“อนุทิน” บินเยือน สปป.ลาว เชิญ “สอนไซ” เยือนไทยถกผู้นำแม่น้ำโขง-ล้านช้าง จับมือปราบอาชญากรรมข้ามชาติ เล็งขยายความร่วมมือเพิ่มการค้า 1.1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2027 “บวรศักดิ์”เตือนถ้ามีการร้องร่าง รธน.ขัดคำวินิจฉัยศาล รธน. 29 มี.ค. เอาเนื้อหา รธน.ไปทำประชามติไม่ได้ “สรวงศ์” มั่นใจแก้ รธน.ไม่สะดุด วาระรับหลักการแค่เปิดประตูให้แก้ รธน. ถ้าใครร้องคนร่วมโหวตผิดกันหมด พท.ขยี้ มท.1 ย้าย ขรก.ลอตใหญ่ เมินปราบแก๊งคอลฯ “ประเสริฐ” กระทุ้ง รบ.อย่ามัวทำงานตามกระแส ชงยกระดับปราบทุนสีเทา สแกมเมอร์ ชงมาตรการ 3 ตัดดัดหลังกัมพูชา จี้ รมว.ดีอีลากคอเอาผิดคนติดสินบน 40 ล้าน “ไชยชนก” โต้ รบ.ไม่ได้นิ่งเฉยตั้งกรรมการแล้ว โอดโดนอ่วม โอ่รอชมผลสอบเร็วๆนี้ “พจมาน” เข้าเรือนจำเยี่ยม “ทักษิณ” เผยอดีตนายกฯยังดูดี แค่ไม่สบายนิดหน่อยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี พร้อมภริยาและคณะรัฐมนตรี เดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) อย่างเป็นทางการประเทศแรก และในโอกาสพิเศษเนื่องในวาระครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-สปป.ลาว ภายหลังขึ้นดำรงตำแหน่งนายกฯ“อนุทิน” เยือน สปป.ลาวหารือ “สอนไซ”เมื่อเวลา 07.15 น. วันที่ 16 ต.ค. ที่ห้องรับรองพิเศษ 1 ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ พล.อ.อ.เสกสรร คันธา ผบ.ทอ.เป็นประธานพิธีประดับเครื่องหมายความสามารถในการบินชั้นกิตติมศักดิ์ของกองทัพอากาศ (ทอ.) ให้แก่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและ รมว.มหาดไทย ในฐานะผู้ทำคุณประโยชน์หรือมีบทบาทสนับสนุนภารกิจของ ทอ.ให้บรรลุผลสำเร็จ หลังรับมอบ น.ส.ธนนนท์ นิรามิษ ภริยา นำเครื่องหมายติดที่หน้าอกให้นายกฯก่อนร่วมถ่ายภาพกับ ผบ.ทอ.แล้วนำคณะเดินทางไปเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ถึงท่าอากาศยานนานาชาติวัดไต สปป.ลาว เวลา 09.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น เป็นการเยือนต่างประเทศครั้งแรกหลังดำรงตำแหน่ง ในโอกาสพิเศษเนื่องในวาระครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-สปป.ลาว มีนายบัวคง นามมะวง รมต.ประจำสำนักนายกฯ สปป.ลาวต้อนรับ โดยนายอนุทินเข้าร่วมพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ ที่สำนักงานนายกฯ สปป.ลาว ก่อนพบหารือเต็มคณะกับนายสอนไซ สีพันดอน นายกฯ สปป.ลาว จากนั้นเข้าเยี่ยมคารวะนายทองลุน สีสุลิด ประธานประเทศ สปป.ลาว และช่วงบ่ายนายอนุทินประชุมหารือร่วมกับทีมไทยแลนด์ และภาคเอกชนไทยใน สปป.ลาว พร้อมเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์และสักการะพระธาตุหลวงเชิญถกผู้นำ MLC–ร่วมปราบโจรออนไลน์ต่อมาเวลา 09.30 น. ที่สำนักงานนายกฯ สปป.