“อนุทิน” โชว์วิชันส่งท้ายเวทีเอเปก ปลื้มไทยกลับมายืนบนเวทีโลก กล่อมเอเปกผนึกกำลังสู้ภัยโจรไซเบอร์ชง 3 แนวทางเสริมเขี้ยวเล็บความร่วมมือระดับภูมิภาค เป็นผู้นำพัฒนาเอไอเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล พร้อมเสริมพลังให้คนทุกกลุ่มสร้างชีวิตที่ดีของคนทุกช่วงวัย “จุลพันธ์” ไม่กังวลติดบ่วงถูก ป.ป.ช.ไต่สวนโยกงบฯปี 68 โปะดิจิทัลวอลเล็ต “ประเสริฐ” มั่นใจ พท.เลือดหยุดไหลแล้ว โอ่เป้า สส. 200 เสียงไม่ใช่เรื่องยาก “โกหน่อ” เปิดบ้านต้อนรับ “เสี่ยหนู” หม่ำข้าวเปิดตัวทีมสส.ตรังย้ายเข้า ภท. แจงผูกพัน ปชป. แต่เคยลั่นวาจา “มีสาทิตย์ ไม่มีสมชาย” จำเป็นต้องหาบ้านใหม่ “ไอติม” ห่วง กกต.ไม่ทำประชามติล่วงหน้านอกเขต ก่อความสับสน สร้างภาระให้ ปชช. ชงทางแก้ออกเสียงผ่านไปรษณีย์นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและ รมว.มหาดไทย ขึ้นเวทีกล่าวถ้อยแถลงส่งท้ายการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ 32 รอบที่ 2 ที่สาธารณรัฐเกาหลี โดยตอกย้ำข้อเสนอความร่วมมือของสมาชิกเอเปกในการเร่งแก้ไขปัญหาอาชญากรรมในโลกไซเบอร์ โดยเฉพาะการหลอกลวงออนไลน์และการค้ามนุษย์ เป็นอาชญากรรมข้ามพรมแดน“อนุทิน” โชว์วิชันเวทีเอเปกครั้งที่ 32เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 พ.ย. (ตามเวลาท้องถิ่นเมืองคยองจู เร็วกว่ากรุงเทพฯ 2 ชั่วโมง) ที่ห้อง 300C ชั้น 3 ศูนย์ประชุม Hwabaek International Convention Centre (HICO) เมืองคยองจู สาธารณรัฐเกาหลี นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและ รมว.มหาดไทย เข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ 32 รอบที่ 2 (The 32nd APEC Economic Leaders’ Meeting-Session II) ภายใต้หัวข้อ “Preparing a Future-Ready Asia-Pacific” โดยนายอนุทินกล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุมมีเนื้อหาสรุปว่า กว่า 36 ปีที่ผ่านมา เอเปกเป็นกลไกสำคัญขับเคลื่อนภูมิภาคให้เป็นเครื่องยนต์แห่งการเติบโตของเศรษฐกิจโลก แต่ปัจจุบันโลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เอเปกจึงต้องคงไว้ซึ่งบทบาทในฐานะภูมิภาคที่มีเสถียรภาพ และความสามารถในการปรับตัวกล่อมเอเปกร่วมสู้ภัยโจรไซเบอร์“เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคต ไทยได้เสนอแนวทางสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ 1.ยึดมั่นในการส่งเสริมความร่วมมือระดับภูมิภาคและการเติบโตอย่างครอบคลุม 2.