พรรคประชาชนคิกออฟ “รีชาร์จประชาชน” “วิโรจน์” อุบไต๋ 3 แคนดิเดตนายกฯ บอก 23 พ.ย. รู้แน่ “โรม” ประกาศถ้าจัดตั้งรัฐบาลได้ จะเร่งปราบแก๊งสแกมเมอร์ทุกมิติ “อนุทิน” มอบ 6 นโยบายขับเคลื่อนท้องถิ่น จี้ฝ่ายปกครองดูแลประชาชนใช้สิทธิ์คนละครึ่งพลัสให้ทั่วถึง พท.โวย มท.1 สั่ง สถ.แทรกแซงงบท้องถิ่น ขัด พ.ร.บ.งบประมาณ ย้ายบิ๊ก ขรก.เอี่ยวคดีสำคัญ โยงหวังกุมอำนาจจัดเลือกตั้งเบ็ดเสร็จ “ลิซ่า” จี้ดีอีสอบคลิปเสียง“ชายปริศนา” สั่งลูกน้องปั่นยอดเว็บพนัน วางสเปก กมธ.ยกร่าง รธน.เข้มข้น ห้ามคนถูกตัดสิทธิมาเป็น กมธ.-ห้ามยุ่งการเมือง 3 ปีพรรคประชาชนคิกออฟแคมเปญ “รีชาร์จประชาชน-วาระประเทศไทย ความมั่นคงใหม่ เศรษฐกิจใหม่ บริหารประเทศแบบใหม่ ไทยทันโลก” ขณะที่นายรังสิมันต์ โรม รองหัวหน้าพรรค ปชน. ประกาศถ้าได้ตั้งรัฐบาล จะเร่งแก้ไขปัญหาสแกมเมอร์ในทุกมิติ ทั้งมิตินานาชาติ มิติชายแดน และมิติภายในประเทศปชน.คิกออฟ “รีชาร์จประชาชน”เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 พ.ย.ที่พรรคประชาชน (ปชน.) มีการจัดกิจกรรม “รีชาร์จประชาชน” ภายใต้คอนเซปต์ “วาระประเทศไทย ความมั่นคงใหม่ เศรษฐกิจใหม่ บริหารประเทศแบบใหม่ ไทยทันโลก” ตั้งแต่ช่วงเช้า มี สส. พร้อมด้วยบรรดาแกนนำพรรคเข้าร่วมงานคึกคัก นำโดยนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค ปชน. มีการจัดเวทีเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นหลายประเด็น เช่น นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค ปชน. พูดเรื่องนโยบายด้านความมั่นคง หัวข้อ “เอาจริง! มาตรการจัดการทุนเทายึดประเทศ” นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร เสวนาในหัวข้อ “ความมั่นคงและการต่างประเทศในยุคโลกล้อมไทย”อุบไต๋ 3 แคนดิเดตนายกฯ 23 พ.ย.รู้นายวิโรจน์ให้สัมภาษณ์ถึงการเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรค ปชน.ในวันที่ 23 พ.ย. นอกจากนายณัฐพงษ์ หัวหน้าพรรค ปชน. อีก 2 คนที่เหลือใช่ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค ปชน. และนายวีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร รองหัวหน้าพรรค ปชน. หรือไม่ ว่า ขอให้รอพรุ่งนี้ จะถามอีก 10 ครั้ง ก็ตอบแบบนี้ ให้รอพรุ่งนี้ รู้แน่ ขั้นตอนกระบวนการคัดสรรเรียบร้อยแล้ว เมื่อถามว่าคดี 44 สส.ที่ค้างอยู่ใน ป.ป.ช. กระทบกับแคนดิเดตนายกฯของพรรคหรือไม่ นายวิโรจน์ตอบว่า พวกเราทำโดยสุจริต ยื่นแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 เราแจ้งกับ ป.ป.ช. ว่าเราดำเนินการโดยสุจริต ใช้ฝ่ายนิติบัญญัติโดยชอบ จึงไม่กังวลในเรื่องนี้“วิโรจน์” แนะออก พ.ร.ก.ไซเบอร์ฉบับ 2นายวิโรจน์กล่าวในหัวข้อ “สแกมเมอร์ 101 จากเงินที่รอคุณยายสู่ความวอดวายระดับประเทศ” ว่า กัมพูชามีเครือข่ายสแกมเมอร์เกือบ 60 แห่ง มูลค่าเงินต่อปี 125,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไทยต้องสูญเสีย 115,300 ล้านบาทต่อปี เงินส่วนนี้กระทบเศรษฐกิจไทย หากปล่อยให้มีการหลอกเงินต่อไป ธุรกิจสุจริตในไทยต้องปิดตัวลง พนักงานคอลเซ็นเตอร์ตัวจริงพังไปด้วย ปั่นราคาอสังหาริมทรัพย์ มีการทำทัวร์ศูนย์เหรียญ เกิดพนันออนไลน์ เรื่องนี้ไม่ใช่แค่การหลอกเงินคุณยาย แต่ทำให้ธุรกิจสุจริตในไทยวอดวายทั้งประเทศ และไทยอาจถูกจัดให้เป็นประเทศสีเทาเข้าสักวัน หากถึงวันนั้นภาคการเงินการธนาคารเราพังทันที ไม่มีใครอยากมาลงทุน ถ้าเปรียบกัมพูชาคือโจรที่ออกไปปล้นเงิน เราคือคู่สมรสของโจร มีหน้าที่ซ่อนเงินให้โจร ทางแก้ต้องมี พ.