ลาว นายอนุทินและภริยาร่วมพิธีต้อนรับเป็นทางการ ตรวจแถวกองทหารเกียรติยศร่วมกับนายสอนไซ สีพันดอน นายกฯ สปป.ลาว และนางวันดาลา สีพันดอน ภริยา จากนั้นนายกฯและนายสอนไซเป็นประธานร่วมหารือเต็มคณะ โดยนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกฯเปิดเผยว่า นายกฯเชิญนายกฯ สปป. ลาวเยือนไทยเป็นทางการเพื่อเข้าร่วมการประชุมผู้นำแม่น้ำโขง-ล้านช้าง (MLC Summit) ที่ไทยเป็นเจ้าภาพปลายปีนี้ ไทยพร้อมเข้าร่วมประชุม JC และ JBC ที่ สปป.ลาวจะเป็นเจ้าภาพในปีนี้ นายกฯ สปป.ลาวยินดีกับนายอนุทินในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง เชื่อมั่นจะนำพาไทยให้ก้าวหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน ได้หารือความร่วมมือด้านความมั่นคง เห็นพ้องร่วมกันแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะปัญหายาเสพติด การฉ้อโกงออนไลน์และการค้ามนุษย์เพิ่มการค้า 1.1 หมื่นล้านเหรียญนายสิริพงศ์กล่าวอีกว่า นายกฯยืนยันความพร้อมของไทยจัดการประชุมระหว่างกระทรวงพาณิชย์กับกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า สปป.ลาว (COOP ครั้งที่ 8) กำหนดแนวทางเพิ่มปริมาณการค้าระหว่างกัน ส่งเสริมการค้าชายแดน และการส่งเสริมเครือข่ายผู้กระกอบการ SMEs เพื่อบรรลุเป้าหมายการค้าที่ 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯภายในปี 2027 ขอให้ สปป.ลาวสนับสนุนการลงทุนจากไทยด้านพลังงานและธุรกิจ โดยเฉพาะการผลิตไฟฟ้าจากแผงโซลาร์ให้ 2 ประเทศผลิตไฟฟ้าร่วมกันได้มาก ไทยพร้อมมีบทบาทเชิงรุกสนับสนุนให้เกิดสันติภาพที่ยั่งยืนในเมียนมา เชื่อว่าการเลือกตั้ง ของเมียนมาปลายปีนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการสันติภาพเป็นสักขีพยาน–มอบความช่วยเหลือต่อมาเวลา 09.45 น. ที่โถงบันไดกลาง สำนักงานนายกฯ สปป.ลาว นายอนุทินและนายสอนไซร่วมเป็นสักขีพยานพิธีแลกเปลี่ยนบันทึกความเข้าใจ 1 ฉบับ และพิธีส่งมอบความช่วยเหลือจากฝ่ายไทยแก่ฝ่ายลาว รวม 4 รายการ แล้วนำคณะไปยังทำเนียบประธานประเทศ สปป.ลาวเข้าเยี่ยมคารวะ นายทองลุน สีสุลิด ประธานประเทศ สปป.ลาว ต่อมาเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารกลางวัน ณ สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงเวียงจันทน์ และเวลา 11.00 น. ที่ทำเนียบประธานประเทศ สปป.ลาว นายอนุทินเข้าเยี่ยมคารวะ นายทองลุน สีสุลิด ประธานประเทศ สปป.