ต้องเป็นผู้นำในการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล ด้วยการสร้างความเชื่อมั่น ความปลอดภัย ความรับผิดชอบในการใช้เทคโนโลยี AI และการเข้าถึงอย่างเท่าเทียม ไทยได้เน้นย้ำถึงการเร่งแก้ไขปัญหาอาชญากรรมในโลกไซเบอร์ โดยเฉพาะการหลอกลวงออนไลน์และการค้ามนุษย์ เป็นอาชญากรรมข้ามพรมแดนที่ต้องอาศัยความร่วมมือร่วมกันผ่านการแลกเปลี่ยนข้อมูล การบังคับใช้กฎหมายที่สอดคล้องกัน และขอขอบคุณสาธารณรัฐ เกาหลีและสหรัฐอเมริกาสำหรับบทบาทนำในเรื่องนี้ โดยไทยพร้อมทำงานร่วมกันผ่านศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (AOC) และเวที APEC Online Scams Exchange Forum” นายกฯกล่าวมุ่งสร้างชีวิตที่ดีของคนทุกช่วงวัยนายอนุทินกล่าวว่า 3.เอเปกต้องเสริมพลังให้กับทุกกลุ่มในสังคม โดยเฉพาะในยุคที่ประชากรกำลังก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัย จึงต้องส่งเสริมการจ้างงานที่ครอบคลุม มีระบบดูแลสุขภาพที่มีประสิทธิภาพ และส่งเสริมการเรียนรู้ทุกช่วงวัย เพื่อสร้างความเป็นอยู่ที่ดีทุกช่วงวัย ในยุคที่โลกไร้พรมแดนและเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ไม่มีเขตเศรษฐกิจใดสามารถยืนอยู่ได้เพียงลำพัง หากเอเปกสามารถปรับทิศทางร่วมกันได้ เอเปกจะยังคงเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนความก้าวหน้าของโลก แม้เส้นทางข้างหน้าจะไม่ง่าย แต่เอเปกจะเดินไปด้วยกัน ด้วยความร่วมมือที่แน่นแฟ้นและเป้าหมายร่วมกัน เพื่อสร้างภูมิภาคที่เชื่อมโยง ยั่งยืนและพร้อมรับอนาคตอย่างแท้จริงผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปกได้ถ่ายภาพหมู่ร่วมกัน จากนั้น นายกฯจะเดินทางออกจากท่าอากาศยานฐานทัพอากาศกิมแฮ นครปูซานในเวลา 16.15 น. และจะเดินทางถึงประเทศไทย ณ ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ในเวลาประมาณ 21.00 น.นายกฯดีใจไทยกลับมายืนบนเวทีโลกนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและ รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมการเดินทางมาประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจพิเศษเอเปก ครั้งที่ 32 ว่า รู้สึกดีใจที่วันนี้ประเทศไทยเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล เราได้กลับมาในเวทีโลก ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้นำ ได้มีการพูดคุยทั้งแบบทางการและกึ่งทางการ ดึงข้อศอกมาคุยกันถือว่าครบทุกรูปแบบ ไม่ต้องใช้ล่ามและไม่ต้องใช้คนกลาง มีทัศนคติที่ดีต่อกัน ทุกคนแม้ประเทศที่มีปัญหาความขัดแย้งต้องมีความพยายามที่จะหาจุดยุติความขัดแย้งและแสวงหาสู่สันติภาพเติมเงินผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกฯ เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบโครงการเพิ่มวงเงินสวัสดิการให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งปี 68 เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาค่าครองชีพ รวมถึงช่วยเพิ่มกำลังซื้อ และเพิ่มเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจช่วงปลายปี 68 เพิ่มเติมเป็นการชั่วคราวให้แก่ผู้มีบัตรฯ ปี 65 จำนวน 13.4 ล้านคน แบ่งจ่าย 2 งวด เดือน พ.