จากปัญหาเรื่องแก๊งมิจฉาชีพที่หลอกผู้คนให้โอนเงินผ่านบัญชีทางออนไลน์ที่มีผู้คนตกเป็นเหยื่อจำนวนมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รัฐบาลสิงคโปร์เล็งเห็นถึงปัญหานี้จึงได้ออกกฎหมายฉบับใหม่ขึ้นเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของแก๊งมิจฉาชีพโดยกฎหมายระบุให้มีการระงับการโอนเงินของบัญชีของบุคคลใดก็ตามที่มียอดเงินในบัญชีอย่างน้อย 38,800 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 1.2 ล้านบาท หากมีการโอนเงินในบัญชีเกินกว่า 50% ของยอดเงินทั้งหมด ก็จะทำการระงับการโอนเงินชั่วคราวเป็นเวลา 24 ชั่วโมงเพื่อทำการตรวจสอบก่อน และจะมีการแจ้งเตือนกับผู้โอนเงินด้วย เพื่อให้ตรวจสอบอย่างรอบคอบอีกครั้งว่า หลงกลมิจฉาชีพหรือไม่ หากยังคงยืนยันการโอนเงิน ระบบก็จะอนุมัติให้ผ่านหลังจาก 24 ชั่วโมงผ่านไปมาตรการป้องกันนี้จะใช้กับทั้งบัญชีออมทรัพย์และบัญชีกระแสรายวัน รวมถึงบัญชีร่วม และใช้กับทุกธุรกรรมดิจิทัลผ่านแอปพลิเคชันของธนาคารและอินเตอร์เน็ตแบงก์กิ้ง แต่การถอนเงินสดจากตู้ถอนเงินอัตโนมัติหรือเอทีเอ็ม จะไม่ได้รับผลกระทบ โดยกฎหมายนี้บังคับใช้กับธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ เช่น ดีบีเอส โอซีบีซี ยูโอบี ซิตี้แบงก์ เอชเอสบีซี เมย์แบงก์ และสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ ซึ่งสมาคมธนาคารแห่งสิงคโปร์ หรือเอบีเอส ได้ประกาศแนะนำให้ลูกค้าวางแผนล่วงหน้าสำหรับการทำธุรกรรมที่มีกำหนดเวลาเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียค่าธรรมเนียมที่ไม่พึงประสงค์เนื่องจากความล่าช้า แต่ในบางกรณีถ้าผู้โอนเงินจำเป็นต้องโอนเงินเร่งด่วนภายใน 24 ชั่วโมงของการพักรอเพื่อตรวจสอบ ผู้โอนเงินต้องติดต่อกับธนาคารโดยตรงเพื่อยืนยันว่า เป็นการโอนเงินอย่างถูกต้อง ไม่ได้หลงกลมิจฉาชีพ เพื่อให้ธนาคารอนุมัติการโอนเงินต่อไปนับว่าเป็นมาตรการที่ดีของรัฐบาลสิงคโปร์ที่จะป้องกันไม่ให้ประชาชนต้องตกเป็นเหยื่อของแก๊งมิจฉาชีพออนไลน์ในโลกยุคใหม่ที่นับวันยิ่งมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆอย่างน่ากลัว."ผู้เล็กผู้น้อย"คลิกอ่านคอลัมน์ “หน้าต่างโลก” เพิ่มเติม