เพื่อไทยเบรกยื่นซักฟอกรัฐบาลหลัง 11 ธ.ค. “จุลพันธ์” แจงข่าวลือไม่ได้ออกจากพรรคเพื่อไทย ย้ำเวลานี้ไม่เหมาะ มาพูดเรื่องนี้ ย้ำให้เวลารัฐบาลไปตั้งสติใช้สมาธิแก้น้ำท่วมภาคใต้ ฮึ่มเก็บข้อมูลแก้น้ำท่วมเหลวลากขึ้นเขียง ขย่มความบกพร่องผิดพลาด ขยี้ รบ.ไร้ประสิทธิภาพ ดักคอ ภท.อย่ามาโยนกลองโทษ พท.ยื่นซักฟอก เป็นเหตุให้ยุบสภาฯหนี “นิพิฏฐ์” ขย่ม “เสี่ยหนู” โยกข้าราชการ มท.สนองการเมือง จับย้าย ผวจ.ผิดฝาผิดตัว เป็นอันตรายต่อการบริหารแผ่นดิน ศาล รธน.ตีตกคำร้อง “เรืองไกร” กล่าวหาประธานรัฐสภา-สมาชิกรัฐสภาใช้สิทธิล้มล้างการปกครอง รัฐสภาถกร่วมแก้ รธน. ไม่เข้าข่ายมาตรา 49 “ทักษิณ” นอนคุกครบ 3 เดือน “เอม-ปอ” หอบหนังสือธรรมะเข้าเยี่ยมรักษาใจพรรคเพื่อไทย (พท.) ชะลอการยื่นขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลออกไปก่อน หลังมีกระแสข่าวจากบางฝ่ายระบุพรรค พท.อาจจะยื่นซักฟอกรัฐบาลหลังวันที่ 11 ธ.ค. โดยนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค พท. ระบุเวลานี้ไม่ใช่ห้วงเวลาที่เหมาะสม ต้องการให้รัฐบาลมีสติและสมาธิในการเร่งขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมที่ประชาชนในภาคใต้ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักพท.ยังไม่ซักฟอกให้ รบ.มีสติแก้น้ำท่วมเมื่อเวลา 10.15 น. วันที่ 1 ธ.ค.ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการพิจารณายื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังมีกระแสข่าวว่าพรรค พท.จะยื่นหลังวันที่ 11 ธ.ค. ว่าไม่มี เป็นข่าวที่ไม่ได้ออกจากพรรค พท. การยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจขอย้ำว่าไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมที่จะมาคุยในนาทีนี้ ยืนยันกระบวนการตรวจสอบพรรค พท.ไม่ได้หยุดนิ่ง ยังคงติดตามอย่างใกล้ชิด และติดตามการทำงานของรัฐบาล การบริหารจัดการผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ สะท้อนชัดถึงประสิทธิภาพ ฉะนั้นเรารวบรวมประเด็นทั้งหมดอยู่ การทำงานติดตามตรวจสอบรัฐบาลไม่ได้หยุดนิ่ง แต่กระบวนการพูดคุยการยื่นหรือไม่ยื่นญัตติในช่วงนี้ขออนุญาตยังไม่พูดคุย เพราะเป็นเวลาที่ไม่เหมาะสม อย่างไรก็ตามรัฐบาลจะต้องขับเคลื่อนการแก้ไขน้ำท่วม อยากให้เขาได้มีสติและสมาธิ กลับไปทำงานแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้สมบูรณ์กว่านี้อย่างเต็มที่ รอฟังว่ากระบวนการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมจะคืบหน้าอย่างไร ค่อยมาคุยกันหลังจากนั้นรอลากขึ้นเขียงไม่มีข้ออ้างหนีตรวจสอบนายจุลพันธ์กล่าวต่อว่า ประเด็นการบริหารสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ของรัฐบาลจะนำไปอยู่ในเนื้อหาการอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย ถือเป็นการบริหารของรัฐบาล ที่ถือว่าเป็นข้อบกพร่องผิดพลาด เป็นเรื่องปกติ เมื่อถามว่าแกนนำพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่า หากพรรค พท.