การทางพิเศษแห่งประเทศไทยมอบของขวัญปีใหม่ จัดแคมเปญคืนค่าผ่านทาง Easy Pass 50% วันที่ 6 มกราคม 2569 เฉลิมฉลองครบรอบ 53 ปี พร้อมประกาศทิศทางการพัฒนาระบบทางพิเศษ มุ่งยกระดับการให้บริการรองรับอนาคตการเดินทางของประเทศ เตรียมพัฒนา โครงสร้างพื้นฐานสำหรับยานยนต์ไร้คนขับ พร้อมเพิ่มช่องทางชำระค่าผ่านทางอัตโนมัติให้ได้ 70% ภายในปี 2570เมื่อวันที่ 27 พ.ย. การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) จัดงานวันคล้ายวันก่อตั้งการทางพิเศษฯ ครบรอบ 53 ปี นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย ประธานกรรมการ กทพ. กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 53 ปีที่ผ่านมา กทพ. ปฏิบัติภารกิจสำคัญในการพัฒนาโครงข่ายทางพิเศษ อำนวยความสะดวกในการเดินทางให้กับพี่น้องประชาชน แก้ไขปัญหาการจราจรในเขตกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล รวมถึงการขยายโครงข่ายไปยังภูมิภาคต่างๆ เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ พร้อมสนับสนุน กทพ.ในการผลักดันการดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา เพื่อให้โครงข่ายคมนาคมสมบูรณ์และตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนได้อย่างแท้จริง นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการ กทพ. กล่าวว่า การครบรอบ 53 ปี คือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคทางพิเศษอัจฉริยะ กทพ.มุ่งพัฒนาระบบรองรับยานยนต์ไร้คนขับและปรับลดช่องเงินสดให้เหลือเท่าที่จำเป็น โดยเพิ่มช่องทางชำระค่าผ่านทางอัตโนมัติ Easy Pass (อีซี่พาส) ให้ได้ 70% เพื่อความสะดวก รวดเร็วและลดความแออัดบริเวณหน้าด่าน สำหรับผู้ใช้ทางพิเศษทั่วทุกสายทาง สร้างประสบการณ์เดินทางที่รวดเร็วและปลอดภัยยิ่งขึ้น พร้อมเดินหน้าเร่งก่อสร้างโครงการทางพิเศษบนถนนพระราม 2 และพัฒนาโครงการทางพิเศษข่ายในส่วนภูมิภาค เพื่อให้ประชาชนและผู้ใช้ทางพิเศษได้รับประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม ในโอกาสครบรอบ 53 ปี กทพ.ขอมอบสิทธิประโยชน์แก่ผู้ใช้บริการกับแคมเปญพิเศษ เป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน ด้วยการคืนค่าผ่านทาง 50% สำหรับผู้ใช้ Easy Pass เท่านั้น ในวันที่ 6 ม.ค. 2569 เวลา 00.01-23.59 น. ครอบคลุมทางพิเศษทั้ง 7 สายทางของ กทพ. โดยระบบจะคืนเงินให้แบบ real-time พร้อมแจ้งเตือนผ่าน App. Exat Portal สำหรับผู้ที่ผูกบัญชีไว้ สามารถตรวจสอบยอดการเติมเงินผ่าน Mobile Application และ www.ThaiEasyPass.com ได้ทันทีผู้ว่าการ กทพ. กล่าวต่อไปว่า ด้านความคืบหน้าของโครงการก่อสร้าง กทพ. เร่งรัดการก่อสร้างโครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก มีความ ก้าวหน้าของการดำเนินงาน ณ สิ้นเดือน ต.ค. 2568 อยู่ที่ร้อยละ 92.13 คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2569 กทพ.ให้ความสำคัญตั้งแต่ขั้นตอนของการออกแบบ นอกจากจะให้เป็นไปตามหลักวิศวกรรมและความปลอดภัย ยังมีการบูรณาการกับกรมทางหลวงเพื่อให้เป็นรูปแบบเดียวกันและเป็นทางเชื่อมต่อระหว่างทางพิเศษของ กทพ. กับทางยกระดับของกรมทางหลวงได้อย่างไร้รอยต่อ ขณะเดียวกัน กทพ.พร้อมเดินหน้าโครงการก่อสร้างทางพิเศษสายสำคัญในภูมิภาคได้แก่ โครงการทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง จ.ภูเก็ต ดำเนินงาน 2 ระยะ เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาการจราจร ลดอุบัติเหตุ ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของ จ.ภูเก็ต ให้ทันสมัยและปลอดภัยมากยิ่งขึ้นนายสุรเชษฐ์กล่าวอีกว่า โครงการทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง ระยะที่ 1 ก่อสร้างเป็นทางยกระดับขนาด 4 ช่องจราจรต่อทิศทาง ระยะทาง 3.98 กม. มี อุโมงค์อยู่ในช่วงกลางของแนวสายทาง 1.85 กม. ปัจจุบันอยู่ระหว่างการคัดเลือกผู้รับจ้าง คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในปี 2573 ในส่วนระยะที่ 2 ช่วงเมืองใหม่-เกาะแก้ว-กะทู้ ระยะทาง 30.62 กม. คาดว่าจะนำเสนอ ครม. เพื่ออนุมัติภายในปี 2569 หากโครงการทั้ง 2 ระยะแล้วเสร็จสมบูรณ์ จะเป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักที่ช่วยลดเวลาเดินทางและเพิ่มศักยภาพเศรษฐกิจในพื้นที่ภาคใต้ตอนบนได้ นอกจากนี้จะเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมดิจิทัลและยกระดับโครงข่ายทางพิเศษอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการเดินทางอย่างปลอดภัย คล่องตัวและยั่งยืนสำหรับประชาชนทั่วประเทศอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่