ร.ก.ไซเบอร์ฉบับที่ 2 มาตรา 8/10 วางกรอบให้สถาบันการเงินต้องร่วมรับผิดชอบกับประชาชนผู้เสียหายด้วย แต่ผู้ว่าการ ธปท. ประธาน กสทช. เลขาฯ ก.ล.ต. ทำไม่ได้สักทีใช้เวที IMF ทำลายล้างให้สิ้นซากนายวิโรจน์กล่าวว่า DBD (กรมพัฒนาธุรกิจการค้า) DOI (เครื่องหมายรับรองการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์) และกรมสรรพากร ต้องร่วมมือกันปราบนอมินีและธุรกิจศูนย์เหรียญ ที่ไม่เสียภาษี บช.สอท., บก.ปอท., ปปง. และ ป.ป.ช. ต้องร่วมมือต่างประเทศขยายผลจับกุมตัวใหญ่ให้ได้ ก.ล.ต., ปปง., คปภ. และกรมการปกครอง ต้องทำให้กลุ่มลงทุนไม่สามารถปิดบังตัวตนผู้รับผลประโยชน์ที่แท้จริงได้ ต้องเปิดเผยตัวตนที่มาของเงินในทุกช่องทาง ฝากกระทรวงการต่างประเทศจัดให้กัมพูชาอยู่ในประเทศสีเทาให้ได้ แต่เราก็ต้องบริสุทธิ์ด้วย ช่วงเดือน ต.ค.2569 ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม IMF และกลุ่มธนาคารโลก หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะเป็นแกนนำที่พร้อมให้ความร่วมมือกับโลก ทำลายกระบวนการสแกมเมอร์ในภูมิภาคอาเซียนให้สิ้นซาก“โรม” ลั่นเป็น รบ.ปราบสแกมเมอร์นายรังสิมันต์ โรม รองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงการเดินหน้าทำนโยบายด้านความมั่นคงว่า มี 2 ระยะ คือ ระยะเฉพาะหน้า ต้องแก้ไขปัญหาให้เกิดผลในทางปฏิบัติอย่างเร่งด่วน ทั้งการตรวจสอบเส้นทางการเงินคริปโตเคอเรนซีว่าเป็นของใคร ระยะที่ 2 คือ ระยะสั้น ทำลายโครงสร้างองค์กรอาชญากรรม หลังจากส่งรายชื่อบุคคล และหน่วยงานที่ปรากฏในร่างกฎหมายของสภาคองเกรส สหรัฐฯ ให้หน่วยงานตรวจสอบติดตาม หวังว่ารายชื่อดังกล่าวจะเป็นกลุ่มคนเป้าหมายที่รัฐบาลต้องดำเนินการ กมธ.ความมั่นคงฯจะติดตามเรื่องนี้เพิ่มเติม เน้นเป้าหมายที่ฮุยวันกรุ๊ป ที่มีความเชื่อมโยงกับฮุน โต ลูกพี่ลูกน้องนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และต้องติดตามความคืบหน้าของ MOU กับกระทรวงดิจิทัลและเศรษฐกิจเพื่อสังคม (ดีอี) กับบริษัทแห่งหนึ่ง ที่สงสัยว่าอาจมีการนำเข้าแก๊งสแกมเมอร์ 500 คน ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร หากมีการเลือกตั้ง และตั้งรัฐบาลได้ ก็พร้อมแก้ไขปัญหาสแกมเมอร์ในทุกมิติ ทั้งมิตินานาชาติ มิติชายแดน และมิติภายในประเทศยกยอดฉัตรทองคำธาตุแก่นนครฯต่อมาเวลา 09.13 น. ที่วัดหนองแวง พระอารามหลวง จ.ขอนแก่น นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและ รมว.มหาดไทย พร้อม น.ส.ธนนนท์ นิรามิษ ภริยา และคณะ ร่วมพิธียกยอดฉัตรทองคำ พระมหาธาตุแก่นนครอนุสรณ์สาธุชน โดยมีสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ กรรมการมหาเถรสมาคม และเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช เป็นองค์ประธานฝ่ายสงฆ์ และสมโภชสัญญาบัตรพัดยศ พระครูสัญญาบัตรผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหนองแวง ทั้งนี้นายอนุทินร่วมผูกผ้ามงคล และประกอบพิธียกยอดฉัตรทองคำ มีพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ 10 รูป เจริญชัยมงคลคาถา ท่ามกลางประชาชน พุทธศาสนิกชนมาร่วมพิธีจำนวนมากมอบ 6 นโยบายขับเคลื่อนท้องถิ่นจากนั้นนายอนุทินเดินทางไปยังศูนย์การประชุมและแสดงสินค้านานาชาติไคซ์ ขอนแก่น อ.