“อนุทิน” กลับมายึด MOA ยืนไทม์ไลน์เดิม ยุบสภา 31 ม.ค.69 ย้ำต้องรักษาสัญญา หากถูกยื่นอภิปรายขอดูตามสถานการณ์ ลั่นไม่ยอมให้ใครมาด่ารัฐบาลฟรี โต้ไทยไม่ใช่ศูนย์กลางสแกมเมอร์ ยอมรับเป็นคนล็อบบี้ “วรภัค” ลาออกเอง พา “ป๋าจิ้น” ทัวร์ห้องนายกฯ ปิดห้องคุย “ผู้กอง” สองต่อสอง ก่อนจะควง “น้องจ๋า” ลอยกระทงที่ทำเนียบ “วิโรจน์” เย้ยกล้าธรรมไม่เทาก็อย่าดิ้น พร้อมจับมือ พท.ซักฟอกรัฐบาล “โรม” โต้ ปชน.ไม่แตะเงินผู้ช่วย สส. “ประเสริฐ” แฉพฤติกรรมยี้พรรคคู่แข่งไล่ดูด สส. “สรวงศ์” ตอก “วัน” บิดเบือนให้ร้าย “อิ๊งค์” “อภิสิทธิ์” เปิดแคมเปญดึงผู้ร่วมอุดมการณ์ พร้อมเผชิญหน้าอดีตสลายชุมนุมปี 53 “นันทนา” ดิ้นสู้ชง ป.ป.ช.สอย 18 สว.สีน้ำเงินนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย กลับมายึดตาม MOA ยืนยันไทม์ไลน์เดิมที่ทำไว้กับพรรคประชาชน ตั้งใจยุบสภา 31 ม.ค.69 แต่ถ้าถูกยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ต้องดูสถานการณ์แต่ละช่วงเวลา “Play it by ear” (ไม่มีแผนการตายตัว) ไม่ปล่อยให้ใครมาด่ารัฐบาลเล่นฟรีๆแน่“อนุทิน” ยืนไทม์ไลน์เดิมยุบสภาเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 5 พ.ย. ที่พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย แสดงวิสัยทัศน์ในงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM 2025 หัวข้อ “Thailand’s Next Frontier : A National Economic Vision วิสัยทัศน์ประเทศไทยในโลกใหม่” ในรูปแบบการสัมภาษณ์ เมื่อผู้ดำเนินรายการถามว่าจะยุบสภา 4 เดือน ตาม MOA ที่ทำไว้กับพรรคประชาชนหรือไม่ นายอนุทิน ตอบว่า 4 เดือนคือสิ่งที่เราสัญญาไว้กับพรรคประชาชน เพราะมองกันว่าบ้านเมืองในขณะนั้นน่าจะเป็นทางเลือก ที่ดีที่สุด เราเล่นตามกติกา พรรคประชาชนมี สส.มากกว่าเรา แต่เขาไม่มีแคนดิเดตนายกฯ จึงเป็นที่มาของ MOA เมื่อถามว่ายืนยันตามไทม์ไลน์เดิมหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ยืนยันตลอดไม่เคยเปลี่ยน พรรคประชาชนทำให้เป็นนายกฯ ต้องรักษาสัญญาที่มีไว้ เมื่อครบ 4 เดือนต้องยุบสภาฯลั่นไม่ยอมให้ใครมาด่ารัฐบาลฟรีผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวอาจยุบสภาฯก่อน หากมีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายอนุทินตอบว่า ต้องดูสถานการณ์แต่ละช่วงเวลา “Play it by ear” (ไม่มีแผนการตายตัว) ต้องดูไทม์ไลน์กว่าจะยื่นอภิปรายได้สภาฯเปิดสมัยประชุมเดือน ธ.ค. ตั้งใจยุบสภาวันที่ 31 ม.