กรมอุตุฯประกาศเตือนฝนถล่มภาคใต้เฝ้าระวังพื้นที่ลาดเชิงเขาและที่ลุ่มต่ำ คลื่นสูงเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง ที่เมืองคอนน้ำท่วมหนัก 6 อำเภอ ชาวบ้านเสียชีวิต 2 ศพ จ.พัทลุง น้ำทะลักเข้าตลาด ปภ.ออกประกาศเตือน 11 อำเภอ สุราษฎร์ฯยังอ่วมน้ำไหลเชี่ยว จ.นครสวรรค์ น้ำท่วมโรงเรียนครูหาที่สอนเด็กชั่วคราว จ.อ่างทอง ผู้ป่วยต้องพายเรือไปหาหมอ ชาวอยุธยาชีวิตติดเกาะอยู่อย่างลำบากสถานการณ์ฝนตกหนักภาคใต้ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมวิกฤติหลายจังหวัด โดยเมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 19 พ.ย. กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศฉบับที่ 9 ว่า วันที่ 20-23 พ.ย. ภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วม ฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาด เชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย สำหรับ เรือเล็กบริเวณอ่าวไทยและห่างฝั่งของทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่ง ส่วนประเทศไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิลดลง และมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพ มหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียสที่ จ.นครศรีธรรมราช ฝนตกตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะ อำเภอแถบชายฝั่งทะเลอ่าวไทยประกอบด้วย อ.ขนอม อ.สิชล อ.ท่าศาลา อ.เมือง อ.ปากพนัง และ อ.หัวไทร ฝนตกหนักน้ำป่าไหลหลาก ที่หนานหินท่าหา บ้านคีรีวง ต.กำโลน อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช เป็นพื้นที่รับน้ำจากต้นทางบนเทือกเขาหลวงนครศรี ธรรมราช น้ำไหลเช่ียวซัดบ้านเรือนเสียหายหลายหลัง ส่วนตัวเมืองนครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่เทศบาลนคร นครศรีธรรมราชเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อเตรียมความพร้อมป้องกันน้ำท่วม มีรายงานว่ามีชาวบ้านจมน้ำเสียชีวิต 2 ศพ ใน อ.ท่าศาลาจ.พัทลุง ฝนตกหนักต่อเนื่อง น้ำท่วมถนนและบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำหลายจุดใน อ.กงหรา ท่วมตลาดริมถนนในพื้นที่ ต.คลองเฉลิม พ่อค้าแม่ค้าต้องเร่งขนย้ายสินค้าขึ้นที่สูง ขณะที่นางศรุดา อินทร์ประพันธ์ นายอำเภอเมืองพัทลุง พร้อมปลัดอำเภอลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วมในหมู่ 8 ต.ควนมะพร้าว กำชับให้เฝ้าระวังอันตรายจากกระแสไฟฟ้า สัตว์มีพิษ และโรคที่มากับน้ำ ด้านสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพัทลุง ออกประกาศเตือนประชาชนทั้ง 11 อำเภอ โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยในพื้นที่ลุ่มริมแหล่งน้ำและเชิงเทือกเขาบรรทัดให้เพิ่มความระมัดระวังน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลันด้าน พล.ท.นรธิป โพยนอก แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วยนายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ ผวจ.สุราษฎร์ธานี นายชยันต์รัฐ รุ่งโรจวรารักษ์ นายอำเภอไชยา และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วม ในพื้นที่ อ.ไชยา หลังการประชุม พล.ท.นรธิปกล่าวว่ากองทัพสั่งเตรียมความพร้อมยุทโธปกรณ์เพื่อเร่งช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน ด้านนายเสนอ โสมติด ชาวบ้านใน อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า น้ำมาเร็วมากไม่ทันตั้งตัว ข้าวของในบ้านพังหมด ต้องอพยพไปนอนบ้านลูกที่ต่างอำเภอส่วนสถานการณ์ในพื้นที่ภาคเหนือที่ประตูระบายน้ำคลองบางแก้ว อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผวจ.พิษณุโลก ฟังการบรรยายสรุปปัญหาน้ำท่วม อ.บางระกำ หรือการจัดการน้ำในทุ่งบางระกำโมเดล ช่วงนี้น้ำเริ่มทรงตัว คาดว่าน้ำจะลดลงไปเรื่อยๆ สิ้นเดือน พ.ย. น้ำจะเข้าสู่ ภาวะปกติ นายเกียรติศักดิ์เผยว่า ชาวบ้านถูกน้ำท่วม ยาวนานเกือบ 4 เดือน ของทุ่งบางระกำโมเดลจำนวน 245 ราย รัฐบาลมีมติ ครม.