนำประชาชนกลับบ้านดำเนินไปได้กว่า 90% การลงพื้นที่จะนำนักวิชาการ ผู้ทรงคุณวุฒิร่วมถอดบทเรียน การได้ลงพื้นที่จะมีแนวคิดเกิดขึ้น มีการสนับสนุนเข้ามาอย่างรวดเร็วขึ้น เหมือนการลงพื้นที่ครั้งที่ผ่านมาของ ครม.เศรษฐกิจ เร่งรัดช่วยเหลือเต็มไปตามเป้า ส่วนการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จ.สงขลา การฟื้นฟูและเยียวยายังเป็นเหมือนเดิม เนื่องจากยังมีการประกาศจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) มี รมว.มหาดไทย เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ได้ขออนุเคราะห์นายกฯ และคิดว่านายกฯคงจะไม่ขัดเขานายภราดร ปริศนานันทกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลังประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน การดำเนินการและการประสานความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัย จะอยู่ภายใต้การดูแลของศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพไทยส่วนหน้า (ศบภ.ทท.สน.) จะทำหน้าที่อำนวยการควบคุมและบูรณาการปฏิบัติกับหน่วยทหารในพื้นที่ ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างรวดเร็วมีประสิทธิภาพ ความคืบหน้าการโอนเงินเยียวยาแก่ผู้ประสบอุทกภัย ช่วงวันที่ 1-4 ธ.ค. มียอดโอนสำเร็จ 548,126 ครัวเรือน วงเงินรวม 4,933,134,000 บาทนายภราดรกล่าวว่า วันที่ 5 ธ.ค. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จะส่งรายชื่อผู้มีสิทธิรับเงินเยียวยาเพิ่มเติมอีก 62,935 ครัวเรือน วงเงิน 566,415,000 บาท เป็นพื้นที่ จ.สงขลา นายกฯขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมแรงร่วมใจฟื้นฟูพื้นที่อย่างไม่ย่อท้อ พร้อมฝากข้อความถึงประชาชนว่า รัฐบาลจะเดินหน้าฟื้นฟูชุมชนและเศรษฐกิจ เยียวยาความเดือดร้อนให้กลับสู่ภาวะปกติเร็วที่สุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังนายกฯลงนามประกาศยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฯพื้นที่ จ.สงขลา ตั้งแต่ 5 ธ.ค.68 ทำให้ข้อกำหนดประกาศ และคำสั่งต่างๆสิ้นสุดลง เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมา พล.อ.อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ลงนามคำสั่งจัดตั้งศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพไทยส่วนหน้า เพื่ออำนวยการและประสานการปฏิบัติช่วยเหลือประชาชนจากเหตุอุทกภัยในพื้นที่ให้เป็นไปด้วยความรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ ทันต่อสถานการณ์ โดยมีผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพไทยพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. กล่าวถึงการเดินทางไปตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญข้าราชการตำรวจพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ว่า ขอชื่นชมการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็งของตำรวจทุกหน่วยในพื้นที่ แม้ครอบครัวของตัวเองได้รับผลกระทบเช่นกัน แต่ได้ออกไปช่วยเหลือประชาชนอย่างสุดความสามารถ ยืนยันผู้บังคับบัญชาพร้อมให้ความช่วยเหลือในฐานะ “ครอบครัวตำรวจ” ที่จะไม่ทิ้งกันนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง อธิบดีอัยการสำนักงานคุ้มครองสิทธิ และช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน (สคช.) เปิดเผยว่า อัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน พร้อมช่วยเหลือประชาชน ประสานงานกับหน่วยงานอื่น เพื่อให้ชีวิตของประชาชนประสบอุทกภัยในพื้นที่ไปต่อได้ จากนี้ยังมีประเด็นทางกฎหมายตามมา โดยอัยการพร้อมให้ความช่วยเหลือ เช่น ยื่นคำร้องจัดการมรดก ยื่นคำร้องเป็นผู้สาบสูญ ยื่นคำร้องตั้งผู้ปกครองเด็กให้ฟรีกับครอบครัวที่มีผู้เสียชีวิต และความเสียหายจะเป็นปัญหากฎหมาย เช่น ตีความสัญญาประกันอย่างไร กรมธรรม์คุ้มครอง อย่างไรไม่คุ้มครองถูกเร่งรัดหนี้ ฯลฯ สามารถติดต่อปรึกษาอัยการได้ฟรี สายด่วน 1157 เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาชีวิตให้กับประชาชนในพื้นที่นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ติดตามการปฏิบัติภารกิจร่วมฟื้นฟูทำความสะอาดพื้นที่ประสบอุทกภัยของเจ้าหน้าที่หน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงทรัพยากรฯ ให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ ตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา ภายใต้ทีม “ทส. หนึ่งเดียว” โดยได้ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ 565 นาย ที่ปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือ ฟื้นฟู และทำความสะอาดพื้นที่ รพ.