ค.69 อยู่แล้ว คงไม่ปล่อยให้ใครมาด่ารัฐบาลเล่นฟรีๆ หากเป็นเกมการเมืองรัฐบาลสู้เกมการเมืองไม่ได้ก็ยุบสภาไป ห่างแค่เดือนเดียวคงไม่ทำให้เกิดความแตกต่างอะไร เมื่อถามว่าเลือกตั้งครั้งหน้าพร้อมหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า พร้อมตั้งแต่เขาเอาออกจากรัฐบาล หากพรุ่งนี้เลือกตั้งก็ต้องพร้อม เมื่อถามว่าพร้อมกลับมาเป็นนายกฯอีกครั้งหรือไม่ นายอนุทินกล่าวติดตลกว่า ก็ดีเหมือนกัน ตอนนี้เป็นนายกฯแล้ว ตอนที่ยังไม่เป็นยังกลัวๆกล้าๆ แต่พอเป็นแล้วเห็นสิ่งที่สามารถทำให้กับบ้านเมืองได้ จะเป็นยาวเป็นสั้นไม่สำคัญ เป็นแล้วก็คือเป็น ต่อให้เป็น 3 เดือน 4 เดือน คนก็เรียกว่านายกฯ อยู่ที่เวลาที่มีอยู่ทำอะไรให้มันปังไปสักอัน เป็นสิ่งที่เกิดประโยชน์กับบ้านเมืองเป็นภาพจำได้ถือว่าบอกตัวเองได้แล้วเป็นนายกฯทำสิ่งอะไรไว้ฟุ้งปราบแก๊งสแกมทำงานเชิงรุกเมื่อถามถึงการสั่งเร่งปราบปรามสแกมเมอร์ นายอนุทินตอบว่า การบอกว่าประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการฟอกเงิน ไม่ค่อยแฟร์ เราไม่ใช่ศูนย์กลางสแกมเมอร์ แต่อยู่ตรงกลางที่รอบๆประเทศทำ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานการฟอกเงิน เราต้องปฏิบัติในทางลับจะไปบอกว่าทำอะไรไม่ได้ ยืนยันกับ ผบ.ตร. อธิบดีดีเอสไอ เลขาฯ สมช.ไปแล้วว่า เราเป็นรัฐบาล ไม่มีนักเลงมาเฟียหรือขาใหญ่คนไหนใหญ่กว่ารัฐบาลได้ เมื่อรัฐบาลไม่เกรงกลัวผู้ปฏิบัติก็ต้องไม่กลัวด้วย และเราทำงานเชิงรุก รัฐบาลนี้เข้ามา 3 สัปดาห์ถอนสัญชาติขาใหญ่รายหนึ่งไปเรียบร้อยรับเป็นคนขอให้ “วรภัค” ลาออกเมื่อถามถึงกระแสข่าวอดีต รมช.คลัง (นายวรภัค ธันยาวงษ์) เกี่ยวข้องกับสแกมเมอร์ นายอนุทินตอบว่า ท่านถูกครหาแต่ยังไม่ถูกกล่าวหา ยังไม่ได้มีหลักฐานใดๆ ไม่มีหน่วยงานทั้งไทยและต่างประเทศดำเนินคดีกับท่าน แต่เมื่อมีข่าวออกมาเรื่อยๆ ตนเป็นคนไปบอกให้ท่านลาออก ท่านก็ให้ความร่วมมือดี ถ้าท่านไม่ผิดก็คือไม่ผิด การใช้กฎหมายในรัฐบาลนี้มุ่งเน้นไปที่พฤติกรรมรูปคดี ไม่ใช่ไปบอกเกลียดคนนี้ไม่ชอบคนนี้ เป็นคู่แข่งทางการเมือง เหมือนที่พวกตนเคยโดนมา ไม่มีเลย สิ่งที่เคยเกิดขึ้นในรัฐบาลที่แล้วที่เขาพยายามใช้กลไกรัฐกำจัดคู่แข่งทางการเมือง หรือมากีดกันกล่าวหาให้เกิดความเสียหาย เป็นสิ่งที่ประเทศอารยะไม่ทำกัน จะไม่ทำเช่นนั้นโยนตั้ง “ธนดล” ให้ถาม “ธรรมนัส”ผู้สื่อข่าวถามถึงการแต่งตั้งนายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ อดีตที่ปรึกษา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯ และ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายอนุทินตอบว่า ตนไม่ได้แต่งตั้ง เป็นเรื่องของพรรคร่วมรัฐบาลที่คัดเลือกคนของเขามาทํางาน เป็นการ ทํางานร่วมกันและเป็นการให้เกียรติกัน เมื่อถามย้ำว่าเหมือนเป็นสายล่อฟ้า สุดท้ายนายกฯต้องเป็นคนรับผิดชอบ นายอนุทินตอบว่า ต้องไปถาม ร.