ยื่นซักฟอก เป็นเหตุให้รัฐบาลยุบสภา และไม่สามารถเยียวยาดูแลประชาชนที่ประสบผลกระทบจากน้ำท่วมได้ สาเหตุมาจากพรรค พท.ยื่นญัตติ นายจุลพันธ์กล่าวว่า หากเป็นนักการเมืองที่อยู่ในระบบประชาธิปไตย และมีประสบการณ์ทำงานด้านการบริหาร จะไม่พูดลักษณะนี้ออกมา เพราะไม่ใช่การโยนความผิดใส่คนอื่น เป็นความล้มเหลวของตัวเอง กระบวนการยื่นซักฟอกเป็นการตรวจสอบ ไม่มีเหตุใดๆที่รัฐบาลต้องยุบสภาเพื่อหนีการซักฟอก ฉะนั้น หากพรรค พท.ยื่น รัฐบาลมีหน้าที่ตอบเท่านั้น สภาฯมีหน้าที่ตัดสินใจรับรองให้ดำเนินการในฐานะภารกิจรัฐบาลต่อหรือไม่ เป็นไปตามกลไก ไม่มีเหตุใดที่จะมาอ้างและหนีกระบวนการตรวจสอบ คนที่พูดเช่นนั้นอาจไม่เข้าใจกลไกตามระบบประชาธิปไตยจึงได้พูดคำนี้ออกมา“อนุทิน” วางมาลากรมพระยาดำรงฯเมื่อเวลา 07.40 น. ที่กระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย เป็นประธานในพิธีวางพวงมาลาถวายสักการะพระอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรง ราชานุภาพ เนื่องในวันดำรงราชานุภาพ ประจำปี 2568 จากนั้นเวลา 08.00 น. เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลและประกาศเกียรติคุณ โครงการนายอำเภอแหวนเพชรและโครงการปลัดอำเภอแหวนทองคำ ประจำปี 2568 เพื่อเสริมสร้างขวัญกำลังใจและเชิดชูเกียรติ “นายอำเภอ” และ “ปลัดอำเภอ” โดยนายอนุทินกล่าวตอนหนึ่งว่า นายอำเภอและปลัดอำเภอเป็นกลไกหลักของการปฏิบัติงานตามปณิธาน บำบัดทุกข์บำรุงสุขของพระยาดำรงฯ รางวัลนี้คือสัญลักษณ์ของคุณค่า คุณงามความดีและความเข้มแข็งของผู้ปฏิบัติงาน ขอให้รักษาคุณงามความดี มีกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ และเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับข้าราชการ รวมถึงประชาชนทั่วไป ยึดมั่นความผาสุกของประชาชนเป็นเป้าหมายให้จัดอีเวนต์ลงพื้นที่ประสบภัยต่อมาเวลา 10.00 น. ที่ห้องรอยัล จูบิลี่ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี นายอนุทิน เป็นประธานงานมอบนโยบายการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2570 มี ครม. ผบ.เหล่าทัพ ปลัดกระทรวงและหัวหน้าส่วนราชการเข้าร่วม นายอนุทินกล่าวมอบนโยบายตอนหนึ่งว่า ได้ใช้เวลาช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาลงพื้นที่ต่างจังหวัด เพื่อหาความช่วยเหลือจังหวัดที่ประสบภัยพิบัติต่างๆ เช่น การเยียวยาจะขอให้หน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องดำเนินการโดยด่วนที่สุด ให้ความช่วยเหลือไปถึงมือประชาชนผู้ประสบความเดือดร้อนให้เร็วที่สุด ขอความร่วมมือให้ทุกท่านพิจารณาหากจะจัดประชุม งาน Event สัมมนา อบรม ปฐมนิเทศต่างๆขอให้เลือกจังหวัดที่เกิดภัยพิบัติเหล่านี้ เพื่อให้เม็ดเงินไหลเวียนเข้าสู่พื้นที่มากที่สุด เช่น อ.