ตัวเลขยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์น้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา กำลังเป็นประเด็นถกเถียงในสังคม ระหว่างยอดที่กระทรวงสาธารณสุขยืนยันอยู่ที่ 140 กว่าราย กับยอดที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. และเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร มูลนิธิต่างๆที่ลงพื้นที่ไปช่วยประชาชนให้ข้อมูล อาจมีจำนวนผู้เสียชีวิตทะลุพันคนนพ.ศักดา อัลภาชน์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตเหตุน้ำท่วมหาดใหญ่ยึดข้อมูลจากโรงพยาบาลสงขลานครินทร์เป็นหลัก โดยยอดผู้เสียชีวิตพุ่งสูงแค่ 2 วันแรก หลังจากนี้หากจะพบศพเพิ่มคงไม่มาก อาจเพิ่มแค่หลักหน่วย จึงไม่น่าจะเป็นไปได้ที่จะพบผู้เสียชีวิตเป็นหลักพันตามที่มีข่าวและสงสัยกันย้อนแย้งกับสิ่งที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยืนยันว่า ยอดผู้เสียชีวิตถึงพันรายเป็นข้อมูลเชื่อถือได้ จากการลงพื้นที่เห็นสภาพหน้างานจริง และข้อมูลจากผู้นำชุมชน อาสากู้ภัย ไม่อยากให้รัฐบาลปกปิด แถลงตัวเลขต่ำกว่าความเป็นจริง เพราะนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย คงไม่อยากได้ชื่อว่าเป็นนายกฯพันศพประเด็นตัวเลขผู้เสียชีวิตระหว่างหน่วยงานที่แตกต่างกัน ถูกหยิบยกนำไปปั่นกระแสทางการเมือง ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลนำไปใช้เป็นเครื่องมือโจมตีความน่าเชื่อถือของรัฐบาลที่รับมือภัยพิบัติผิดพลาดอย่างร้ายแรง เพื่อให้เกิดกระแส ความไม่พอใจต่อภาครัฐ ช่วยเพิ่มคะแนน นิยมให้กับฝ่ายที่ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลรับผิดชอบโยงเรื่องปัญหาน้ำท่วมหาดใหญ่ มาใช้โจมตีภาพลักษณ์และบั่นทอนความเชื่อมั่นรัฐบาล มีเป้าหมายเพื่อให้กระทบต่อคะแนนความนิยมของรัฐบาล และพรรคภูมิใจไทยในพื้นที่ภาคใต้ที่เป็นฐานเสียงสำคัญ จนมีแนวโน้มความนิยมลดลง ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลก็พยายามยืนยันความถูกต้องของข้อมูลตามหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ประชาชนคงต้องใช้วิจารณญาณอย่างรอบคอบในการรับข้อมูล แต่สิ่งสำคัญทุกฝ่ายควรหยุดปั่นกระแสช่วงชิงความได้เปรียบทางการเมือง หันมาร่วมมือกันเพื่อให้ประชาชนได้รับการช่วยเหลืออย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ผลประโยชน์ทางการเมืองไม่ควรอยู่เหนือผลประโยชน์ประชาชนที่กำลังรอคอยความช่วยเหลือเลิกใช้ความสูญเสียของชาวบ้าน เป็นเครื่องมือสร้างความนิยมให้ตัวเอง เพราะสุดท้ายผู้ได้รับผลกระทบมากสุด คือผู้ประสบภัยที่นอกจากเดือดร้อนจากน้ำท่วมแล้ว ยังต้องเจอความสับสนจากข้อมูลไม่ตรงกัน จนอาจเป็นอุปสรรคส่งผลกระทบต่อความช่วยเหลือเยียวยา ประชาชนไม่ควรตกเป็นเหยื่อเกมการเมืองในสถานการณ์วิกฤติ.