อ.ธรรมนัสไม่ใช่มาถามตน เมื่อถามว่ากรณีที่มีการวิวาทะกันเรื่องที่ดินก่อนหน้านี้จบแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทินตอบว่า “ผมไม่เคยวิวาทะกับนายธนดล ที่ดินไม่ใช่ของผม”พา “ป๋าจิ้น” ทัวร์ห้องทำงานนายกฯต่อมาเวลา 11.15 น. นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดานายอนุทิน เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อร่วมรับประทานอาหารกลางวันที่ตึกไทยคู่ฟ้า โดยนายอนุทินลงมารอรับ พร้อมนายภราดร ปริศนานันทกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสันติ พร้อมพัฒน์ อดีต รมช.สาธารณสุข และนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย จากนั้นนายอนุทินพานายชวรัตน์เดินชมห้องทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้า ก่อนพานั่งโต๊ะทำงานนายกฯ พร้อมถ่ายภาพเป็นที่ระลึก มี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯ และ รมว.เกษตร และสหกรณ์ ตามมาร่วมรับประทานอาหารกลางวัน ทันทีที่มาถึง ร.อ.ธรรมนัสตรงเข้าไปคุกเข่ากราบที่ตักนายชวรัตน์อย่างนอบน้อมปิดห้องคุย “ผู้กอง” สองต่อสองผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังรับประทานอาหารเสร็จนายอนุทิน พร้อมภริยาเดินมาส่งนายชวรัตน์ขึ้นรถเรียบร้อยแล้ว ได้ขึ้นไปที่ห้องทำงานตึกไทยคู่ฟ้า พูดคุยกับ ร.อ.ธรรมนัสเป็นการส่วนตัวต่อจับมือ ตร.อาเซียนล่าโจรออนไลน์จากนั้นช่วงบ่าย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและ รมว.มหาดไทย ให้การต้อนรับ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ที่นำคณะหัวหน้าตำรวจประเทศสมาชิกอาเซียน และ พ.ต.อ.เดวิด มาร์ติเนซ วินลวน ผู้บริหารสำนักเลขาธิการองค์การตำรวจอาเซียน เข้าพบในโอกาสเข้าร่วมประชุมหัวหน้าตำรวจอาเซียน ครั้งที่ 43 นายอนุทินกล่าวว่า เชื่อมั่นว่าผลการประชุมครั้งนี้จะประสบความสำเร็จในการยกระดับความร่วมมือด้านการปราบปรามการหลอกลวง และการฉ้อโกงออนไลน์ที่เป็นปัญหาสำคัญ การแก้ไขปัญหานี้ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย รัฐบาลพร้อมร่วมมือกับสมาชิกอาเซียน เพื่อให้อาเซียนเป็นภูมิภาคที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน ขณะที่ผู้บริหารสำนักเลขาธิการองค์การตำรวจอาเซียน และคณะหัวหน้าตำรวจจากประเทศสมาชิกอาเซียน ต่างเห็นพ้องถึงความสำคัญในการปราบปรามปัญหาการหลอกลวงและการฉ้อโกงออนไลน์ควง “น้องจ๋า” ลอยกระทงที่ทำเนียบเวลา 16.54 น. ที่ริมคลองผดุงกรุงเกษม ข้างทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและ รมว.มหาดไทย พร้อม น.ส.