ย.-ธ.ค.รวม 1,700 บาทต่อคน งวดละ 850 บาท จะถูกโอนเข้าบัญชีทุกวันที่ 1 ของเดือน วันที่ 1 พ.ย.เงินช่วยเหลือจะถูกโอนเข้าบัญชีและวันที่ 1 ธ.ค.อีก 850 บาทต่อคน โดยผู้มีบัตรฯมีสิทธิประโยชน์ตามเดิมทุกประการ ทั้งนี้ รัฐบาลเตรียมเปิดลงทะเบียนรอบใหม่ คาดต้นปี 69 โดยมีการทบทวน และปรับปรุงหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และคุณสมบัติใหม่ให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน และให้เข้าถึงกลุ่มที่ต้องการอย่างแท้จริงมากยิ่งขึ้น“จุลพันธ์” ไม่กังวลถูก ป.ป.ช.สอบโยกงบฯวันเดียวกัน นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะอดีต รมช.คลัง ให้สัมภาษณ์กรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รับเรื่องตรวจสอบนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี และ ครม.ในขณะนั้น กระทำผิดตาม พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐกรณีโยกงบประมาณของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ 5 แห่ง วงเงินรวม 35,000 ล้านบาท ไปใช้โครงการดิจิทัลวอลเล็ตว่า ยังไม่ได้อ่านรายละเอียดคำร้อง แต่เข้าใจว่าไม่เกี่ยวกับการกระทำผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 144 แต่เป็นการตรวจสอบกรณีความผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ไม่กังวลมั่นใจว่าดำเนินการชอบด้วยกฎหมาย มีคณะกรรมการดำเนินการ มีหน่วยงานรัฐให้ความเห็นประกอบการดำเนินการโดยตลอด ส่วนการตรวจสอบให้เป็นเรื่องของ ป.ป.ช.พร้อมรับการตรวจ“ประเสริฐ” มั่นใจ พท.เลือดหยุดไหลนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคพท. ให้สัมภาษณ์กรณีพรรค พท. มีคณะกรรมการบริหารชุดใหม่จะหยุดเลือดไหลได้หรือไม่ว่า มั่นใจ อยู่พรรคนี้มาตั้งแต่ยุคไทยรักไทย รู้จักสมาชิกทุกคนไม่ว่าเก่าหรือใหม่ วันนี้กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่มาจากทุกภาคส่วน สะท้อนว่าพรรคเป็นสถาบันทางการเมือง สมาชิกทุกคนมีสิทธิมีเสียง เรากำลังก้าวสู่การเลือกตั้ง กรณีมีสมาชิกย้ายพรรคเป็นปกติทางการเมือง แต่คนที่ยืนอยู่วันนี้ มั่นใจว่าจะไม่มีใครออกไปไหนอีก จะร่วมต่อสู้ในสนามเลือกตั้งครั้งหน้ากับพรรค วันนี้เราเปิดกว้างพร้อมรับสมาชิกหน้าใหม่เข้าสู่การสรรหาเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งในนามพรรค จะเฟ้นหาคนมีคุณภาพที่สุดเพื่อให้ประชาชนได้ใช้งาน รวมไปถึงอดีตสมาชิกพรรคที่เว้นว่างทางการเมืองไป หากอยากกลับมาทำงานการเมืองต่อเราเปิดกว้างฟุ้งเป้าหมาย 200 เสียงไม่ใช่เรื่องยาก“การแก้ปัญหาที่ประเทศกำลังเผชิญอยู่ เราต้องใช้ทุกสรรพกำลัง มั่นใจว่าด้วยพลังความสามัคคีของสมาชิกพรรค พท.เป้าหมายที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ผอ.