ลาว เห็นพ้องที่จะร่วมกันแก้ไขปัญหาข้ามแดนที่ส่งผลต่อความปลอดภัยและคุณภาพชีวิตประชาชนถกภาคเอกชนไทยดัน ศก.win–winกระทั่งเวลา 13.20 น. ที่ทำเนียบเอกอัครราชทูต กรุงเวียงจันทน์ นายอนุทินประชุมหารือร่วมกับทีมไทยแลนด์และพบปะหารือแลกเปลี่ยนความเห็นกับผู้แทนภาคเอกชนไทยจากบริษัทชั้นนำต่างๆ ธนาคารกรุงเทพ กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ ราชกรุ๊ป พีทีที ลาว ซีพี ออลล์ ลาว โดยนายสิริพงศ์กล่าวว่า นายกฯได้ขอให้ภาคเอกชนไทยดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคม และส่งเสริมการจัดกิจกรรม CSR อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างภาพลักษณ์นักลงทุนไทยในฐานะนักลงทุนคุณภาพที่ลาวไว้วางใจ พร้อมสนับสนุนให้ทุกหน่วยงานสร้างเครือข่ายกับบุคคลระดับสูงของลาวในพื้นที่ต่างๆ เพื่อขยายเครือข่าย “Friends of Thailand” ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น จะนำไปสู่การสร้างผลประโยชน์ร่วมกันอย่างยั่งยืนในลักษณะ win-win ทั้งสองฝ่าย“บวรศักดิ์” ชี้ยุบสภาก่อนแก้ รธน.ชะงักเมื่อเวลา 10.55 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกฯ กล่าวถึงกรณีมีข้อสังเกตหากรัฐบาลอยู่ไม่ครบ 4 เดือนจะกระทบกับไทม์ไลน์การแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ว่าไม่เกี่ยวกัน เป็นเรื่องของสภาฯ แต่ถ้ายื่นยุบสภาก่อนแก้รัฐธรรมนูญถึงจะชะงัก แต่ถ้ารัฐธรรมนูญอยู่ในการพิจารณาของคณะ กมธ.แล้วมีเหตุอื่นเปลี่ยนรัฐบาล สภาฯดำเนินเรื่องไปถ้ายุบสภาก็จบ แต่รัฐบาลใหม่ขอให้สภาฯหยิบขึ้นมาพิจารณาได้ภายใน 60 วัน ส่วน พ.ร.ป.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติฉบับใหม่ ที่นำขึ้นทูลเกล้าฯไปแล้ว จะครบ 90 วันวันที่ 3 พ.ย.68 จะมีการโปรดเกล้าฯใด ไปเดาไม่ได้เป็นพระราชอำนาจ ถ้าใช้ พ.ร.บ.ประชามติ พ.ศ.2564ไทม์ไลน์เร็วขึ้น แต่ถ้าใช้ พ.ร.ป.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติฉบับใหม่และลงมาก่อนวันที่ 3 พ.ย. ไทม์ไลน์ก็เปลี่ยน สภาฯจะมีเวลามากขึ้นอีกหนึ่งเดือน แต่อย่ากังวลขอให้รอดูวาระ 3เมื่อถามถึงกรณีที่สภาฯเห็นชอบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรค ปชน.เป็นร่างหลัก กังวลจะเปิดโอกาสให้แก้หมวด 1 และหมวด 2 นายบวรศักดิ์กล่าวว่า ต้องดูร่างที่สภาฯผ่านในวาระ 3 ส่วนวาระ 1 และ 2 ไม่สำคัญ เพราะกว่าจะถึงวาระ 3 จะแก้อะไรก็แก้ได้ หมวด 1 หมวด 2 ที่กังวลว่าจะขัดคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ต้องดูร่างสุดท้ายที่สภาลงมติวาระ 3 ถ้ามีการไปร้องศาลรัฐธรรมนูญ และอยู่ระหว่างการวินิจฉัย จะเอาเนื้อหารัฐธรรมนูญไปทำประชามติวันที่ 29 มี.ค.ไม่ได้ จะถามได้เพียงคำถามเดียวว่าเห็นชอบให้จัดทำรัฐธรรมนูญใหม่หรือไม่ เมื่อถามว่า ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไม่ให้เลือก ส.ส.ร.