นับตั้งแต่วันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายนเป็นต้นมา จนถึงวันเสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน จะมีงานนิทรรศการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์ (EM SPHERE) สุขุมวิทจัดโดย “ห้องเสื้อพิจิตรา” ของ “คุณเจี๊ยบ” พิจิตรา บุณยรัตพันธุ์ เนื่องในโอกาสที่ห้องเสื้อโด่งดังระดับโลกแห่งนี้ ก่อตั้งมาครบ 45 ปีในปีนี้ และเคยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระพันปีหลวงให้เข้าเฝ้าฯถวายงานอย่างใกล้ชิดหลายครั้ง จนเป็นแรงบันดาลใจให้ทุ่มเทอุทิศตนถวายตัวเพื่องานสืบสานมรดกแผ่นดินด้านเสื้อผ้าชุดไทย ตามรอยพระยุคลบาทของพระองค์ท่านมาตราบเท่าทุกวันนี้เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า “คุณเจี๊ยบ” พิจิตรา บุณยรัตพันธุ์ คือลูกสาวคนเดียวของ “คุณลำยงค์” ลำยงค์ บุณยรัตพันธุ์ ตำนานดีไซเนอร์ระดับเดี่ยวมือหนึ่งของประเทศเมื่อกว่า 60 ปีที่แล้ว ในฐานะเจ้าของห้องเสื้อและโรงเรียนสอนตัดเสื้อ “ระพี” ผู้มีบทบาทในเกือบทุกๆเวทีประกวดความงามของประเทศไทยอีกทั้งยังได้ชื่อว่าเป็นต้นแบบของการตัดเสื้อผ้า “ชุดไทย” ได้อย่างงดงามและเหมาะสมแก่ทุกสุภาพสตรีที่มาตัด จนได้รับพระมหากรุณาธิคุณเข้าถวายงานด้านเครื่องทรงชุดไทยแด่สมเด็จพระพันปีหลวงมาโดยตลอดจากการที่คลุกคลีอยู่กับ “คุณแม่” ที่ต้องทำงานหนักด้านตัดเย็บเสื้อผ้าวันแล้ววันเล่าแทบไม่มีเวลาพักผ่อน ทำให้ “คุณเจี๊ยบ” ตัดสินใจที่จะไม่ดำเนินอาชีพตามรอยแม่...แต่ในที่สุดก็หนีไปไม่พ้น หลังจากไปร่ำเรียนวิชาออกแบบเสื้อผ้าที่ฝรั่งเศสมาแล้วก็เปิดห้องเสื้อรับงานเช่นเดียวกับมารดาเพียงแต่ในช่วงแรกๆ รับเฉพาะงานในลักษณะเสื้อผ้าสากล รวมไปถึงการออกแบบสำหรับ “ฟอร์ม” หรือ “เครื่องแบบ” ของบริษัทต่างๆ (อาทิ การบินไทย เป็นต้น)แล้ววันหนึ่งก็หวนกลับไปคลุกคลีกับ “แม่” เพื่อรับถ่ายทอดวิชาตัดเย็บและออกแบบ “ชุดไทย” อย่างใกล้ชิด หลังจาก “คุณแม่” ลำยงค์ บุณยรัตนพันธุ์ ถึงแก่กรรม เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ.2543 แล้วก็แทบจะกล่าวได้ว่า “คุณเจี๊ยบ” ขึ้นมาครองตำแหน่งมือหนึ่งของเสื้อผ้าชุดไทย แทนคุณแม่ลำยงค์โดยสมบูรณ์อย่างไรก็ดี ก่อนหน้าที่คุณแม่จะจากไปไม่นานนัก คุณเจี๊ยบ พิจิตรา ก็ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าฯถวายงานสมเด็จพระพันปีหลวงหลายครั้ง ทั้งทางด้านตัดเย็บฉลองพระองค์โดยตรง และงานในฐานะเป็นกรรมการตัดสินรางวัลสำหรับบรรดาสมาชิกมูลนิธิศิลปาชีพฯ ในการประกวดชิงรางวัลต่างๆวันหนึ่งได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯพระราชทาน “เข็มกลัด” ที่จัดทำขึ้นเป็นพิเศษให้แก่คุณเจี๊ยบชิ้นหนึ่ง ซึ่งเธอให้สัมภาษณ์แก่ สัญญา คุณากร ในรายการเจาะใจเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า รู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้อัญเชิญเข็มกลัดขึ้นประดับไว้เหนือหน้าอก พร้อมกับเดินทางไปกราบคุณแม่ลำยงค์โดยทันที...