เลือกตั้งพรรควางไว้ที่ 200 เสียงไม่ยากเกินจริง เราจะทำงานหนัก นำความเดือดร้อนของประชาชนมาเป็นตัวตั้ง แล้วตีโจทย์ออกมาเป็นนโยบาย เสนอทางออกให้ประชาชน เชื่อว่าจะได้รับความไว้วางใจ” นายประเสริฐกล่าวหนุน “จุลพันธ์” ประสานทุกรุ่นสู้ศึก ลต.เมื่อถามถึงการทำงานร่วมกับนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค พท. นายประเสริฐกล่าวว่า เคยทำงานร่วมกับนายจุลพันธ์มานานเข้าขากันดี เป็นคนมีวิสัยทัศน์ มีความรู้ความสามารถด้านเศรษฐกิจปัญหาใหญ่ของประเทศ และเป็นคนรุ่นกลางของพรรค ที่เชื่อมประสานความร่วมมือกับคนทุกรุ่น ไม่ว่ารุ่นอาวุโสหรือรุ่นใหม่ จึงเชื่อว่าจะนำทัพสู้ศึกเลือกตั้งได้ ในฐานะเลขาธิการพรรคจะสนับสนุนการทำงานของกรรมการบริหารชุดนี้เต็มที่ สนับสนุนการทำงานทุกภาคส่วนของพรรค เพื่อเป้าหมายสำคัญเข้าไปทำหน้าที่แก้ปัญหาที่ประชาชนเจออยู่ให้ผ่านพ้นไปให้ได้ปชน.ห่วงประชามติล่วงหน้านอกเขตวันเดียวกัน นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคประชาชน (ปชน.)โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงข่าวว่าแม้รัฐบาลจะเดินหน้าให้ทำประชามติพร้อมการเลือกตั้งทั่วไป ใน มี.ค.69 แต่ กกต.จะไม่จัดให้มีการออกเสียงประชามติ “ล่วงหน้านอกเขต” เหมือนการเลือกตั้ง สส. “ล่วงหน้านอกเขต” ว่า คำแถลงของ กกต.เป็นปัญหาอย่างไร สรุปให้เห็นภาพคือสมมติว่าวันเลือกตั้งพร้อมประชามติวันที่ 29 มี.ค. มีนาย ก.ที่ทะเบียนบ้านอยู่ จ.สงขลา แต่อาศัยและทำงานอยู่ที่ กทม.ในวันที่ 22 มี.ค. นาย ก.ไปเลือกตั้ง สส.ล่วงหน้าที่หน่วยใน กทม.ได้ แต่ไม่สามารถออกเสียงประชามติในวันดังกล่าวได้ ถ้านาย ก. อยากออกเสียงประชามติต้องไปที่หน่วยที่ กทม. (นอกเขต) หรือที่สงขลา (ในเขต) ในวันที่ 29 มี.ค. เท่านั้น หากนาย ก.ไม่สะดวกกลับไปที่ จ.สงขลา ต้องไปที่หน่วยใน กทม. 2 ครั้งคือไปเลือกตั้ง สส.วันที่ 22 มี.ค.และไปออกเสียงประชามติอีกครั้งวันที่ 29 มี.ค. จะสร้างความไม่สะดวกและสับสนมหาศาล เป็นไปได้สูงว่า คนแบบนาย ก.ที่ไม่สะดวกเดินทางกลับบ้านและล็อกตารางไว้แล้วว่าจะไปใช้สิทธิทีเดียวที่ กทม.วันที่ 22 มี.ค. จะกลายเป็นได้เลือกตั้งเฉพาะ สส.และสูญเสียสิทธิออกเสียงประชามติ หากไม่สะดวกกลับไปอีกรอบวันที่ 29 มี.ค.ชงทางแก้ออกเสียงผ่านไปรษณีย์นายพริษฐ์ระบุอีกว่า ข้อเสนอคือการให้กกต.เปิดให้ประชาชนออกเสียงประชามติผ่านไปรษณีย์ โดยกำหนดไว้อย่างเจาะจงว่า หากใครต้องการใช้สิทธิออกเสียงทางไปรษณีย์ จะต้อง 1.ลงทะเบียนพร้อมกับการเลือกตั้ง สส. ล่วงหน้านอกเขต 2. เดินทางมาที่หน่วยเลือกตั้งที่ตนตั้งใจจะมาใช้สิทธิเลือกตั้ง สส. ล่วงหน้านอกเขต ในวันที่ 22 มี.ค. 3.รับซองออกเสียง ลงคะแนนเสียง และยื่นบัตรออกเสียงกลับคืนให้เจ้าหน้าที่ ณ หน่วยเลือกตั้งดังกล่าวในวันดังกล่าว เพื่อให้เจ้าหน้าที่ส่งบัตรออกเสียงไปที่หน่วยนับคะแนนทางไปรษณีย์เป็นการต่อไป กกต.