โดยตรงจากประชาชน จะทำอย่างไรให้ยึดโยงประชาชน นายบวรศักดิ์กล่าวว่า มีหลายทาง ศาลบอกไม่ให้เลือกตั้งโดยตรง ก็ใช้เลือกตั้งโดยอ้อม ที่มีวิจารณ์ว่าศาลวินิจฉัยเกินคำขอ การห้ามศาลตัดสินเกินคำขอ ใช้ในกฎหมายแพ่งและกฎหมายอาญาเป็นเรื่องบุคคล จะใช้ในกฎหมายไม่ได้ กฎหมายมหาชนคุ้มครองสิทธิสาธารณะเป็นเรื่องปกติ ไม่ได้ผิดปกติ เมื่อถามว่าถ้า MOA เปลี่ยนแปลงจะกระทบไทม์ไลน์แก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายบวรศักดิ์กล่าวว่า ถ้า MOA ไม่เปลี่ยนซึ่งไม่แน่ เหตุการณ์ทางการเมืองทั้งหมดเราไม่รู้ สื่อรู้ว่าการเมืองมันเปลี่ยนทุกวัน ไม่ได้เปลี่ยนทุกเดือน แต่วันนี้คืออย่างนี้ ยังไม่มีเหตุให้เปลี่ยน“สรวงศ์” มั่นใจรื้อ รธน.ไม่ถูกร้องสะดุดนายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรค พท. ให้สัมภาษณ์กรณีพรรค พท.โหวตสนับสนุนให้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรค ปชน.เป็นร่างหลัก หลังร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรค พท. ถูก สว. ตีตกว่า เราเห็นว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรค ปชน.ยึดโยงกับประชาชนเรื่องที่มาของ ส.ส.ร. ต่างจากร่างของพรรค ภท. ที่ไม่มีอะไรยึดโยงกับประชาชนเลย เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ เมื่อใช้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรค ปชน.เป็นร่างหลัก จะมีผู้ไปยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญสะดุดลง นายสรวงศ์กล่าวว่า ไม่กังวล กระบวนการที่ผ่านรัฐสภาเมื่อวันที่ 15 ต.ค.เป็นเพียงการเปิดโอกาสให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ ยังไม่ได้ลงเนื้อหาที่จะมีใครหยิบยกไปยื่นร้องได้ เพราะกระบวนการทุกอย่างถูกต้องตามที่ศาลรัฐธรรมวินิจฉัย เชื่อว่าคงไม่มีใครไปร้องเพราะถ้าร้องขึ้นมาคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโหวตจะมีความผิดไปด้วย โดยคณะกรรมาธิการในสัดส่วนของพรรค พท.จะเข้าไปทำหน้าที่เป็นปากเป็นเสียงของประชาชนอย่างเต็มความสามารถเพื่อให้ได้มาซึ่งรัฐธรรมนูญใหม่ขยี้ย้าย ขรก.ลอตใหญ่–ไม่ปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์เมื่อเวลา 10.35 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาฯ มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุมพิจารณากระทู้ถามสดของ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ สส.กทม.พรรค พท. ถาม รมว.มหาดไทย การโยกย้ายข้าราชการมหาดไทยครั้งใหญ่ 45 ตำแหน่ง ทำไมถึงกล้าทำ ไม่ตอบโจทย์ปัญหาประชาชน ถูกมองการโยกย้ายเพื่อประโยชน์และความได้เปรียบการเลือกตั้ง ขบวนการฟอกเงินที่บ่อนกาสิโนในกัมพูชา ไม่เห็นท่าทีรัฐบาลจะแก้ไข ต่างจากเกาหลีใต้ใช้ยาแรงปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่รัฐบาลไทยเงียบมาก ไม่กระดิกเลย อดสงสัยไม่ได้ รัฐบาลมีส่วนรู้เห็น หรือช่วยเปิดทางแก๊งคอลเซ็นเตอร์มาหลอกลวงประชาชนหรือไม่“ศักดิ์ดา” ซัดกลับ รบ.