ธนนนท์ หรือจ๋า นิรามิษ ภริยา ลอยกระทงสืบสานและอนุรักษ์ประเพณีไทย มีนายโสภณ ซารัมย์ รองนายกฯ และคณะร่วมด้วย นายอนุทินกล่าวว่า ขอทุกวันไม่ใช่เฉพาะวันลอยกระทง ขอให้ประเทศไทยเจริญรุ่งเรือง สงบสามัคคี ขอให้ประชาชนอยู่ดีกินดี มีเงินใช้ทุกวัน มีเงินเก็บเงินออม มีความสุข และอยากให้มีตลาดร้านค้าขายเลียบคลองผดุงกรุงเกษม คิดว่าจะรื้อฟื้นสมัยที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ เคยทำ เพื่อให้ทันโครงการคนละครึ่งพลัส เฟส 2ปัดปิดห้องคุยปมแต่งตั้ง “ธนดล”นายอนุทินให้สัมภาษณ์อีกครั้งถึงการปิดห้องพูดคุยกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯและ รมว.เกษตรและสหกรณ์ว่า หารือเรื่องงานข้อราชการ ยืนยันไม่ได้พูดคุยเรื่องการแต่งตั้งนายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ เป็นประจำสำนักเลขาธิการนายกฯ เมื่อถามว่าที่ถูกจับตาเพราะก่อนหน้านี้นายธนดลเคยยื่นเรื่องตรวจสอบที่ดินสนามกอล์ฟ แรนโช ชาญวีร์ รีสอร์ท ปากช่อง นายอนุทินตอบว่า ยิ่งทำให้เห็นว่าพวกเราแยกเรื่อง และคนที่มีสิทธิเข้ามาต้องได้รับการรับรองจากหัวหน้าพรรคต้นสังกัด เมื่อถามย้ำว่าแสดงว่าเชื่อมั่นว่า ร.อ.ธรรมนัสกรองมาแล้ว นายกฯตอบว่า เราเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เสียงพรรคกล้าธรรมถือว่าเป็นเสียงพรรคร่วมรัฐบาล เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ที่ ร.อ.ธรรมนัสเหมือนเป็นสายล่อฟ้ารัฐบาล นายอนุทินตอบว่า ทุกพรรคมีสายล่อฟ้าหมดเตรียมลงพื้นที่บ้านหนองจาน นายอนุทินยังกล่าวอีกว่า มีแผนจะเดินทางลง พื้นที่บ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว หลังวันที่ 17 พ.ย. วันที่ลงไปจะมีความคืบหน้าในหลายเรื่องแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าเงื่อนไขทั้ง 4 ข้อจะจบได้เร็ว เราไม่จำเป็นต้องรอให้ทุกอย่างจบ ขอให้ได้เดินหน้า เมื่อถามว่ากรณีปราสาทตาควายทางไทยจะยืนยันอย่างไร นายกฯตอบว่า ทุกอย่างต้องไปนั่งพูดคุยในคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (เจบีซี) ค่อยๆปลดไปทีละประเด็น ส่วนกรณีอินฟลูเอนเซอร์นัดไปรวมตัวทวงคืนปราสาทตาควาย ทุกคนมีสิทธิ์แสดงความรักชาติ แต่ต้องอย่าผิดกฎหมายไทยและกฎหมายระหว่างประเทศ เมื่อถามว่าในเมื่อพื้นบ้านหนองจานเป็นพื้นที่ของไทยอยู่แล้ว ทำไมต้องเอาไปเข้าเจบีซี นายอนุทินตอบว่า เป็นพื้นที่ของเรา แต่เขาก็บอกว่าเป็นพื้นที่ของเขา ก็ต้องคุยให้ชัดเจน ปล่อยให้ทีมเจรจาเจบีซีดำเนินการ เราเข้าไปแทรกแซงไม่ได้“วิโรจน์” เย้ยกล้าธรรมไม่เทาอย่าดิ้นที่รัฐสภา นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีหัวหน้าพรรคเพื่อไทยเตือนแคมเปญหาเสียงพรรคประชาชน “มีเรา