หาดใหญ่ ไม่ได้ตัดงบฯ การไปประชุมหรือดูงานสัมมนาภายในประเทศ แต่ขอให้เลือกไปช่วยเหลือจังหวัดที่โชคไม่ค่อยดีเหมือนจังหวัดอื่นๆ และประสบภัยพิบัติต่างๆ เหล่านี้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ ช่วยให้เขามีรายได้โอดอยากนามสกุล “หลีกภัย” แต่อ่วม 4 ภัยนายอนุทินกล่าวว่า “ปีนี้อาจต้องมุ่งเน้นเรื่องการแก้ปัญหา 4 ภัย อยากจะนามสกุลหลีกภัย แต่กลายเป็นนามสกุลเจอภัย เจอเข้าไป 4 ภัย คือ ภัยเศรษฐกิจ ความมั่นคง ภัยสังคมและภัยธรรมชาติ ช่วง 1 ปีนี้มีรัฐบาลก่อนหน้านี้ดูแลมาจนถึงเดือน ส.ค.ตั้งแต่เดือน ก.ย.ถึงปัจจุบัน เราพบภัยเศรษฐกิจ ตกต่ำทั่วโลก ถึงต้องเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ คงรู้สึกได้ว่าประชาชนพึงพอใจเชื่อมั่นและเราจะยังทำต่อไป และต้องทำเฟส 2 ให้ได้เพื่อให้ประชาชนมีขวัญกำลังใจ ภัยความมั่นคงเรามีปัญหาข้อพิพาทกับกัมพูชา เห็นถึงความเสียสละทุ่มเท อดทนอย่างยิ่งของคนไทย ความอดทนมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาปกป้องอธิปไตยของกองทัพ ตำรวจ ฝ่ายความมั่นคงและฝ่ายปกครอง ตนเข้ามาช่วงที่กำลังพีกพอดี ขาที่ 8 ต้องไม่มี ถ้ามีขาที่ 8 เราต้องแสดงความเป็นไทย ประเทศไทยไม่มีช้อยส์อื่นนอกจากชนะลูกเดียว ภัยสังคมสแกมเมอร์ ยาเสพติด สอดคล้องกัน รัฐบาลได้แสดงทีท่าให้เห็นชัดเจนว่ารัฐบาลนี้เป็นศัตรูตัวฉกาจของสแกมเมอร์ ยาเสพติด เจ้าของบ่อนการพนัน เจ้าของธุรกิจธุรกรรมผิดกฎหมาย ภัยธรรมชาติพายุน้ำท่วมจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ขอย้ำว่าเราต้องทำให้งบฯของประเทศปรับสอดรับกับสถานการณ์ประเทศและสถานการณ์ของโลกที่เปลี่ยนไป เป็นงบฯที่มีเป้าหมายเพื่อประชาชนเป็นสำคัญและเป็นลำดับแรกในปี 2570เล็งให้อำนาจ ผวจ.ประกาศภัยพิบัตินายอนุทินกล่าวอีกว่า ภัยธรรมชาติพายุน้ำท่วมจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ขอย้ำว่าเราจะต้องทำให้งบสอดรับกับสถานการณ์ ต้องทบทวนการพัฒนาหลายอย่าง พัฒนาความเจริญแต่จริงๆ แล้วทำลายตัวเองในอนาคต เช่น ที่ อ.หาดใหญ่ ทำถนนเยอะเพื่อขนส่งทางบกสะดวก แต่อาจไปทำลายเส้นทางน้ำกีดขวางทางเดินน้ำ ทำให้เกิดปัญหาขึ้นหลายจังหวัด ยามที่ไม่มีปัญหาพวกเราร้องหาถนน แต่เมื่อมีเหตุเกิดขึ้นวันนี้ทุกคนร้องหาคลองทางน้ำ แต่บางครั้งสายเกินไป มีความเสียหายเกิดขึ้น สิ้นเปลืองงบฯมาเยียวยาดูแลมหาศาล ตอนนี้ต้องให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการภัยพิบัติจากธรรมชาติ มีกฎหมายหลายอย่างต้องเร่งแก้ไข เรามีนโยบายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แต่คำว่าป้องกันไม่ใช่ซื้ออุปกรณ์อย่างเดียว กฎหมายวันนี้จังหวัดไม่สามารถประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยได้จนกว่าจะเกิดเหตุ ไม่ใช่ป้องกัน รัฐบาลต้องไปเร่งแก้ปัญหา อาจต้องเปลี่ยนกฎเกณฑ์หรือกฎระเบียบต่างๆ ที่จะทำให้ ผวจ.