ยังไม่ควรยอมแพ้ง่ายๆ แต่ควรเดินหน้าหาทางออกภายใต้กรอบของกฎหมาย เพื่อทำให้ประชาชน ออกเสียงประชามติล่วงหน้านอกเขตได้ เหมือนกับการเลือกตั้ง สส.“โตโต้” ชี้บริจาคเสื้อเกราะส่อผิด ก.ม.นายปิยรัฐ หรือ โตโต้ จงเทพ สส.กทม.พรรคประชาชน (ปชน.)โพสต์เฟซบุ๊กว่า ประเด็นที่กำลังถกเถียงกันอยู่ว่าซื้อเสื้อเกราะล็อกสเปกหรือไม่ แต่จะทราบหรือไม่เสื้อเกราะถ้ามันกันกระสุนได้ (ไม่ว่ากระสุนชนิดใด) ศาลเคยพิพากษามาแล้วว่ามันคือ “ยุทธภัณฑ์” ไม่ว่าซื้อแถวคลองหลอดหรือแอปส้ม แล้วมีแผ่นพลาสติกหรือแผ่นเหล็กบางๆไว้เล่น บีบีกัน หากกันกระสุนชนิดใดชนิดหนึ่งได้ ถือว่าเป็นยุทธภัณฑ์ คนซื้อหรือจัดหาที่เป็นข่าวอยู่ทำผิดกฎหมายไปแล้ว ทั้งคนและหน่วยงานที่ขอสนับสนุนเองด้วย การที่มีบุคคลหรือกลุ่มเอกชนจัดหาเสื้อเกราะให้กองทัพหรือตำรวจ แม้มีเจตนาดี แต่อยู่ในข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ.2530 มาตรา 18 โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ขณะเดียวกันหน่วยงานของรัฐที่รับยุทธภัณฑ์จากเอกชน โดยไม่มีการตรวจสอบ หรืออนุญาตตามระเบียบ ย่อมสะท้อนความบกพร่องในระบบบริหาร และอาจเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ความมั่นคงของชาติ ไม่ควรถูกทำให้กลายเป็นกิจกรรมการบริจาคยุทธภัณฑ์โดยบุคคลภายนอก รัฐเองต้องมีระบบจัดหาให้เพียงพอ มีการตรวจรับและอนุมัติที่โปร่งใส เพื่อความปลอดภัยและความถูกต้องตามกฎหมาย“โกหน่อ” แจงจำเป็นต้องหาบ้านใหม่เมื่อเวลา 12.50 น.นายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ หรือโกหน่อ อดีต สส.ตรัง บิดาของ น.ส.สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ สส.ตรัง 2 สมัย พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และประธานคณะกรรมาธิการตำรวจ สภาฯ เปิดเผยว่า วันที่ 2 พ.ย. เวลา 11.00 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) พร้อมนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกฯและ รมว.คมนาคม แกนนำพรรค ภท.ดูแลพื้นที่ภาคใต้ จะมาร่วมทานอาหารเที่ยงที่บ้านโล่สถาพรพิพิธ เลขที่ 226 หมู่ 5 ต.ทุ่งกระบือ อ.ย่านตาขาว จ.ตรังของตน จากนั้นจะเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส.ในนามพรรค ภท.ที่จะลงเลือกตั้งครั้งหน้า ยอมรับว่าบ้านใหญ่ จ.ตรัง ตัดสินใจแล้วว่าจะย้ายออกจากพรรค ปชป.ไปร่วมงานการเมืองกับพรรคภูมิใจไทย หลังจากมีชื่อของนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ปรากฏเป็นรองหัวหน้าพรรค ปชป. ด้านภารกิจ ทุกอย่างเป็นไปตามที่ตนเคยลั่นวาจาไว้ว่า หากมีชื่อสาทิตย์จะไม่มีสมชาย ตนยืนยันคำพูดที่เคยบอกไว้ก่อนหน้านี้ เพราะตนเป็นคนรักษาคำพูด เมื่อผู้ใหญ่ในพรรค ปชป.เลือกนายสาทิตย์ ต้องเดินออกจากพรรคไปหาที่อยู่ใหม่ ยืนยันว่าตระกูลของตนมีความผูกพันกับพรรค ปชป.