การ์มินลงทุน 3,000 ล้านบาท ตั้งฐานผลิตนาฬิกาอัจฉริยะสมาร์ทวอทช์และอุปกรณ์จีพีเอสนำทางแห่งแรกในอาเซียน ที่จังหวัดชลบุรี ภายใต้เหตุผลด้านที่ตั้งใจกลางภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีโครงสร้างพื้นฐานสำหรับอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ที่แข็งแกร่ง ระบบการขนส่งและโลจิสติกส์ทันสมัย นโยบายส่งเสริมการลงทุนที่ดี และมีซัพพลายเชนในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ที่ครบวงจรคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ได้อนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนโครงการของบริษัท การ์มิน ชลบุรี (ประเทศไทย) จำกัด ในเครือบริษัท Garmin Ltd. (Switzerland) เพื่อผลิตผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ เช่น สมาร์ทวอทช์หรือนาฬิกาอัจฉริยะ (GPS Smart Watch) และอุปกรณ์นำทางอัจฉริยะจีพีเอสสำหรับยานยนต์และการเดินเรือ (GPS Navi gator) ภายใต้แบรนด์ Garmin มูลค่าลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่จังหวัดชลบุรี ซึ่งจะเป็นฐานการผลิตแห่งแรกในอาเซียนของบริษัท คาดว่าจะเริ่มผลิตภายในปี 2569 โดยการตั้งฐานการผลิตในครั้งนี้ เพื่อจำหน่ายสินค้าในประเทศและส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศโครงการดังกล่าวจะใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยครบทั้งสายการผลิต เพื่อผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น เซ็นเซอร์สำหรับวัดอัตราการเต้นของหัวใจและระดับออกซิเจนในเลือดแบบเรียลไทม์ เซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวเพื่อวัดความเร็วและระยะทาง และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ที่ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพของผู้สวมใส่ Smart Watch รวมถึงระบบนำทางหรือเทคโนโลยีรับข้อมูลสภาพอากาศและกระแสน้ำแบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยเพิ่มความแม่นยำในการเดินเรือและการวางแผนเส้นทาง ทั้งหมดนี้ถือเป็นนวัตกรรมที่ให้ความแม่นยำในการตรวจจับและวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง รวมถึงสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์หรือเครื่องมืออื่น ๆ เช่น สมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ ผ่านระบบไร้สายได้เพื่อตอบสนองความต้องการด้านเทคโนโลยีแห่งอนาคตนายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการบีโอไอ เปิดเผยว่า การที่ผู้ผลิตอุปกรณ์อัจฉริยะระดับโลกอย่างการ์มินตัดสินใจเลือกประเทศไทยเป็นฐานการผลิตแห่งแรกในอาเซียน เป็นเครื่องยืนยันว่าไทยมีความพร้อมในการรองรับอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง โดยเฉพาะในกลุ่มอิเล็ก ทรอนิกส์ ที่ได้รับความไว้วางใจจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลกเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่อง และยังแสดงให้เห็นว่า การมุ่งพัฒนาซัพพลายเชนในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ก่อให้เกิดการเกื้อหนุนกันและส่งผลให้ระบบนิเวศของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ไทยมีความเข้มแข็ง สามารถรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆที่จะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในอนาคตทั้งนี้ การ์มิน (Garmin) เป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ Smart Watch และอุปกรณ์ GPS ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มนักกีฬา ผู้รักสุขภาพ และนักเดินทางทั่วโลก มียอดขายรวมทั้งสิ้นกว่า 6,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯในปี 2567 เติบโต 20% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ปัจจุบันการ์มินมีโรงงานผลิตอยู่ทั่วโลก ได้แก่ จีน ไต้หวัน เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ สหรัฐอเมริกา และได้เลือกประเทศไทยเป็นที่ตั้งโรงงานแห่งแรกในอาเซียน เนื่องจากมีทำเลที่ตั้งที่ดี อยู่ใจกลางภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีโครงสร้างพื้นฐานสำหรับอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ที่แข็งแกร่ง ระบบการขนส่งและโลจิสติกส์ทันสมัย บุคลากรมีคุณภาพ มีนโยบายส่งเสริมการลงทุนที่ดี และมีซัพพลายเชนในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ที่ครบวงจร เอื้อต่อการผลิตและสามารถรองรับตลาดที่เติบโตได้อย่างรวดเร็วนายนฤตม์ กล่าวอีกว่า ตั้งแต่บีโอไอเริ่มใช้ยุทธศาสตร์ใหม่ปี 2566-ก.ย.2568 มียอดขอรับส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าจำนวน 1,035 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนกว่า 760,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นการลงทุนในกิจการผลิตอิเล็ก ทรอนิกส์อัจฉริยะและเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะที่สามารถตรวจจับ รับข้อมูล เชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นหรือเชื่อมต่อโครงข่ายผ่านระบบไร้สายและมีระบบปฏิบัติการหรือระบบประมวลผลฝังตัวอยู่ในอุปกรณ์นั้น จำนวน 44 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนกว่า 92,700 ล้านบาท.คลิกอ่านคอลัมน์ “บทความไซเบอร์เน็ต” เพิ่มเติม