ประกาศเขตภัยพิบัติได้ก่อนจะเกิด เมื่อมีสัญญาณหรือข้อมูลเตือนล่วงหน้า ไม่ใช่รอให้เกิดความเสียหายแล้วจึงดำเนินการบอกยุบสภาฯอยู่ที่สถานการณ์ ต่อมาเวลา 16.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทินให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวยุบสภาฯวันที่ 12 ธ.ค. ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรว่า ยุบสภาฯอยู่ที่สถานการณ์การเมือง สภาฯชุดนี้ไม่เกินวันที่ 31 ม.ค.69 ที่มีกระแสข่าวว่าประสานกับพรรค พท.เรื่องการยุบสภาฯยังไม่มียังไม่ได้คุยกับผู้บริหารพรรคไหนเลย เราบริหารราชการโดยมีไทม์ไลน์ เรารักษาคำพูด ตั้งแต่เข้ามาเป็นรัฐบาลทำทุกอย่างตามเงื่อนไขเอ็มโอเอกับพรรค ปชน. ไม่อยากพูดคำว่า เอ็มโอเอเยอะเพราะเป็นเรื่องของ 2 พรรค วันนี้เป็นเรื่องของรัฐบาลและประเทศ ในการแถลงนโยบายบอกแล้วว่าวันที่ 31 ม.ค.69 จะยุบสภาฯ ตอนนี้มีสถานการณ์ต่างๆถ้าเป็นไปได้อยากขอให้พวกเราทุกคนไปช่วยประชาชน หายใจอีกแป๊บเดียวก็ยุบสภาฯแล้ว เมื่อถามว่าล่าสุดพรรค พท.แสดงท่าทีจะไม่ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจตอนนี้ นายอนุทินยิ้มก่อนกล่าวว่า ถ้ายุบสภาฯถ้าช่วงมีภัยพิบัติเรื่องฉุกเฉินต่างๆรัฐบาลจะทำงานช่วยเหลือประชาชนลำบาก แต่ถ้าเกิดมีความจำเป็นหากไม่มีทางเลือกมันก็ไม่มีทางเลือก เราต้องมีความพร้อมมั่นใจรัฐบาลทำทุกอย่างถูกทางเมื่อถามว่ากำลังใจตอนนี้เป็นอย่างไร มีกระแสดราม่ามาก นายอนุทินกล่าวว่า ผมไม่มีปัญหาอะไรกับกระแสดราม่าเลยแม้แต่น้อย ตนและ ครม.ยึดถือความทุกข์ของประชาชน เขาทุกข์ 1 เท่าพวกผมทุกข์ 10 เท่า เพราะเราต้องดูแลเขา ทั้งนี้ ไม่ได้ประเมินกระแสความนิยมพรรค ภท. ตนทำงานของตนทำงาน การเมืองมา 20 ปีไม่เคยประเมิน เวลาสื่อถามพูดเล่นๆว่าให้ 10 เต็ม 10 เพราะทำงานทุกวันจริงๆ คนประเมินคือประชาชน เมื่อถามว่าประชาชนอาจมองรัฐบาลติดลบแก้วิกฤติน้ำท่วม บั่นทอนหรือไม่ นายอนุทินส่ายศีรษะก่อนตอบว่า ไม่รู้สึก คนพูดเช่นนี้อาจติดตามข่าวสารที่ไม่ถูกต้อง พวกตนไปลุยน้ำเท่าอกเหมือนกัน ยังมีปัญหาผิวหนังอยู่เลย ถ้าจะพูดเรื่องน้ำที่หาดใหญ่ การช่วยเหลือประชาชนและมาตรการต่างๆรัฐบาลต้องมั่นใจว่ามาถูกทางและทำทุกอย่างที่ต้องทำ ไม่ได้คิดว่า ภท.มีบ้านใหญ่พื้นที่ภาคใต้เยอะ ไม่เช่นนั้นต้องไปถามว่าจะกาพรรคอะไรถึงช่วยมันไม่ใช่ เราไปทั้งหมดเพื่อเอาพวกเขาออกจากความทุกข์ พูดได้แค่นี้ ผลโพลล่าสุดภาคใต้ ภท.