ซีอีโอ Alphabet ชี้ควอนตัมคอมพิวติ้งกำลังถึงจุดเปลี่ยนสำคัญ เทียบเท่าสถานะของ AI เมื่อ 5 ปีก่อน คาดอีก 5 ปีข้างหน้าก้าวสู่ ความก้าวหน้าระดับปฏิวัติทั่ววงการเทคฯซุนดาร์ พิชัย ซีอีโอของ อัลฟ่าเบท (Alphabet) บริษัทแม่ของกูเกิล (Google) ออกมาให้สัมภาษณ์กับรายการ BBC Newsnight ว่าเทคโนโลยีควอนตัมคอมพิวติ้ง ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ยุคใหม่ที่ใช้หลักฟิสิกส์ ควอนตัมมาคำนวณ ทำให้แก้ปัญหาที่คอมพิวเตอร์ปัจจุบันทำได้ช้ามาก จะ มีความเร็วขึ้นแบบก้าวกระโดด ในปัจจุบันอยู่ในจุดเดียวกับที่ปัญญาประดิษฐ์หรือ AI เคยอยู่เมื่อประมาณ 5 ปีก่อน และคาดการณ์ว่าอีก 5 ปีข้างหน้าจะเห็นความก้าวหน้าที่น่าตื่นเต้นมากในสาขานี้พิชัยกล่าวว่า ควอนตัมคอมพิวติ้งไม่ใช่เพียงการพัฒนาเทคโนโลยีแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่เป็น “ก้าวกระโดดระดับรากฐาน” ที่จะเปลี่ยนแปลงวิธีการคำนวณและประมวลผลข้อมูลโดยสิ้นเชิง โดยระบุว่า “เรามีโปรแกรมควอนตัมที่ล้ำหน้าที่สุดในโลก การสร้างระบบควอนตัมจะช่วยให้เราจำลองและเข้าใจธรรมชาติได้ลึกซึ้งขึ้น และนำไปสู่ประโยชน์มากมายต่อสังคม”คำกล่าวของพิชัยในครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่ผู้นำบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ออกมาระบุไทม์ไลน์ที่ชัดเจนสำหรับเทคโนโลยี ควอนตัม ซึ่งหากย้อนกลับไปดูในปี 2019-2020 ขณะที่ AI อยู่ในจุดนั้น ยังไม่มีใครคาดคิดว่าเพียง 3-4 ปีต่อมา ChatGPT จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบันAlphabet เป็นหนึ่งในผู้นำด้านการวิจัยควอนตัมคอมพิวติ้ง โดยมีโปรเจกต์ Google Quantum AI ที่พัฒนาชิปควอนตัมและอัลกอริทึมมาอย่างต่อเนื่อง บริษัทมีงบประมาณด้านการวิจัยและพัฒนาปีละกว่า 90,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเกือบ 3 ล้านล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งถูกใช้ในการพัฒนาเทคโนโลยีควอนตัมในระดับลึกนอกจาก Alphabet แล้ว ยังมีผู้เล่นรายสำคัญในตลาดควอนตัมคอมพิวติ้ง อาทิ ไอบีเอ็ม (IBM) ที่มีโรดแม็ปและพันธมิตรเชิงพาณิชย์ที่ชัดเจน, ไอออนคิว (IonQ) ผู้เชี่ยวชาญฮาร์ดแวร์ควอนตัมที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นแล้ว, ดี-เวฟ ควอนตัม (D-Wave Quantum) ที่เน้นการใช้งานเชิงพาณิชย์กับองค์กร, ริเก็ตติ คอมพิวติ้ง (Rigetti Computing) ที่มุ่งเน้นควอนตัมโปรเซสเซอร์แบบ Superconducting และฮันนี่เวล (Honeywell) ที่ถือหุ้นใน Quantinuum บริษัทควอนตัมชั้นนำนักวิเคราะห์มองว่า คำกล่าวของพิชัยสะท้อนให้เห็นว่าควอนตัมคอมพิวติ้งไม่ใช่เทคโนโลยีที่ห่างไกลอีกต่อไป และอาจกลายเป็นคลื่นใหญ่ลูกถัดไปของวงการเทคโนโลยีหลังจาก AI ในอนาคตอันใกล้.คลิกอ่านคอลัมน์ “บทความไซเบอร์เน็ต” เพิ่มเติม