ไม่มีเทา” ให้ระวังตอนจัดตั้งรัฐบาลว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยไม่เห็นด้วย ควรไปทำแคมเปญ “มีเพื่อไทยมีเทา” จะเก็บทุนสีเทาไว้ร่วมรัฐบาลหรือ หรือเกรงว่าสาวไปสาวมากลัวไปเจอใครที่เป็นกลุ่มก้อนตัวเอง พรรคประชาชนไม่เคยคิดนโยบายเศรษฐกิจที่เอื้อหรือเกรงใจนายทุนสีเทา ส่วนความขัดแย้งระหว่างพรรคกล้าธรรมกับพรรคประชาชน แต่ละฝ่ายต้องตรวจสอบกันและกัน ประชาชนจะได้ข้อมูลที่โปร่งใส เมื่อถามว่าแคมเปญมีเราไม่มีเทา เป็นการบีบให้พรรคภูมิใจไทยเลือกระหว่างพรรคประชาชนกับพรรคกล้าธรรมหรือไม่ นายวิโรจน์ตอบว่า สงสัยว่าทำไมเปิดแคมเปญนี้แล้วมีคนดิ้นเยอะ ถ้าไม่เทาก็อยู่เฉยๆตอนนี้มีคนเดือดร้อนเยอะ ถ้าไม่เทาไม่ต้องกลัว พรรคประชาชนจับผิดแต่เรื่องใหญ่ เรื่องที่มีนัยต่อเศรษฐกิจ ความมั่นคงประเทศ ใครไม่เทาก็เก็บอาการนึดนึง ไม่ต้องสั่นระริกระรี้ เราไม่ได้กล่าวหา เป็นการตั้งข้อสังเกตร่วมกันจากประชาชนพร้อมจับมือ พท.ซักฟอกรัฐบาลนายวิโรจน์กล่าวอีกว่า อย่าเพิ่งไปกล่าวหานายกฯ เอื้อประโยชน์ให้ทุนเทาเพราะเพิ่งมารับตำแหน่ง แต่มีหน้าที่ต้องจัดการทุนเทา ส่วนนายกฯอาจชิงยุบสภาก่อนวันที่ 31 ม.ค.2569 สุ่มเสี่ยงกระทบต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น เป็นอำนาจเฉพาะตัวของนายกฯ กมธ.ทำเต็มที่ หากยุบสภาก็ต้องไปว่ากันในสมัยหน้าอย่างน้อยก็ได้พยายามแล้ว ยังคาดหวังนายกฯจะยุบสภาหลังร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านวาระ 3 สำหรับการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจพรรคเราพร้อมยื่น เพราะไม่ได้อยู่ในข้อตกลง MOA หากมีเรื่องที่หนักหนาก็พร้อมจับมือพรรคเพื่อไทยยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ต้องยึดเนื้อหาสาระถึงความผิดฉกรรจ์ ไม่ใช้เป็นเกมการเมืองหรือช่องทางระบายแค้นส่วนตัวของใคร“โรม” โต้ ปชน.ไม่แตะเงินผู้ช่วย สส.นายรังสิมันต์ โรม รองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวตอบโต้นายไผ่ ลิกค์ เลขาธิการพรรคกล้าธรรม ที่นำข้อมูลเรื่องเงินผู้ช่วย สส.มาจ่ายค่าสมาชิกพรรคว่า ไม่ใช่ข้อมูลใหม่ มีความพยายามโจมตีพรรคประชาชนจากเพจหนึ่ง เพื่อดิสเครดิตการทำงานของฝ่ายค้าน การสมัครสมาชิกพรรคประชาชนมี 4 ขั้นตอน ยอมรับการสมัครสมาชิกพรรคที่ผ่านมามีปัญหาบ้าง แต่มีกระบวนการตรวจสอบ กระบวนการสมัครสมาชิกพรรคประชาชนมีมาตรฐานสูง การกล่าวหานำเงินเดือนผู้ช่วย สส.