ก่อนย้าย 3 รอบขณะที่นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงกระทู้ถามสดแทน รมว.มหาดไทยว่า การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการเดือน ต.ค.มีข้าราชการมหาดไทยเกษียณ 20 กว่าตำแหน่ง ต้องมีคนไปแทน ช่วงรัฐบาลที่แล้วโยกย้ายนอกฤดู ที่ ครม.มีมติโยกย้ายวันที่ 14 ต.ค. อยู่ในฤดูโยกย้าย ก่อนหน้านี้มีมติ ครม.3 ครั้ง ครั้งแรกวันที่ 8 ก.ค. โยกย้าย 4 คนที่รุนแรง อธิบดีถูกย้ายเป็นผู้ตรวจราชการเข้ากรุ ครั้งที่ 2 และ 3 เดือน ส.ค. ย้ายอีก แต่รัฐบาลนี้โยกย้ายช่วงเกษียณเป็นเรื่องปกติ ทุกคนได้รับความเป็นธรรม ถ้าไม่ได้รับความเป็นธรรมไปร้องคณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรมหรือศาลปกครองได้ ไม่อยากให้เอามาเป็นประเด็นการเมืองให้ประชาชนสับสน ส่วนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไม่ใช่เพิ่งมีรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล แต่ 2 รัฐบาลที่ผ่านมาเพิ่งมาปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์จริงจังช่วงปลายรัฐบาลก่อน อยากขอเอกสารยืนยันจากรัฐบาลที่แล้วปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์หมดไปจริง ไม่เชื่อว่าหมด 100% แต่รัฐบาลนี้ยังปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์เหมือนเดิมไม่ลดละพท.ยุมาตรการ 3 ตัดดัดนิสัยกัมพูชาต่อมาเวลา 13.00 น. ที่รัฐสภา นายประเสริฐ จันทรรวงทอง อดีตรองนายกฯและอดีต รมว.ดิจิทัลฯ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.กทม.พรรค พท. แถลงการณ์ “ข้อเสนอมาตรการเชิงรุกร่วมปราบปรามสแกมเมอร์ ขบวนการฟอกเงินและอาชญากรรมข้ามชาติ” โดยนายประเสริฐกล่าวว่า ปัญหาสแกมเมอร์ อาชญากรรมข้ามชาติเคยได้รับการแก้ไขเห็นผลเป็นรูปธรรมในรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แต่กลับมาเป็นปัญหาต่อประชาชน ขณะที่การกดดันจากสหรัฐฯ เกาหลีใต้ เดินหน้าปราบปรามขบวนการสแกมเมอร์ในกัมพูชาจริงจัง พรรค พท.เรียกร้องรัฐบาลยกระดับเดินหน้ามาตรการเชิงรุก 1.ดำเนินมาตรการ 3 ตัด ตัดไฟ อินเตอร์เน็ต การขนส่งน้ำมัน สกัด ScamCenter ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา 2.เข้มงวดปิดเส้นทางธรรมชาติ ป้องกันหลอกลวงคนไทยข้ามและลักลอบหนีกลับเข้าประเทศ 3.เจรจาประเทศเพื่อนบ้าน ตั้งศูนย์บริหารเหตุการณ์แก๊งคอลเซ็นเตอร์และค้ามนุษย์นานาชาติ (ศกค.) ระดมความร่วมมือนานาประเทศ ปราบอาชญากรรมออนไลน์ข้ามชาติเป็นรูปธรรมแซะ รบ.