ว่าจะเพิ่มเงินช่วยเหลือผู้ถูกน้ำท่วมบ้าน หรือน้ำท่วมล้อมรอบบ้านยาวนานเป็นการช่วยแบบขั้นบันไดจาก 9,000 บาทที่จ่าย ไปแล้ว เพิ่มอีก 5,000-29,000 บาท พร้อมมอบถุงยังชีพแก่ประชาชนผู้เดือดร้อนที่ จ.นครสวรรค์ ครูโรงเรียนวิชาวดี ต.ปากน้ำโพ อ.เมืองนครสวรรค์ ย้ายการเรียนการสอนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 จำนวน 65 คน ไปจัดการเรียนชั่วคราวที่บ้านพักของอดีตประธานชุมชนอยู่ใกล้กัน หลังเกิดน้ำท่วมโรงเรียนมาหลายสัปดาห์ เพื่อให้เด็กนักเรียนได้เรียนหนังสือตามหลักสูตรอย่างต่อเนื่อง แม้สถานที่ชั่วคราวจะมีความลำบาก ทั้งเรื่องโต๊ะเรียนไม่เพียงพอ เก้าอี้จำกัด สื่อการเรียนการสอนไม่ครบถ้วน รวมถึง แสงสว่างที่ไม่สะดวกนัก แต่ครูพยายามจัดการเรียนการสอนต่อเนื่อง เพื่อให้เด็กได้เรียนหนังสือสถานการณ์น้ำท่วมภาคกลาง จ.ชัยนาท เขื่อนเจ้าพระยา ทยอยปรับการระบายน้ำจาก 2,688 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น 2,640 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำ จะลดลงประมาณ 5-10 ซม. และคงอัตราดังกล่าวต่อเนื่อง เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำเป็นไปอย่างเหมาะสม และสอดคล้องกับสถานการณ์น้ำฝน-น้ำท่าในปัจจุบัน สถานการณ์น้ำเริ่มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง บ้านเรือนประชาชนยังคงมีน้ำท่วมขังเต็มพื้นที่ ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 6,235 ครัวเรือน 17,947 คน โรงเรียนในพื้นที่ ประสบอุทกภัยปิดทำการเรียนการสอนแล้ว 11 โรงเรียน พื้นที่ทางการเกษตรเสียหายกว่า 600 ไร่ ส่วนที่ จ.อุทัยธานี มีพื้นที่อุทกภัย ใน 6 ตำบล ในเขต อ.เมือง เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำสะแกกรัง ชาวบ้านบอกว่า ระดับน้ำลดลงเพียงเล็กน้อยได้รับผลกระทบหลายร้อยครัวเรือนที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านเลน ต.โผงเผง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง น้ำยังคงท่วมสูงกว่า 1 เมตร หลังน้ำในคลองโผงเผงสาขาแม่น้ำเจ้าพระยาทะลักเข้าท่วม ด้านนางวิไลวรรณ สะใบแพร ผอ.รพ.สต.บ้านเลน เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ขนย้ายเครื่องมือแพทย์ สิ่งของอุปกรณ์สำคัญไว้บนชั้น 2 และยังคง ให้การบริการผู้ป่วยได้ตามปกติ ผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ต้องใช้เรือพายเข้าออก บางส่วนไม่ชำนาญทางเรือต้องลุยน้ำเข้าออกเป็นระยะทางประมาณ 60-70 เมตร บางครั้งหากเรือไม่อยู่ต้องตะโกนสอบถาม อาการผู้ป่วยระหว่าง รพ. และถนน เมื่อเรือมาจะนำยา ไปฝากไว้ที่ร้านค้าริมถนน วอนหน่วยงานที่เกี่ยวของ ช่วยเหลือสร้างสะพานเดินทางเข้าออกชั่วคราวระหว่าง ถนนและโรงพยาบาลส่วนชาวบ้านที่อาศัยที่เต็นท์ชั่วคราวผู้ประสบภัยที่ริมถนน หมู่ 4 ต.นรสิงห์ อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง น้ำเริ่มเน่าเสียและยุงชุม น.ส.สุวิมล สุริยวงค์ อายุ 33 ปี ชาวบ้าน เปิดเผยว่า ครอบครัวออกมาพักอยู่ที่เต็นท์ 7 คน ต้องเดินลุยน้ำเข้าออกบ้านไปดูบ้านและข้าวของ ช่วงนี้น้ำเน่าเสียเป็นสีดำขุ่นส่งกลิ่นเหม็น แล้วยังมียุงและแมลงวันชุกชุมมาก ทำให้ความเป็นอยู่ยิ่งลำบากขึ้นอีก และยังกังวลเรื่องความปลอดภัยริมถนน รถวิ่งด้วยความเร็วเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุจ.พระนครศรีอยุธยา รายงานสรุปพื้นที่ได้รับ ผลกระทบจากน้ำท่วม 11 อำเภอ 136 ตำบล 899 หมู่บ้าน ประชาชนเดือดร้อน 63,176 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 20 ราย โรงเรียนน้ำท่วม 33 แห่ง ต้องปิด การเรียนการสอน วัด 38 แห่ง มัสยิด 2 แห่ง และสถานที่ราชการ 8 แห่ง ขณะเดียวกันชาวบ้านในชุมชน ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา พื้นที่ติดกับ แม่น้อย และคลองสาขามีทั้งหมด 8 หมู่บ้าน น้ำท่วม ทั้งหมดชาวบ้านเดือดร้อนกว่า 600 ครัวเรือน บ้านเรือน ส่วนใหญ่ถูกน้ำท่วม 3-4 เมตร บ้านบางหลังน้ำท่วม ครึ่งหลังถึงขอบหน้าต่าง ส่วนใหญ่ยังคงพักอาศัยอยู่ ภายในบ้านอยู่ในสภาพติดเกาะ ส่วนการเดินทางเข้าออก จากบ้านต้องพายเรือฝ่ากระแสน้ำและลมที่กระโชกแรง ในช่วงต้นฤดูหนาวอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่