“รองสำราญ” แถลงตำรวจ 191 จับกุมยาบ้าบิ๊กลอต 10 ล้านเม็ด เผยขยายผลจากคดี 8 ล้านเม็ดเครือข่ายนนทบุรีเมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ครั้งนี้สายข่าวระบุแก๊งยาขนมาพักไว้ในโกดังพื้นที่ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา นำกำลังพิสูจน์ทราบพบรถเก๋งคนร้ายวิ่งสวนมาก่อนไป จอดทิ้งพื้นที่ลาดบัวหลวง ในรถพบยาบ้า 2 กระสอบ 2 ล้านเม็ด ส่วนกำลังอีกชุดเข้าตรวจค้นโกดังพบยาบ้าอีก 40 กระสอบ 8 ล้านเม็ด จับกุมพร้อมผู้ต้องหาสาวอีก 2 คน เร่งสอบสวนขยายผลจับแฟนหนุ่มที่หลบหนีไปได้191 จับบิ๊กลอตยาบ้า 10 ล้านเม็ด เปิดเผยเมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 12 พ.ย. ที่กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 พล.ต.อ.สำราญ นวลมา รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.วรวิทย์ ญาณจินดา ผบก.สปพ. พ.ต.อ.วสันต์ ธวัชชัยวิรุตษ์ ผกก.สายตรวจ ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม น.ส.เมรินทร์ จูงใจ อายุ 33 ปี และ น.ส.ศิริรัตน์ หอมระรื่น อายุ 33 ปี พร้อมยาบ้า 10 ล้านเม็ด รถเก๋งโตโยต้า วีออส สีขาว รถกระบะเชฟโรเลต สีขาว รถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ สีดำ พระนครศรีอยุธยา รวมมูลค่าของกลางประมาณ 500 ล้านบาท จับได้ที่โกดังไม่มีเลขที่ ต.บ้านหลวง อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยาสืบเนื่องจากชุดสืบสวน 191 และหน่วยข่าวกรองทางทหาร กองทัพบก ขยายผลการจับกุมผู้ต้องหาขนยาเสพติดเครือข่ายนนทบุรี เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ครั้งนั้นยึดยาบ้า 8 ล้านเม็ด ต่อมาสืบสวนทราบว่าเครือข่ายดังกล่าวจะลำเลียงยาเสพติดจากชายแดนประเทศเพื่อนบ้านทางภาคเหนือเข้าพื้นที่ตอนใน ใช้พืชผลทางการเกษตรประเภทข้าวโพดตบตาเจ้าหน้าที่ นำมาไว้ที่โกดังไม่มีเลขที่ ต.บ้านหลวง อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อพักและเก็บซุกซ่อนก่อนนำไปกระจายส่งทั้งใน กทม.และปริมณฑลชุดจับกุมได้วางแผนและนำกำลังเข้าตรวจค้น พบกลุ่มคนร้ายขับรถเก๋งโตโยต้า วีออส สีขาว ออกมาจากโกดัง เมื่อเห็นตำรวจได้ขับหลบหนีก่อนไปจอดรถทิ้งไว้ที่ถนนไม่มีชื่อทางเข้าวัดฉัตรทองดำริธรรม ต.คู้สลอด อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ตรวจค้นในรถพบยาบ้า 10 กระสอบ รวม 2 ล้านเม็ด ยึดไว้เป็นของกลาง ส่วนกำลังอีกส่วนหนึ่งได้เข้าตรวจค้นในโกดังต้องสงสัย พบรถกระบะเชฟโรเลต โคโลราโด สีขาว ในกระบะมียาบ้า 40 กระสอบ รวม 8 ล้านเม็ด ก่อนจับกุม น.ส.เมรินทร์ และ น.ส.ศิริรัตน์ พร้อมของกลางไปสอบสวนที่ บก.สปพ.เบื้องต้น น.ส.เมรินทร์รับสารภาพขับรถมากับนายเอ (ขอสงวนชื่อเพื่อการสืบสวน) แฟนหนุ่ม มาที่โกดังเพื่อขนย้ายยาเสพติดลอตดังกล่าวไปกระจายให้กับเอเย่นต์รายย่อยตามคำสั่งของปลายสาย ได้ค่าจ้างขนย้ายครั้งละ 1.5-5 หมื่นบาท แล้วแต่ปริมาณของกลาง แจ้งข้อหา “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน ทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป” นำตัวพร้อมของกลางส่ง บช.ปส. ดำเนินคดีพล.ต.อ.สำราญ นวลมา รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า สั่งการให้ชุดสืบสวนขยายผลผู้ต้องหา 2 คนที่หลบหนีและผู้ร่วมขบวนการที่เหลือ ทั้งนี้ การทำงานปราบปรามยาเสพติดมีตัวชี้วัดชัดเจน ปัจจุบันการแจ้งเหตุเรื่องยาเสพติดผ่านสายด่วน 191 มีปริมาณลดน้อยลง แสดงให้เห็นว่าการปราบปรามยาเสพติดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ผล ยืนยันจากนี้ไปการปราบปรามยาเสพติดเป็นนโยบายหลักของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตือนผู้กระทำผิดพ่อค้ายาทั้งรายย่อยและรายใหญ่ยังมีเวลากลับตัวทันจะสกัดกั้นทุกวิถีทางเพราะยาเสพติดคือต้นทางนำไปสู่คดีอาชญากรรมอื่นๆอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่