เมืองขอนแก่น กล่าวมอบนโยบายแก่หัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สารวัตร ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่นว่า แม้รัฐบาลชุดนี้มีเวลาไม่นาน หากจะอยู่เฉยๆ ไม่ทำอะไรไปรอเลือกตั้งอย่างเดียวก็คงไม่ได้ เราจึงมีนโยบาย Quick big win ทำให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนมากที่สุด รัฐบาลมี 6 นโยบายขับเคลื่อน ประกอบด้วย 1.การจัดระเบียบสังคมและปราบปรามผู้มีอิทธิพล 2.แก้ไขปัญหายาเสพติด 3.การสร้างอาชีพและรายได้ให้ประชาชน พัฒนาคุณภาพชีวิต 4.ส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน 5.เน้นให้ชุมชนมีน้ำดื่มสะอาด น้ำประปาหมู่บ้าน และไฟฟ้าใช้อย่างทั่วถึง และ 6.โครงการคนละครึ่งพลัส ที่ทำให้เกิดการหมุนเวียนของเม็ดเงินและกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น การทำเฟส 1 ยังเหลือเงินอยู่ 4-5 พันล้านบาท กำลังจะทำเฟส 2 ก็พยายามหาแหล่งเงิน ฝ่ายปกครองต้องเร่งรัดให้ประชาชนเข้าถึงสิทธิ์ได้อย่างเต็มที่และทั่วถึง อำนวยความสะดวกประชาชนและร้านค้าพื้นที่ห่างไกลลงทะเบียนพท.โวย มท.1 แทรกแซงงบท้องถิ่นที่พรรคเพื่อไทย นายพัฒนา สัพโส สส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย แถลงว่า ตั้งข้อสังเกตต่อพฤติการบางอย่างของ รมว.มหาดไทย เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการงบประมาณภาครัฐ อาจเข้าข่ายขัด พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณมาตรา 29 หลังกรมส่งเสริมปกครองท้องถิ่น (สถ.) ทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดของบประมาณอุดหนุนเฉพาะกิจปี 2570 ให้จัดตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองระดับจังหวัด ผ่าน สถ. อาจขัดต่อบทบัญญัติของกฎหมาย ในการทำคำขอดังกล่าว เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่เพราะกฎหมายไม่ได้ให้อำนาจคณะกรรมการชุดนี้ในการตัดหรือเพิ่ม เพราะถ้าตัดหรือเพิ่มจะถือเป็นการแทรกแซงหน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย และ รมว.มหาดไทยควบตำแหน่งนายกฯ และประธานกรรมการกระจายอำนาจ การบริหารราชการแผ่นดินแบบนี้ มองเป็นเจตนาอื่นไม่ได้ นายกฯไม่เชื่อการกระจายอำนาจ ถึงให้ สถ. เข้ามาแทรกแซงการทำคำของบประมาณจับตาย้ายบิ๊ก ขรก.เอี่ยวคดีสำคัญนายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากการติดตามการทำงานของรัฐบาล หลังเข้ามาทำงาน 1 เดือน มีการโยกย้ายข้าราชการระดับสูงไปแล้ว 98 ตำแหน่ง จนถึงขณะนี้ 2 เดือนเศษ มีการโยกย้ายไปแล้ว 122 ตำแหน่ง คิดว่าสิ้นเดือน ธ.ค.น่าจะทะลุ 300 ตำแหน่ง เฉพาะกระทรวงมหาดไทยมีการโยกย้ายไปแล้ว 49 ตำแหน่ง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 13 ตำแหน่ง สำนักนายกรัฐมนตรี 12 ตำแหน่ง มีหลายตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับคดีสำคัญ เช่น คดีที่ดินเขากระโดง มีการปรับตำแหน่งสำคัญเลขาธิการสำนักทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) หรืออธิบดีกรมที่ดิน ไม่ทราบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีสำคัญหรือไม่ ขอให้ช่วยกันจับตาการแต่งตั้งโยกย้าย