มาเป็นอันดับ 3 ตน 15% นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯมา 25% ตนมาจาก 0.2% ได้ 15% สาธุพร้อมยกมือท่วมหัว คะแนนพรรค ภท.ตกมาเหลือ 11% ก่อนหน้านี้เราเคยอยู่ 0.21% ก็ขอบคุณมากแล้วได้แค่นี้ดีใจตายแล้ว นายอภิสิทธิ์กลับมาเป็นหัวหน้าพรรค ปชป. ทำให้ตื่นตัวมีสีสันขึ้น แต่ไม่ได้มองท่านเป็นคู่แข่ง จ.สงขลา พรรค ภท.มี สส.คนเดียว ตราบใดที่ไม่เสียเขาไป ได้แค่นี้ก็ดีแล้ว“นิพิฏฐ์” ขย่ม “หนู” โยกผู้ว่าฯผิดพลาดนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต รมว.วัฒนธรรมและที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง “การย้ายข้าราชการอย่าให้ผิดอีก” ว่า การจัดข้าราชการลงตำแหน่งที่ จ.สงขลา มีความผิดพลาด เพราะย้ายเพื่อตอบสนองทางการเมือง มิได้ตอบสนองการทำงานให้แก่ประชาชน เช่น 1.ผวจ.สงขลา ภายใน 1 เดือน เป็น ผวจ. 3 จังหวัดจาก ผวจ.พัทลุง ไปเป็น ผวจ.กระบี่ ได้ไม่เกิน 15 วัน ย้ายไปเป็น ผวจ.สงขลา นายกฯต้องตอบ ว่าเป็นเพราะอะไร เพราะข้าราชการมิใช่ลูกจ้างของนายกฯ แต่เป็นลูกจ้างของประชาชน 2.อดีต ผวจ.สงขลา (นายโชตินรินทร์ เกิดสม) เป็น ผวจ.สงขลา ได้ 11 เดือน ถูกย้ายไปเป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย เติบโตมาจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เคยเป็นหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต ก่อนจะย้ายมาเติบโตในสายปกครอง จนเป็น ผวจ.สงขลา หากยังอยู่ช่วงน้ำท่วม น่าจะแก้ปัญหาได้ดีกว่านี้ ความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนก็น่าจะน้อยกว่านี้ฉะย้าย ขรก.สนองการเมืองผิดฝาผิดตัวนายนิพิฏฐ์ระบุว่า 3.หลังเหตุน้ำท่วมได้มีการย้ายนายอำเภอหาดใหญ่ไปช่วยราชการวิทยาลัยการปกครอง ต่อมากรมการปกครองทราบว่า นายอำเภอหาดใหญ่ ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลในความผิดอาญา ขณะดำรงตำแหน่งนายอำเภอหนองจิก จ.ปัตตานี กรมการปกครองจึงมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน นี่ถ้าน้ำไม่ท่วม กรมการปกครองคงจะไม่รู้ 4.หลังน้ำท่วม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งให้ย้ายผกก.หาดใหญ่ ไปปฏิบัติงานที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจ ภูธรสงขลา ทั้งหมดแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลส่งข้าราชการไปปฏิบัติงานใน อ.หาดใหญ่ ผิดฝาผิดตัว ไม่สามารถสนองตอบการแก้ปัญหาของประชาชนได้ เมื่อรัฐบาลย้ายข้าราชการโดยไร้เหตุผลเท่าที่ควร ย้ายเพื่อตอบสนองภารกิจส่วนตัวทางการเมือง มิได้ตอบสนองการแก้ปัญหาของประชาชน จึงเป็นอันตรายต่อการ บริหารราชการแผ่นดิน หลังจากนี้คอยดูว่ารัฐบาลจะยอมรับความผิดพลาดในการย้ายข้าราชการหรือไม่ตีตกรัฐสภาถกแก้ รธน.