สาดความหวานละมุนปนแซ่บส่งท้ายปี พลอยชมพู หรือ ญานนีน ภารวี ไวเกล นักร้อง-นักแสดงลูกครึ่งไทย-เยอรมัน ถึงขั้นเปลี่ยนลุคด้วยการหั่นผมสั้น สร้างแพชชันใหม่ๆให้ชีวิต ไหนๆเปลี่ยนลุคทั้งที พร้อมเสิร์ฟแฟชั่นสุดว้าว สุดจึ้ง เพื่อแฟนๆ “มาลัยไทยรัฐ” พร้อมเล่าแรงบันดาลใจตัดผมสั้นด้วยว่า “จริงๆ ด้วยความที่ทำสีผมมาเยอะมาก ผมมันเสีย ผมร่วงเยอะมากก็เลยเซ็ตซีโร่ตัดผมซะเลย ตอนแรกก็กลัวว่าตัดแล้วมันจะเข้ากับหน้าเราหรือเปล่า ไม่เคยตัดผมสั้นขนาดนี้มาก่อน ตัดสั้นขนาดนี้ตอน 5 ขวบ (หัวเราะ) เพราะเป็นคนขี้เบื่อก็จะชอบทำผม เพิ่งตัดมาได้ 2 อาทิตย์ รู้สึกแฮปปี้ดี ใช้ชีวิตสบายมาก รู้สึกชอบมาก ใช้ชีวิตมันง่าย ไม่ต้องใช้เวลาไดร์ผมนานรู้สึกแฮปปี้” พอตัดสั้นลุคใหม่กลับมาเป็นเด็กเลย “ดีใจค่ะ คนชมหน้าเด็กเยอะ เพราะตอนไว้ผมยาวดูหน้าแก่ (หัวเราะ) คงไว้ผมสั้นอีกสักพักใหญ่ๆ ช่วงนี้คนชอบลุคนี้ ถ้าเราเปลี่ยนลุคบ้างก็ดี ได้ทำอะไรใหม่ๆที่เราไม่เคยทำ” จู่ๆ ลุกมาตัดผมสั้นเกี่ยวคดีความด้วยไหม “อาจจะมีส่วนเล็กๆ หนูเป็นคนชอบเปลี่ยนแปลงตัวเองเรื่อยๆอยู่แล้ว พอเราทำแล้วรู้สึกดีกับตัวเองด้วย เป็นอะไรใหม่ๆที่เราไม่เคยทำมาก่อนก็จะมีความตื่นเต้น ทรงผมทรงใหม่ บางทีปัจจัยภายนอกเราไม่อาจจะควบคุมมันได้ อย่างน้อยมีผมเราตัดได้ทำสีได้ เป็นการเปลี่ยนแปลงบางอย่างทำให้เราสดใสขึ้น ส่วนมากคนจะคิดว่าหนูแก่กว่าอายุ อาจจะอยู่วงการมานานบางคนก็เรียกพี่ ทั้งๆที่เขาโตกว่าหนู แอบสะเทือนใจเหมือนกันเวลามีคนเรียกว่าพี่ (หัวเราะ)” ถ้าลุกมาใส่ชุดนักศึกษาคนเชื่อเลยนะ “อ่อค่ะ จริงๆปีหน้าได้กลับมาใส่ชุดนักศึกษาด้วย กลับไปเรียน เพิ่งสมัครเรียนของ ม.รามคำแหง คณะนิติศาสตร์ ตอนนี้รอแค่บัตรนักศึกษาอย่างเดียว” ทำไมเลือกเรียนนิติฯ ต้องขยันอ่านตำราหนักมาก “ใช่ค่ะ ต้องอ่านหนังสือเยอะซึ่งหนูเป็นคนไม่ค่อยชอบอ่านหนังสือ แต่อยากเรียนเพราะด้วยปัญหาในชีวิตที่เจอ 4-5 ปีที่ผ่านมา ทำให้อยากเรียนรู้ในด้านนี้เผื่อในอนาคตเอาไปต่อยอดในการทำงานได้เพิ่มหรือช่วยเหลือ ให้คำปรึกษาศิลปิน เพื่อนร่วมงานได้ ช่วงนี้พอมีเวลาว่างมากขึ้นเลยหาแพชชันใหม่ๆให้กับตัวเอง