ไปจ่ายค่าสมาชิก ไม่สามารถทำได้ พรรคไม่เคยมีคำสั่งหรือนโยบายให้ทำเช่นนั้น หากเป็นการกระทำของบางคน พร้อมดำเนินการตามกฎหมาย ขณะนี้มีความพยายามเบี่ยงเบนประเด็นให้เรื่องสแกมเมอร์เป็นเรื่องเฉพาะตัว ภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดของไทยคือทุนสีเทาที่กำลังยึดประเทศไทย“หมอเปรม” บี้นายกฯตอบกระทู้นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. กล่าวว่า ได้ยื่นกระทู้ถามนายกฯถึงสาเหตุที่รัฐบาลไม่สามารถจัดการปัญหาสแกมเมอร์ข้ามชาติอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งที่ประกาศเป็นวาระแห่งชาติ รัฐบาลต้องกล้าเปิดเผยความจริง ปฏิรูปโครงสร้างหน่วยความมั่นคง ตัดวงจรคอร์รัปชัน ให้ประชาคมโลกเห็นว่าประเทศไทยจริงจัง ปราบอาชญากรรมข้ามชาติอย่างแท้จริง“ประเสริฐ” แฉพฤติกรรมยี้ดูด สส.วันเดียวกัน นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมในการเลือกตั้งครั้งหน้าว่า ช่วงนี้ผู้บริหารพรรคทำงานหนัก คัดเลือกผู้แสดงความจำนงลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น สส.ในนามพรรค ทั้งภาคอีสาน ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ และ กทม. มีผู้สนใจเสนอตัวจำนวนมาก ทีมยุทธศาสตร์และนโยบายกำลังจัดทำข้อมูลประเมินและวิเคราะห์ และเตรียมลงพื้นที่ดำเนินกิจกรรมพรรคในการเลือกตั้ง ได้รับทราบจาก สส.โดยเฉพาะภาคอีสานแจ้งว่ามีกลุ่มบุคคลที่อยู่เบื้องหน้าและเบื้องหลังของบางพรรค เริ่มแสดงพฤติกรรมยี้ ส่งคนมาติดต่อ สส.ให้เปิดตัวย้ายพรรค หรือให้เป็น สส.งูเห่า พร้อมเมื่อไรค่อยย้าย เสนอผลตอบแทนหลายกิโล และค่าตอบแทนรายเดือน หากสนใจย้ายพรรคจะพาไปพบแกนนำเตรียมลงสมัครเลือกตั้ง ขอเตือนถ้ายังไม่หยุดพฤติกรรม อาจล่อซื้อ หรือหาทางบันทึกหลักฐานนำมาเปิดเผยต่อประชาชน“สรวงศ์” ตอก “วัน” ให้ร้าย “อิ๊งค์”ด้านนายสรวงศ์ เทียนทอง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กตอบโต้นายวัน อยู่บำรุง อดีต สส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวหา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตหัวหน้าพรรค พท.ระบุว่า จากประเด็นที่นายวันพูดถึง น.ส.แพทองธารมีบางเรื่องไม่ตรงความจริง ในฐานะเลขาธิการพรรคขณะนั้นอยู่ในห้องที่ น.ส.แพทองธารเชิญนายวันเข้ามาพูดคุยทั้งภาษาพูดและภาษากายเป็นไปอย่างสุภาพ ให้เกียรติกัน ยืนยัน น.ส.แพทองธารไม่มีการชี้หน้า หรือคำพูดใดประสงค์ให้นายวันออกจากพรรคเพื่อไทย เสียดายรู้สึกผิดหวังที่นายวันแต่งเรื่องบิดเบือนความจริงใส่กัน เมื่อนายวันลาออกจากพรรคต่างฝ่ายต่างมีวิถีทางของตัวเอง กับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สส.บัญชีรายชื่อ แม้ไม่ได้มาร่วมงานกับพรรคนานแล้ว แต่พวกเราเจอท่านในสภา ก็ยังเคารพและให้เกียรติในฐานะผู้อาวุโส ดังนั้นมองไปข้างหน้าดีกว่า“อภิสิทธิ์” เปิดแคมเปญ “สส.