อย่าแค่ทำงานตามกระแส นายประเสริฐกล่าวว่า 4.เจรจากดดันให้กัมพูชายอมรับเงื่อนไขข้อ 3 ร่วมปราบปรามสแกมเมอร์ 5.ให้รัฐบาลจริงจังจัดการระงับบัญชีม้า และซิมผูกโมบายแบงกิ้งที่ได้รับการยืนยันเกี่ยวข้อง และปราบปรามเว็บพนัน ป้องกันมิจฉาชีพออนไลน์ในประเทศ 6.จัดประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์ ตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 เร่งออกกฎหมายลำดับรอง ให้สอดคล้อง พ.ร.ก.ป้องกันและปรามอาชญากรรมด้านไซเบอร์และ พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัล 7.ให้รัฐบาลใช้ศูนย์ AOC1441 ที่ตั้งขึ้นในรัฐบาลที่แล้วเป็น OneStop Service ช่วยประชาชนเร่งด่วน รัฐบาลนายอนุทินเอาผลประโยชน์ประเทศและประชาชนเป็นตัวตั้งแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาแบบหวังผลจริงปราบปรามคอลเซ็นเตอร์จริงจัง เป็นยุทธศาสตร์หลักกดดันกัมพูชาแก้ปัญหาชายแดนอย่างถูกต้อง ไม่ทํางานตามกระแสเพื่อหวังคะแนนนิยมและผลทางการเมืองจี้ “ไชยชนก” ลากคอคนเสนอสินบนนายประเสริฐกล่าวว่า รัฐบาลควรมีความชัดเจนปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จะโยนความรับผิดชอบให้ฝ่ายใดไม่ได้ ที่ผ่านมานายกฯพยายามบ่ายเบี่ยงตอบปัญหา นานาชาติกดดันรัฐบาลกัมพูชาเป็นโอกาสที่รัฐบาลไทยจะแสดงจุดยืนร่วมมือกับนานาชาติแก้ปัญหาร่วมกัน ทั้งจีน สหรัฐฯ อังกฤษ เกาหลีใต้ดำเนินการแล้ว อยากให้ไทยดำเนินการอย่างเร่งด่วน ที่นายไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดิจิทัลฯ แฉมีการให้สินบน 40 ล้านบาท แลกไม่ปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สมัยตนเป็นรัฐมนตรี 2 ปี ไม่มีใครพูดเรื่องนี้เลย แต่รัฐมนตรีใหม่ยังไม่เคยมานั่งในตำแหน่งกลับมีคนมาเสนอแล้ว รัฐบาลจะตรวจสอบให้เสร็จใน 30 วันไม่ควรถึง ทราบดีว่าใครเป็นคนให้ข้อมูลคือ สส. 2 คน จากพรรค ภท.และมีผู้ช่วย สส. อีก 1 คน หาต้นตอไม่ยาก รัฐมนตรีรับปากจะหาคนผิดให้ได้ใน 30 วัน ไม่ใช่เรื่องยาก เรื่องไปถึงไหนแล้ว ไม่ซับซ้อน เป็นคนใกล้ตัวนายไชยชนกทั้งสิ้น เรียกมาให้การและดำเนินคดีผู้กระทำความผิดได้“ไชยชนก” เถียง รบ.ตั้ง กก.ไม่นิ่งเฉยต่อมาเวลา 13.50 น. นายไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดิจิทัลฯ (ดีอี) กล่าวถึงการปราบปรามสแกม เมอร์หลังตั้งคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี แต่ถูกตั้งคำถามว่ารัฐบาลนิ่งเฉย ยืนยันรัฐบาลไม่ได้นิ่งเฉย เป็นเรื่องสำคัญที่กระทรวงดีอีเดินหน้ามามากแล้ว การตั้งคณะกรรมการโดยนายกฯเป็นประธานเอง เป็นสิ่งที่ดีทุกองคาพยพทำงานร่วมกันที่ทรงพลัง หากดูจากรายชื่อคณะกรรมการ มีหลายหน่วยงานรวมถึงหน่วยงานทหารด้วย