มายาวนาน แต่มีความจำเป็น“มาร์ค” เร่งฟื้นฟู ปชป.ชูสุจริต มืออาชีพนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ปชป.ไปที่วัดชัยชนะ ต.ประตูป่า อ.เมืองลำพูน พร้อมนายขยัน วิพรหมชัย รองเลขาธิการพรรค ร่วมพิธีถวายผ้าพระกฐินประทานจากสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก จากนั้นให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมเลือกตั้งว่ากำลังเร่งทำนโยบายเปิดกว้างเชิญผู้รู้มาให้ข้อคิด สัปดาห์หน้าจะจัดเวทีการทำพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์และดิจิทัลแพลตฟอร์มต่างๆที่จะผลักดันให้เศรษฐกิจเติบโต สร้างโอกาสให้คนจำนวนมาก ควบคู่กับการเร่งหาตัวผู้สมัคร สส. เพราะมี สส.หลายคนบอกกับตนว่าอาจไม่ได้อยู่กับพรรค เนื่องจากมีการเจรจากันไว้ล่วงหน้า แต่น่ายินดีที่มีคนแสดงความจำนงเข้ามาพอสมควรแล้ว ตั้งใจมาวางรากฐานระยะยาวให้พรรค ต้องฟื้นฟูพรรคให้จุดยืนกลับมาแข็งแรง พรรค ปชป.ต้องการเข้ามาเป็นตัวแทนของคนที่อยากเห็นบ้านเมืองเดินทางไปในเส้นทางที่สุจริต เศรษฐกิจเติบโตได้ด้วยการทำงานอย่างมืออาชีพ สอดรับกับความเปลี่ยนแปลงของโลก มีคนรุ่นใหม่ต้องการเข้ามาสานต่องานกับพรรคอีกจำนวนมาก เพื่อให้พรรค ปชป.อยู่คู่กับการเมืองไทยต่อไปยกทีม 4 ว่าที่ผู้สมัคร สส.ซบค่าย ภท.ผู้สื่อข่าวรายวานว่า ว่าที่ผู้สมัคร สส.ตรังในนามพรรคภูมิใจไทย ที่แกนนำพรรคประสานบุคคลภายในไว้ทั้ง 4 เขต คือ เขต 1 นายเอกพล ณ พัทลุง เขต 2 นายทวี สุระบาล (ปัจจุบันเป็น สส.พรรคพลังประชารัฐ) เขต 3 น.ส.สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ (ปัจจุบันเป็น สส.พรรคประชาธิปัตย์) และเขต 4 นายพิชัย เจริญศิริสุนทรหรือ สจ.ล้าน มีศักดิ์เป็นหลานชายนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ โดยทั้ง 4 เขต ทางพรรคภูมิใจไทยมอบหมายให้บ้านใหญ่ตรัง เป็นผู้ดูแลการสมัครศึกเลือกตั้งที่จะมีขึ้นทั้ง 4 เขต“จ๋า” ภริยานายกฯโพสต์ขอโทษสื่อผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 พ.ย. น.ส.ธนนนท์ นิรามิษ ภริยาของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและ รมว.มหาดไทย โพสต์ข้อความลงบนสตอรีอินสตาแกรมส่วนตัว ขอโทษสื่อมวลชนกรณีพูดหยอกกับสื่อว่า “ทำไมใจร้ายกับท่านนายกฯ จังเลย เดี๋ยวต่อไปจะจำไว้แล้วนะ เกินไปแล้วนะ” จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ โดยระบุว่า “จ๋าต้องขออภัยพี่ๆสื่อมวลชนทุกท่านนะคะ สำหรับสิ่งที่จ๋าพูดเมื่อวันก่อน เป็นเพียงการพูดเล่น อาจดูไม่เหมาะสม หรือทำให้หลายคนรู้สึกไม่สบายใจ จ๋าไม่มีเจตนาที่จะคุกคาม หรือลดคุณค่าการทำงานของสื่อมวลชนเลยแม้แต่น้อย ขอบคุณทุกคำวิจารณ์ และคำแนะนำจากทุกๆท่าน จ๋าขอรับฟังด้วยความจริงใจ และยังคงให้ความเคารพต่อพี่ๆสื่อมวลชนทุกท่านเสมอค่ะ”อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่