ที่ดีฯ”ช่วงบ่ายที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นำคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรค เปิดแคมเปญ Kick-off รับผู้ประสงค์จะยื่นแสดงความจำนงลงสมัครรับเลือกตั้ง สส. ใช้สโลแกนว่า “สส.ที่ดี คุณเองก็เป็นได้น่ะ” นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า บ้านเมืองมีปัญหาสะสมเรื้อรังมานาน ส่วนหนึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นเพราะการเมืองไม่สุจริต ทั้งเงินทุนสีเทา การทุจริตคอร์รัปชัน ถึงขั้นอาจทำอาชญากรรมข้ามชาติ เป็นที่มาของระบบเศรษฐกิจที่ไม่มีประสิทธิภาพ หากปล่อยอย่างนี้มองไม่เห็นว่าบ้านเมืองจะเดินไปข้างหน้าอย่างไร ใครที่เชื่อเรื่องสุจริต มีดีในตัว แนวทางพัฒนาประเทศควรเป็นอย่างไร ขอเชิญชวนให้มาอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เราพร้อม “สร้างคน คนสร้างพรรค และพรรคสร้างประเทศ” นี่คือแนวทางที่พรรคจะเดินหน้าไม่กังวลเลือดเก่าไหลรับเริ่มที่ศูนย์เมื่อถามถึงกลุ่มเลือดเก่าที่ไหลออกจากพรรค นายอภิสิทธิ์ตอบว่า ถือว่าเราตั้งต้นจากศูนย์ ไม่ว่ากันเคารพการตัดสินใจ แต่เชื่อว่ามีคนพร้อมมาร่วมแนวทางเดียวกัน เพียงพอทำให้พรรคประชาธิปัตย์เดินต่อไปได้ เมื่อถามย้ำว่านายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นำกลุ่ม สส.บางส่วนออกไปด้วย นายอภิสิทธิ์ตอบว่า สส.ที่จะออกไปมาลากับตนแล้ว ตั้งแต่ก่อนมีการเลือกหัวหน้าพรรค “ที่เชิญชวนนี่ไม่ได้ชวนมาสบาย เพราะวันนี้ถ้าไม่เหนื่อยบ้านเมืองก็ไม่ดีขึ้น ชวนมาเหนื่อยชวนมาทุ่มเทกับเรา ว่าถึง เวลาแล้วมาทำการเมืองกัน ไม่เหมือนกับการเมืองที่เราเห็นอยู่ในขณะนี้”พร้อมเผชิญหน้าสลายชุมนุมปี 53เมื่อถามถึงกรณีถูกนิสิตจุฬาฯชูป้ายโจมตีกรณีเหตุการณ์สลายการชุมนุมปี 53 นายอภิสิทธิ์ตอบว่า ไม่เป็นไร ถ้าเราใช้สิทธิเสรีภาพอยู่ในขอบเขต กรณีที่เกิดขึ้นพยายามอธิบายถึงเหตุผลข้อเท็จจริงที่สามารถตรวจสอบและเห็นต่างกันได้ คิดต่างกันได้ วิพากษ์วิจารณ์กันได้ ทุกอย่างอยู่ในขอบเขตไม่น่าเป็นปัญหาอะไร เมื่อถามย้ำว่าขบวนการที่เกิดขึ้นเป็นการดิสเดรดิตหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ตอบว่า ไม่ต้องมองอะไร พูดมาตลอดว่าคนเป็นนักการเมืองต้องสามารถตรวจสอบได้ และเราเคารพการใช้สิทธิของเขา ไม่ได้เป็นปัญหาอะไร แต่อยากให้ทุกฝ่ายเคารพในการทำหน้าที่ของแต่ละฝ่ายด้วย เมื่อถามย้ำว่าเหตุการณ์แบบนี้จะทำให้หลุดโฟกัสที่จะขายนโยบาย ต้องมาตอบคำถามเรื่องเดิมๆ นายอภิสิทธิ์ตอบว่า “สมาธิผมดีอยู่ เดินหน้าทำงาน วางแนวทางเอาไว้ว่าต้องทำอย่างไร แต่เราก็ไม่ต้องหนี สิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว เพราะเราต้องรับผิดชอบ และเราก็รู้ว่าอะไรเกิดขึ้น”“นันทนา” ดิ้นสู้ชง ป.