กอดแม่พร้อมกับร้องไห้ด้วยความตื้นตัน และถือว่าเป็นหนึ่งในรางวัลสูงสุดของชีวิตจนมาถึงรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน คุณเจี๊ยบก็ได้ให้สัมภาษณ์รายการเจาะใจไว้ว่า...“คุณข้าหลวงมาตามหาแล้วบอกว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชประสงค์ให้จัดทำชุดไทยถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เพราะจะเสด็จฯไปอังกฤษ”“พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัสให้เข้าเฝ้าฯ และตรัสว่าทรงจำได้ว่าคุณลำยงค์ บุณยรัตพันธุ์ ได้เคยถวายงานสมเด็จแม่ แต่ทรงรู้ว่าคุณลำยงค์เสียแล้ว จึงทรงขอให้คุณพิจิตราดูแลฉลองพระองค์สมเด็จพระ นางเจ้าฯ พระบรมราชินี ในครั้งนี้”นี่คือจุดเริ่มต้นของการถวายงานแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ซึ่งชุดแรกได้แก่ ชุดไทยบรมพิมาน สีน้ำเงิน และได้ทรงฉลองพระองค์ชุดดังกล่าวระหว่างไปทรงร่วมงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และสมเด็จพระราชินีคามิลลาแห่งอังกฤษ ณ มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ.2566ถัดมา ได้แก่ ฉลองพระองค์ชุดสีส้มซึ่งเป็น ชุดไทยจักรี เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เพื่อทรงรับพลเอก เดวิด เฮอร์ลีย์ ผู้สำเร็จราชการแห่งเครือรัฐออสเตรเลีย และภริยา ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ และเข้ารับพระราชทานเลี้ยงอาหารค่ำ เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567ชุดที่ 3 เป็นชุดสีน้ำตาล เป็น ชุดไทยอมรินทร์ เนื่องในโอกาสสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี เสด็จไปร่วมงานถวายพระกระยาหารค่ำที่ พระราชาธิบดีจิกมี่ จัดถวาย เนื่องในโอกาสเสด็จเยือนราชอาณาจักรภูฏาน เมื่อ 25 เมษายน 2568ซึ่งฉลองพระองค์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี ทั้ง 3 ชุดนี้ คุณเจี๊ยบได้อัญเชิญมาให้ประชาชนชาวไทยได้ชมด้วยในงาน “นิทรรศการ” เฉลิมพระเกียรติดังกล่าวแต่แน่นอนที่สุด ไฮไลต์ของนิทรรศการนี้จะอยู่ที่ฉลองพระองค์ของ สมเด็จพระพันปีหลวง ที่ออกแบบโดย ห้องเสื้อพิจิตรา อีกหลายต่อหลายชุด ซึ่งล้วนแต่เป็นตำนานไปแล้วในปัจจุบันขอเรียนเชิญท่านผู้อ่านที่เคารพไปร่วมเป็นสักขีพยานในความภาคภูมิใจของมรดกแห่งชาติ ซึ่งสมเด็จพระพันปีหลวงทรงอนุรักษ์ ฟื้นฟู และเผยแพร่ศิลปหัตถกรรมผ้าไทยจนโด่งดังไปทั่วโลกตราบเท่าทุกวันนี้... ไม่เสียค่าผ่านประตูใดๆนะครับ...และยังจะมีการแสดงตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันเสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน อีก 7 วันเต็มๆครับ.“ซูม”คลิกอ่านคอลัมน์ “ซูมซอกแซก” เพิ่มเติม