พอเราต่อสู้ไปนานๆก็เริ่มรู้สึกว่าเราเหมือนฟีลเบิร์นเอาต์ หมดไฟในการทำงาน ไม่อยากไปหมกมุ่นกับสิ่งนี้มากจนเกินไป อยากจะลองหาเรื่องอื่นๆทำบ้าง เราหาจุดพักจุดอื่น หาแพชชันใหม่ๆ ค้นหาตัวเองในด้านที่เราไม่เคยค้นหาด้วย ถึงขั้นซื้อชุดนักศึกษาตั้งแต่ยังไม่รู้ว่าเอกสารจะผ่านหรือเปล่า อยากไปเรียน ส่วนหนึ่งหนูเป็นคนไม่ชอบเรียนด้วยตัวเอง ยิ่งสิ่งไหนยากๆ ชอบให้คนมาสอนมากกว่า” ยิงคำถามต่อว่า...ก่อนหน้ามีข่าวกับหนุ่มท็อป Lazyloxy จริงๆเป็นมายังไง “ไม่มีอะไรเลยค่ะ (หัวเราะ) จริงๆก่อนหน้าหนูมีคนคุยแต่ไม่ได้คนนี้ เป็นอีกคนนึง”จะบอกว่าโฟกัสผิดคน “ใช่ค่ะ แต่ตอนนี้ก็เลิกคุยไปแล้ว กลับมาโสดเหมือนเดิม ตอนนั้นคิดในใจโฟกัสผิดคนมาก” เพราะมีข่าวกับท็อปทำให้เลิกคุยกับคนที่เราคุยๆอยู่หรือเปล่า “ไม่เกี่ยวค่ะ ที่เลิกคุยอาจจะหลายๆอย่าง มุมมอง จังหวะชีวิตด้วยต่างคนต่างยังไม่พร้อมขนาดนั้น เราเองสภาพจิตใจก็ไม่ได้พร้อมขนาดนั้น ลองห่างกันแต่ยังเป็นเพื่อนกันได้ คุยกันได้ปกติ จังหวะเวลามันไม่ได้ ตอนนี้เราต้องโฟกัสตัวเองก่อน เราต้องมีความสุขด้วยตัวเองก่อนตอนนี้ หลายๆอย่างในชีวิตที่เกิดขึ้นกับเรา เราต้องไม่เป็นภาระคนอื่น เราต้องเข้มแข็งกว่านี้” หลังเป็นข่าวด้วยกันมีคุยๆ กับท็อปบ้างไหม “มีทักๆกันไปบ้าง จริงๆก่อนหน้าทำงานด้วยกัน ทำเพลงด้วยกันตลอด ไปผับก็ถ่ายสตอรีไม่เป็นข่าวแต่มาเป็นครั้งนี้ก็งงๆ เป็นเพื่อนกันมานานแล้ว” ต่อไปจะส่งผลเวลาถ่ายรูปกับหนุ่มๆ ไหม “เป็นเพื่อนกัน เราไม่ได้คิดอะไร คนอื่นที่จะมาถ่ายกับเราอาจจะมีคิดบ้าง (หัวเราะ) ตอนนี้อยากโฟกัสที่ตัวเองมากกว่า ฮีลตัวเองจากเหตุการณ์ในชีวิตหลายๆอย่าง อาจจะเป็นเบญจเพสก็ได้” อะไรทำให้เรากลับมาเข้มแข็งเพราะแต่ละสิ่งที่เจอหนักๆ “บางวันหนูก็ไม่ไหวเหมือนกัน แต่ว่าดีที่มีคนรอบข้าง ครอบครัว แม่พ่อ เขาคอยให้กำลังใจ” ทำบุญเสริม “ยังไม่ค่อยกล้ามูแต่มีฝากคนอื่นมูเผื่อ อย่างน้าต้น ผู้จัดการส่วนตัว เคยไปทำงานที่ลาว ทำเสร็จคนจ้างงานพาไปวัดแต่หนูไม่ได้ไหว้ น้าก็ไปไหว้ให้แล้วก็ได้เลย มีการถ่ายโอนเรียบร้อย (หัวเราะ)”.อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” เพิ่มเติม