เครื่องสะดุด ขัดจังหวะอีเวนต์ยกเครื่องพรรคลอตสอง สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย แกนนำรุ่นเดอะ ยื่นหนังสือลาออกจากสมาชิกพรรค โดยไม่มีเค้าลางมาก่อนสุดทนการบริหารงานพรรค หลังแตกหักปมการส่งตัวผู้สมัคร สส.ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน และผู้สมัครระดับท้องถิ่น โดนผู้มากบารมีในพรรคล้วงลูก ส่งเด็กเส้นลงสมัครแทนอีเวนต์เปิดตัว 22 ว่าที่ผู้สมัคร สส.เพื่อไทย รอบสอง ในพื้นที่ 12 จังหวัด ถูกฉีกหน้าด้วยกระแสขัดแย้งการส่งตัวผู้สมัคร สส.สมัยหน้า ระดับที่ผู้อาวุโสใหญ่ในพรรคฟิวส์ขาด ออกมาโวยวายเองเปลี่ยนวาระใหญ่เปิดตัวผู้สมัครที่หวังโชว์การยกเครื่องปฏิรูปพรรค เป็นเรื่องรูทีน แค่การเช็กชื่อคนลงสมัครแม้จะเป็นแค่เสียงเดียว แต่คือระดับอดีตหัวหน้าพรรค ผลกระทบเลยหนักหน่วง สะท้อนการขาดเอกภาพในพรรคขั้นรุนแรงเพื่อไทยตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก มีแต่ทรุด ไม่มีทรง โอกาสกวาด สส.ในการเลือกตั้งรอบหน้า 200 ที่นั่ง อย่างที่ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้อำนวยการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย วาดฝันไว้ ส่อเค้าเป็นเรื่องลมๆแล้งๆในสภาพที่ความนิยมพรรคดิ่งเหว ความเชื่อมั่น ความศรัทธาของประชาชนใกล้หมดหน้าตัก จากผลพวงปัญหาวิกฤติความมั่นคงชายแดนไทย-กัมพูชา จนต้องห้ามเลือดไหลออกอุตลุดฐานเสียงในถิ่นของตายอย่างภาคเหนือตอนบน หรือภาคอีสานไม่ได้แน่นปึ้กเหมือนอดีตแค่รักษาเก้าอี้ สส.ให้แตะ 100 ที่นั่งรอบหน้ายังดูริบหรี่ เอาแค่การเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญยังถูกหวดร่วง โดน สว.เลือกลงมติไม่รับหลักการเฉพาะร่างพรรคเพื่อไทยมีแต่เรื่องทับถม สภาพเครื่องติดๆดับๆ ทั้งความขัดแย้งในพรรค กระแสความนิยมประชาชน แม้กระทั่งเกมในสภาก็ไม่เป็นใจเกื้อหนุนสร้างความได้เปรียบให้พรรคเพื่อไทยทำได้แค่แก้ปัญหาเฉพาะหน้า ปั่นแต้มเฉพาะกิจ กระโจนชิงบทบาทปราบปรามแก๊งสแกมเมอร์กัมพูชา แชร์แต้มจากพรรคประชาชน ที่เป็นหัวโจกเปิดข้อมูลขบวนการคอลเซ็นเตอร์ตีกินผลงานสมัยรัฐบาล แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ขึงขังกวาดล้างองค์กรอาชญากรรมออนไลน์ มาเกทับสร้างราคาให้ตัวเอง กระโดดเกาะขบวนปราบอาชญากรออนไลน์ ยกโมเดลตัดไฟฟ้า อินเตอร์เน็ต น้ำมัน ยุครัฐบาลอดีต “นายกฯอิ๊งค์” มาขับเคลื่อนแก้ปัญหาฉวยจังหวะปั่นกระแสชาตินิยม ผสมโรงไปกับอารมณ์คนไทยที่อยากเห็นการถอนรากถอนโคนรัฐบาลกัมพูชาที่ใช้แก๊งสแกมเมอร์เป็นแหล่งสร้างรายได้เข้ากระเป๋า2 พรรคหลักฝ่ายค้าน “ประชาชน–เพื่อไทย” ลุยปั่นกระแสชาตินิยม ตุนแต้มให้ตัวเองคนละอารมณ์กับรัฐบาล “นายกฯหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย กลับต้องแจงปากเปียกปากแฉะ ไม่ได้เมินเฉยร่วมกดดันกำราบโจรไซเบอร์รัฐบาลตกเป็นขี้ปากชาวบ้าน ถูกมองเกียร์ว่างปราบสแกมเมอร์กัมพูชาต่างกันลิบลับกับแอ็กชันรัฐบาลเกาหลีใต้ที่ส่งระดับรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ระดับสูงบินด่วนกรุงพนมเปญกดดันรัฐบาลกัมพูชา ภายหลังเกิดเหตุนักศึกษาเกาหลีใต้ตกเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ฆ่าตายสถานการณ์บีบ “นายกฯหนู” ต้องดุดันเซ็นคำสั่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี นั่งหัวโต๊ะบัญชาการด้วยตัวเอง ระดมรัฐมนตรี หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมทีมลุยปราบเครือข่ายอาชญากรรมออนไลน์ข้ามชาติร่วมไปกับนานาประเทศ ประกาศเป็นนโยบายเร่งด่วน ให้เห็นความเอาจริงเอาจังร่วมบีบให้กัมพูชาจนมุมเรื่องด่วนเฉพาะหน้าให้เร่งปั่นแต้มมือเป็นระวิง มากกว่าการแก้เกมรัฐธรรมนูญที่เพิ่งเสียท่าพ่ายโหวตในที่ประชุมรัฐสภา ต้องใช้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคประชาชนเป็นร่างหลัก ตั้งแท่นยกร่างกติกาประเทศฉบับใหม่พุ่งเป้าเก็บคะแนนในประเด็นที่ตรงกับอารมณ์ความรู้สึกคนไทยทั้งประเทศ ฟันแต้มเป็นกอบเป็นกำได้ทันทีทันใด มากกว่าไปหมกมุ่นการแก้รัฐธรรมนูญที่ยังต้องสู้กันอีกยาวแม้จะพลาดเกมในสภา วืดใช้ร่างแก้รัฐธรรมนูญของพรรคภูมิใจไทยเป็นร่างหลัก แต่ก็แค่เสียหน้าชั่วคราว ยังไม่เสียท่า พลาดพลั้งเสียหายหนักสถานการณ์ที่ค่ายน้ำเงินยังกุมแต้มต่อ คุมกลไก สว.อยู่ในมือ รอทิ้งเป็นไพ่ตายล้มการแก้รัฐธรรมนูญในวาระ 3 หากแนวโน้มการแก้รัฐธรรมนูญไม่ได้ผลดั่งใจเหมือนที่เล่นงานพรรคเพื่อไทยให้เห็นเป็นหนังตัวอย่างมาแล้ว!!!ทีมข่าวการเมือง รายงานคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม