แม้จะมีอุปสรรคทางเศรษฐกิจ เช่น การบริโภคภายในประเทศที่ซบเซาและภาระหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง แต่การเติบโตของอีคอมเมิร์ซ เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจดิจิทัลไทย อีคอมเมิร์ซไทยเติบโตเร็วที่สุดในภูมิภาค คาดแตะ 33,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2568 เติบโต 22% จากปีก่อนหน้า โดยการเติบโตหลักมาจากความนิยมในวิดีโอคอมเมิร์ซ มีผู้ขายสินค้าผ่านวิดีโอ 850,000 ราย พุ่งสูงขึ้น 175% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ไทย เป็นตลาดที่มีจำนวนผู้ขายสินค้าผ่านวิดีโอที่ใหญ่และเติบโตเร็วที่สุดในอาเซียนราฟาเอล ซิสโลว์สกี Country Manager กูเกิล ประเทศไทย กล่าวว่า อีคอมเมิร์ซของไทยมีการเติบโตที่เร็วที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขณะที่ตลาดวิดีโอคอมเมิร์ซใหญ่เป็นอันดับ 2 ของภูมิภาค รองจากอินโดนีเซียด้านการท่องเที่ยวออนไลน์คาดว่าจะโต 6% มูลค่ารวม 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยไทยยังคงเป็นหนึ่งในตลาดการท่องเที่ยวออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดึงดูดใจจากการขยายโครงการยกเว้นวีซ่าให้ครอบคลุม 93 ประเทศโดยอนุญาตให้พำนักได้สูงสุด 60 วันขณะที่บริการการเงินดิจิทัล (Digital Financial Services หรือ DFS) ยังเติบโตรวดเร็ว ได้แรงหนุนจากความมั่งคั่งทางดิจิทัล (Digital Wealth) ซึ่งคาดการณ์ว่าจะขยายตัว 29% และมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (Assets under management หรือ AUM) ที่ 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เช่นเดียวกับสื่อออนไลน์ ซึ่งได้แก่ วิดีโอออนดีมานด์ เพลงออนดีมานด์ เกม และโฆษณา ยังโตต่อเนื่องอยู่ที่ 8% คาดมูลค่าแตะ 7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนการขนส่งและบริการส่งอาหารออนไลน์ โตขึ้น 15% จากปีที่ผ่านมา คาดว่าจะมีมูลค่า 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2568“ประเทศไทยได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในการเป็นกลไกขับเคลื่อนการเติบโตของอีคอมเมิร์ซและวิดีโอคอมเมิร์ซของภูมิภาคนี้ ในขณะเดียวกันก็กำลังวางรากฐานสำหรับทศวรรษหน้า การดำเนินกลยุทธ์การพัฒนาบุคลากรระดับประเทศของรัฐบาล เพื่อยกระดับทักษะแรงงานไทยในด้านความสามารถทางดิจิทัลและ AI ผ่านโครงการต่างๆ รวมทั้งมีการนำ AI มาใช้อย่างรวดเร็ว”.คลิกอ่านคอลัมน์ “บทความไซเบอร์เน็ต” เพิ่มเติม