ล้มล้างปกครองวันเดียวกัน ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์มีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยในคดีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ (ผู้ร้อง) ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มากล่าวอ้างว่า ประธานรัฐสภา (ผู้ถูกร้องที่ 1)และสมาชิกรัฐสภา (ผู้ถูกร้องที่ 2) จัดให้มีการประชุมร่วมกันของรัฐสภาและลงมติร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมเป็นการแสดงความประสงค์จะจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยไม่ได้ร้องขอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) จัดให้มีการออกเสียงประชามติก่อนการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่มีบทบัญญัติว่าด้วยการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เพื่อให้ประชาชนได้แสดงความเห็นชอบว่าสมควรมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ ตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 18/2568 เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเห็นว่า การดำเนินการของผู้ถูกร้องทั้งสองตามคำร้องยังไม่ปรากฏข้อเท็จจริง ที่จะเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง“เอม-ปอ” เยี่ยม “ทักษิณ” ครบ 3 เดือนเมื่อเวลา 10.47 น. ที่เรือนจำกลางคลองเปรม น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือเอม บุตรสาวคนกลางและนายปิฎก สุขสวัสดิ์ หรือปอ สามีของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกฯ บุตรสาวคนเล็ก เป็นตัวแทนครอบครัวชินวัตรเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ทุกคนเดินทางมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ก่อนยกมือไหว้สื่อมวลชนและกลุ่มคนเสื้อแดงที่รอให้กำลังใจอยู่บริเวณด้านหน้าเรือนจำ พร้อมนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความประจำตัวนายทักษิณ ต่อมาเวลา 11.50 น. น.ส.พินทองทาเปิดเผยว่า วันนี้เป็นวันที่นายทักษิณอยู่ในเรือนจำครบ 3 เดือน ทุกอย่างยังเหมือนเดิม ขอขอบคุณประชาชน และผู้สนับสนุนที่ส่งกำลังใจมาให้ครอบครัวอย่างต่อเนื่อง วันนี้ได้นำหนังสือธรรมะ 2 เล่มมามอบให้คุณพ่อ เพื่อประกอบการปฏิบัติธรรมภายในเรือนจำด้วยด้านนายวิญญัติกล่าวว่า ไม่ได้เข้าไปพูดคุยกับนายทักษิณ ปล่อยให้สมาชิกครอบครัวใช้เวลาพบปะกันเต็มที่ ส่วนกรณีศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้แก้อุทธรณ์ในคดีมาตรา 112 ภายใน 15 วัน ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมไปจากที่เคยชี้แจงก่อนหน้าอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่