ป.ช.สอย 18 สว.อีกเรื่อง น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว. แถลงว่า เตรียมยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ไต่สวน พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภากับพวก รวม 18 คน มีพฤติกรรมส่อขัดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 คณะกรรมการจริยธรรมวุฒิสภา จำนวน 15 คน เป็นผู้ถูกแจ้งข้อหาคดีฮั้วเลือก สว. ถือเป็นคู่ขัดแย้งโดยตรง ทำให้กระบวนการตรวจสอบไม่ชอบ ปิดโอกาสการชี้แจง ใช้เวลาตรวจสอบเกินกรอบเวลาตามข้อบังคับ 150 วัน ถือเป็นกระบวนการไม่เป็นธรรมนายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความผู้รับมอบอำนาจของ น.ส.นันทนา กล่าวว่า จะไปยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช. ให้ไต่สวน พล.อ.เกรียงไกร นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา และ สว. 15 คนที่ทำหน้าที่กรรมการจริยธรรม อาทิ พ.ต.อ.กอบ อัจนากิตติ น.ส.อมร ศรีบุญนาค นายสุทนต์ กล้าการขาย นางสุมิตรา จารุกำเนิดกนก รวมถึงนางปัณณิตา สท้านไตรภพ เลขาธิการวุฒิสภา ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง ไม่ทำตามระเบียบว่าด้วยการยื่นรับเรื่องร้องเรียน และวิธีพิจารณากรรมการจริยธรรมสว.สำรองลากไส้ขบวนการสีน้ำเงินที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กลุ่ม สว.สำรอง นำโดย พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว นายธนวัฒน์ ศรีสุข เข้ายื่นหนังสือถึง กกต. และคณะอนุกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาหรือข้อโต้แย้งคณะที่ 36 ขอให้เร่งรัดและดำเนินการด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม ในการพิจารณาคดีทุจริตการเลือก สว.2567 พล.ต.ท.คำรบกล่าวว่า เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน มีผู้ถูกกล่าวหาในคดีฮั้ว สว. มีตำแหน่งนายกฯ และรัฐมนตรีในปัจจุบัน มาที่ กกต. มีทั้งประธาน กกต. เลขาธิการ กกต. ต้อนรับขับสู้กันเอิกเกริก วันนี้จึงต้องมาทวงถามว่าเมื่อไหร่ กกต.จะเร่งพิจารณาเรื่องนี้นายธนวัฒน์กล่าวว่า ที่คดีนี้ล่าช้าได้ยินมาว่า จะรอให้ สว.ของเขาไปเลือก กกต.ใหม่อีก 2 คน เพื่อให้ครบ 4 คน เรารู้และเชื่อว่าประชาชนเข้าใจว่ากำลังทำอะไรกัน พยายามจะเอาคนของตัวเองมาตัดสินเรื่องของคุณ เป็นเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน ไม่เหมาะสม ไม่สง่างาม แต่ประชาชนมองอยู่ เราจะสู้จนกว่า กกต.จะส่งฟ้องคดีฮั้วเลือก สว. ถ้า กกต.ส่งสำนวนไปที่ศาลเมื่อไหร่เราก็หยุดเมื่อนั้นอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่