หาดใหญ่และโรงเรียนเทศบาล 1 (เฮ้งเสียงสามัคคี)นายสุชาติกล่าวว่า ขอบคุณทีมเจ้าหน้าที่จากทุกหน่วยงานของ ทส. โดยเฉพาะทีมกรมทรัพยากรน้ำเข้ามาช่วยกู้ระบบประปาให้กับ รพ.หาดใหญ่ และทีมเฮลิคอปเตอร์ของ ทส.ที่ปรับภารกิจจากการส่งเสบียงให้ รพ.หาดใหญ่ มาเป็นช่วยลำเลียงผู้ป่วยฉุกเฉินกว่า 70 ราย และเครื่องกำเนิดไฟฟ้าจนช่วยกู้ระบบไฟฟ้าของ รพ.หาดใหญ่ และขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์ที่ช่วยดูแลผู้ป่วยอย่างเต็มที่ในช่วงภาวะวิกฤติ จากนี้จะสลับสับเปลี่ยนกำลังพลหมุนเวียนกันเข้ามาช่วยฟื้นฟู รพ.หาดใหญ่ ต่อไปจนกว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุดนายสุรินทร์ วรกิจธำรง อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวว่า ลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาการจัดการขยะมูลฝอยจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่เทศบาลนครหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ณ จุดพักขยะมูลฝอยบริเวณสะพานดำ อ.หาดใหญ่ จุดพักขยะมูลฝอย ต.เกาะแต้ว อ.เมืองสงขลา และโรงไฟฟ้าขยะมูลฝอยองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ต.เกาะแต้ว เพื่อให้คำแนะนำในการแก้ไขปัญหาการจัดการขยะน้ำท่วมมีแนวโน้มมากขึ้น โดยพบว่าการบริหารพื้นที่และเส้นทางการขนส่งขยะมูลฝอยเป็นสิ่งสำคัญเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการควบคู่กับการจัดหาที่พักขยะมูลฝอยเพิ่มเติมและการบริหารจัดการขยะมูลฝอยที่ปลายทางดร.กิตติ เรืองเริงกุลฤทธิ์ ปลัดเทศบาลนครหาดใหญ่ เปิดเผยว่า ปัญหาขยะในพื้นที่คาดมีมากกว่า 1 ล้านตัน อาจต้องใช้เวลาจัดเก็บประมาณ 2 เดือน จะเข้าสู่ภาวะปกติตอนนี้จัดเก็บได้เพียง 20 เปอร์เซ็นต์ ส่วนการฟื้นฟูเศรษฐกิจจะนัดหารือกับทางหอการค้า สมาคมโรงแรมและองค์กรต่างๆ เพื่อรวบรวมปัญหาและแนวทางการช่วยเหลือภาคธุรกิจในเมืองหาดใหญ่ทั้งระบบเสนอต่อรัฐบาล โดยเฉพาะเรื่องของเงินทุนที่จะนำมาตั้งต้นธุรกิจใหม่ หากประเมินความเสียหายด้านเศรษฐกิจทั้งระบบจากน้ำท่วมตัวเลขน่าจะถึงแสนล้านบาทผู้สื่อข่าวรายงานว่า รถกวาดถนนและดูดฝุ่นของ กทม. จำนวน 24 คัน เดินทางมาถึงเทศบาลนครหาดใหญ่ ร่วมทำความสะอาดฟื้นฟูถนน โดยการทำงานแบ่งออกเป็น 2 ชุด เริ่มทำความสะอาดถนนเส้นต่างๆ มีรถบรรทุกน้ำฉีดทำความสะอาดตามหลัง พร้อมกำลังพลเจ้าหน้าที่ อส. ร่วมทำความสะอาดด้วย ขณะเดียวกันหน่วยงานต่างๆ ระดมกำลังฟื้นฟูสถานที่ราชการ และบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่องส่วนที่ตลาดสดพลาซ่า 3 ถนนรัถการ ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หลังน้ำลดพบว่ามีคราบดินโคลนติดอยู่ตามแผงของแม่ค้าทั้งหมด หน่วยงานเทศบาลยังไม่มีการปล่อยน้ำประปาให้แม่ค้าทำความสะอาด แม่ค้าบางคนออกซื้อน้ำเองจากนอกเมือง นำมาล้างทำความสะอาดเตรียมเปิดแผงขายของ ส่วนโซนหลังตลาดพบกองขยะขนาดใหญ่ส่งกลิ่นเหม็น ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาเก็บกวาดทำให้เดือดร้อนอย่างหนักน.ส.ศิริทิพย์ ภูมิธรรมรัตน์ เจ้าของโกดังจำหน่ายถังน้ำ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เปิดเผยว่า ช่วงเกิดน้ำท่วมกระแสน้ำซัดโกดังจนแตกทำให้ถังน้ำขนาด 500-5,000 ลิตร ราคาถังละ 6,000-8,000 บาท ประมาณ 500 ถัง ลอยไปกับกระแสน้ำติดค้างอยู่ตามบ้านเรือนประชาชน มูลค่าความเสียหายประมาณ 10 ล้านบาท หลังน้ำลดติดตามและยกกลับมาได้บางส่วน แต่มีประชาชนเก็บถังไว้ไม่ยอมคืนและบางรายเรียกค่าสินน้ำใจ ตกลงกันไม่ได้ต้องไปแจ้งความ สภ.หาดใหญ่ อยากจะขอความเห็นใจเพราะตนก็เดือดร้อนเหมือนกันเช่นเดียวกับผู้ประกอบการเต็นท์รถมือสอง อ.หาดใหญ่ ส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบอย่างหนักเนื่องจากรถถูกน้ำท่วมเสียหายรายละ 30-40 คัน ต้องตัดใจขายขาดต่ำกว่าทุนเพื่อระบายรถถูกน้ำท่วมออก ผู้มาซื้อส่วนใหญ่เอาไปทำอะไหล่ บางคัน ต้องชั่งกิโลขายเป็นเศษเหล็กเพราะสู้ราคาซ่อมไม่ไหว หลังจากนี้เต็นท์รถในเมืองหาดใหญ่อาจจะประสบปัญหาระยะยาว ลูกค้าไม่กล้ามาซื้อเพราะเป็นรถที่ถูกน้ำท่วมอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่