ดำเนินการตามกฎหมายและระเบียบหรือไม่หวังปูทางกุมอำนาจจัดการเลือกตั้งนายศึกษิษฏ์กล่าวว่า การแต่งตั้งโยกย้ายและการจัดการงบประมาณภาครัฐมีความเกี่ยวเนื่องกันชัดเจน เป็นการปูทางอำนวยความสะดวกในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นหรือไม่ นายกฯพูดว่าพร้อมแล้วจะยุบสภา เพราะเตรียม 2 เรื่องนี้ไว้แล้วใช่หรือไม่ หากยืนยันว่าที่ผ่านมาบริหารราชการแผ่นดินถูกต้อง ก็อย่าหนีการตรวจสอบ ที่บอกว่าเพิ่งเข้ามาได้เดี๋ยวเดียวจะทำอะไรผิดได้ พรรคเพื่อไทยขอเห็นต่างเพราะความเสียหายเกิดขึ้นแล้ว เป็นความเสียหายจำนวนมาก การตรวจสอบรัฐบาลเป็นหน้าที่ของฝ่ายค้าน พรรคเพื่อไทยไม่เคยไปบังคับให้ใครมาร่วมอภิปรายด้วย ทุกพรรคมีสิทธิ์โหวตอย่างไรก็ได้ แต่อย่าหนีความรับผิดชอบ สำหรับพรรคเพื่อไทยเราเตรียมความพร้อมรับเลือกตั้งหลายด้าน มีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครไปแล้วกว่า 250 เขต จะทยอยเปิดตัวเรื่อยๆ แสดงได้ชัดว่าพรรคเพื่อไทยยังเป็นสถาบันทางการเมืองที่เข้มแข็ง มีบุคลากรจำนวนมากต้องการมาร่วมงานด้วย เร็วๆนี้จะมีงานเปิดตัวครอบครัวเพื่อไทย รอบนี้จะจัดเต็มองคาพยพ“ลิซ่า” จี้ดีอีสอบคลิปปั่นยอดเว็บพนันอีกเรื่อง น.ส.ภคมน หนุนอนันต์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน. โพสต์เฟซบุ๊กเป็นคลิปเสียงของผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังกล่าวตำหนิลูกน้องฝ่ายการตลาด และแอดมินที่หลับในเวลาทำงาน ทำให้ลูกค้าตกเยอะมาก ให้หาลูกค้าไปเติมที่เว็บพนัน “UFAZEED” น.ส.ภคมนโพสต์ข้อความประกอบคลิปดังกล่าวว่า “เรียกร้องให้นายไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ตรวจสอบโดยด่วนว่าคลิปเสียงนี้เป็นของใคร แม้คนไทยทั้งประเทศที่ได้ยินแล้วจะรู้แล้วว่าเป็นเสียงใคร เว็บที่พูดถึงเป็นเว็บใคร จดโดเมนที่ไหน จดโดยใคร สาวให้ถึงตอ โชว์ฝีมือหน่อย เชื่อว่ากระทรวงดีอีมีศักยภาพ อยู่ที่ว่าเจ้ากระทรวงจะทำหรือไม่ ช่วยเป็นเดือดเป็นร้อนแบบวันที่ลุกขึ้นต่อต้านเอากาสิโนกลางสภาหน่อย วันนี้มีอำนาจคุมกระทรวงดีอีด้วย ความชัดเจนเรื่องนี้ควรกระจ่างภายใน 3 วัน “ต้องเร่งทำยอดหรือเปล่า ช่วงนี้น้ำท่วม จะได้แจกให้ถล่มทลายไปเลย โปรยเศษเงินเทาบรรเทาความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน วิถีเครื่องฟอกชัดๆ กระแสสังคมแรงแค่ไหน ไม่สนใจ พี่เคลียร์ได้ พี่เคลียร์มาตลอด พี่รอดเสมอ เงินพี่มันใหญ่พอจะซื้อทุกหน่วยได้”วางสเปก กมธ.ยกร่าง รธน.เข้มข้นน.ส.พนิดา มงคลสวัสดิ์ สส.สมุทรปราการ พรรคประชาชน โฆษกกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม รัฐสภา กล่าวว่า กมธ.ได้ข้อสรุปคุณสมบัติผู้ดำรงตำแหน่ง กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญแล้ว ตั้งเกณฑ์ไว้สูงพอสมควร เน้นผู้ยกร่างต้องมีความรู้ความเข้าใจด้านกฎหมาย บริบทการเมืองและสังคม คุณสมบัติคือ จบไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่า อายุไม่ต่ำกว่า 25 ปี มีสัญชาติไทยโดยการเกิด และมีคุณสมบัติอย่างใดอย่างหนึ่งดังนี้ 1.เคยเป็นผู้สอนสาขานิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ รัฐประศาสนศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ และสังคมศาสตร์ ไม่น้อยกว่า 5 ปี 2.รับราชการหรือเคยรับราชการไม่น้อยกว่า 3 ปี ตำแหน่งไม่ต่ำกว่าผู้พิพากษาศาลชั้นต้นหรือเทียบเท่า 3.รับราชการหรือเคยรับราชการไม่น้อยกว่า 3 ปี ตำแหน่งอัยการประจำกองหรือเทียบเท่า 4.รับราชการหรือเคยรับราชการไม่น้อยกว่า 3 ปี ตำแหน่งไม่ต่ำกว่าข้าราชการพลเรือนระดับ 8 หรือข้าราชการพลเรือนประเภทวิชาการ ระดับชำนาญการพิเศษ ประเภทอำนวยการ หรือประเภทบริหาร หรือปฏิบัติงานหรือเคยปฏิบัติงานไม่น้อยกว่า 3 ปี ตำแหน่งเทียบเท่าในหน่วยงานรัฐองค์การมหาชน รัฐวิสาหกิจ 5.เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี สส. สว. ผู้ว่าฯ กทม. นายกเมืองพัทยา นายก อบจ. นายก เทศมนตรี ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หรือผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ แต่พ้นจากตำแหน่งดังกล่าวไม่น้อยกว่า 5 ปี ก่อนวันสมัครรับเลือกตั้ง 6.ทำงานหรือเคยทำงานในภาคประชาสังคมไม่น้อยกว่า 5 ปีห้ามคนถูกตัดสิทธิมาเป็น กมธ.น.ส.พนิดากล่าวว่า ส่วนคุณสมบัติต้องห้าม อาทิ 1.เคยถูกเพิกถอนหรืออยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ไม่ว่าคดีนั้นจะถึงที่สุดแล้วหรือไม่ 2.เคยถูกเพิกถอนหรืออยู่ในระหว่างถูกระงับการใช้สิทธิรับเลือกตั้งเป็นการชั่วคราว หรือถูกเพิกถอนสิทธิที่สมัครรับเลือกตั้ง 3.เคยถูกสั่งให้พ้นจากราชการ หน่วยงานรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ เพราะทุจริตต่อหน้าที่ 4.เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งศาลอันถึงที่สุด ให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพราะร่ำรวยผิดปกติ หรือกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 5.เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐความผิดว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน กฎหมายว่าด้วยยาเสพติด กฎหมายว่าด้วยการพนันในความผิดฐานเป็นเจ้ามือหรือเจ้าสำนัก กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในความผิดฐานฟอกเงิน 6.เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำการอันเป็นการทุจริตในการเลือกตั้งหลังยกร่างฯห้ามยุ่งการเมือง 3 ปีน.ส.พนิดากล่าวต่อว่า ส่วนคุณสมบัติต้องห้ามอื่นๆ ได้แก่ 1.ติดยาเสพติดให้โทษ 2.เป็นภิกษุ สามเณร นักบวช 3.วิกลจริต หรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ 4.ต้องคำพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล 5.เป็นรัฐมนตรี สส. สว. ผู้บริหารท้องถิ่นหรือสมาชิกสภาท้องถิ่น 6.เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หรือผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ 7.เป็นผู้สมัครรับเลือก กมธ.รับฟังความคิดเห็น นอกจากนี้ ยังห้าม กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญดำรงตำแหน่งทางการเมืองภายใน 3 ปี นับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่ง กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อประโยชน์แห่งการขจัดส่วนได้เสีย ส่วนคุณสมบัติของผู้ที่จะดำรงตำแหน่งเป็น กมธ.รับฟังความคิดเห็น เกณฑ์จะกว้างมาก คือต้องมีสัญชาติไทยโดยการเกิด และมีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี ส่วนลักษณะต้องห้าม มีลักษณะใกล้เคียงกับของ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ อย่างที่ได้กล่าวไปแล้ว และต้องไม่เป็นผู้ลงสมัคร กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่