ตั้งเป้าหมายปราบเรื่องนี้ใน 4 เดือนจ่อบิน UN ลงนามร่วมมือนานาชาติเมื่อถามว่าจะปราบปรามให้หมดเลยหรือไม่ นายไชยชนกกล่าวว่า มีหลายปัจจัย ทั้งการต่างประเทศที่เกี่ยวข้องในกัมพูชา มีข้อจำกัดระหว่างประเทศ ไม่ว่าสแกมเมอร์ คอลเซ็นเตอร์ มิจฉาชีพ หากเกิดในไทย ตำรวจมีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบเต็มที่ แต่ข้ามแดนไปตำรวจและทหารไทยไม่สามารถทำอะไรได้ แต่ที่สั่งการให้ศึกษาแล้วและเตรียมจะเสนอให้คณะกรรมการคือการศึกษากฎหมายใหม่ “Active Cyber Defence 2025” ที่ประเทศญี่ปุ่นเพิ่งออกมา มีหลายประเทศทำลักษณะคล้ายกัน เป็นกฎหมายตอบโต้ทางไซเบอร์ได้ เวลามีการคุกคามเราทางไซเบอร์ เรามีทีมงานเฉพาะหรือคณะกรรมการอนุมัติเรื่องต่อเรื่องและแฮ็กกลับได้ โดยไม่ได้ผิดกฎหมายระหว่างประเทศ เวียดนามหรือญี่ปุ่นก็ทำ ปลายเดือนนี้จะลงนามความร่วมมือที่สหประชาชาติด้วยโอดโดนอ่วม โวรอชมผลสอบสินบนเมื่อถามว่าฝ่ายค้านเปิดตัวละครนายเบน สมิท มีสัมพันธ์กับคนในรัฐบาล เช่น ร.อ.ธรรมนัส พรหม เผ่า รองนายกฯและ รมว.เกษตรฯ นายไชยชนกกล่าวว่า ในเชิงลึกแบบนี้คงตอบไม่ได้ว่า ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ที่ทำได้คงต้องรับไปตรวจสอบ แต่เมื่อนายกฯตั้งคณะกรรมการแล้ว ทุกคนต้องรวบรวมข้อเท็จจริงและส่งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงดำเนินการ อาจไม่ใช่แค่กระทรวงดีอีรวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย ที่ตั้งข้อสังเกตมีนักการเมืองเกี่ยวข้อง ทำให้แก้ปัญหาสแกมเมอร์ล่าช้าสะดุด ตอบไม่ได้ แต่ที่ผ่านมาเราเดินเต็มที่มาตลอดและจะเดินเต็มที่ต่อไป ถามว่ามีอุปสรรคไหม ตั้งแต่ประกาศตัวมาเจออุปสรรครุมเร้ามาก สงสัยเหมือนกัน คนคิดดีทำดี ทำงานเต็มที่กลายเป็นว่าโดนหมดทุกทางมากกว่าเดิม น่าคิด แต่สรุปอะไรไม่ได้ เราไม่มีหลักฐาน แต่ถ้ามีหลักฐานดำเนินการเต็มที่ กลุ่มที่ตั้งข้อสังเกตและนำเสนอ หากมีหลักฐานควรนำมาให้ชัดเจน ช่วยกันดำเนินการเร็วขึ้นเมื่อถามว่าตอนนี้สหรัฐฯยึดทรัพย์นักธุรกิจบิทคอยน์ ไทยจะดำเนินการด้วยหรือไม่ นายไชยชนกกล่าวว่า เดินไปให้สุดทุกทาง นายกฯตั้งคณะกรรมการคงเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ ส่วนความคืบหน้าตรวจสอบเงินสินบน 40 ล้าน แลกไม่ปราบ สแกมเมอร์ นายไชยชนกกล่าวว่า เพื่อความชัดเจน ตอนนี้สแกมเมอร์หรือไม่ ไม่แน่ใจ แต่เว็บที่ตรวจสอบพบถือว่าใช่ จะโยงสแกมเมอร์หรือไม่ ต้องแยกกันก่อน ขอให้รอชมความคืบหน้าการตรวจสอบ เมื่อถามย้ำว่าอดีต รมว.ดีอีทวงถามตรวจสอบถึงไหนแล้ว นายไชยชนกกล่าวว่า รอชม ตอนแรกคิดว่า 30 วัน แต่ตอนนี้ทราบว่าเร็วกว่านั้น ขอให้รอชมเร็วๆนี้กมธ.จ่อสรุปผลศึกษา MOU43-44นายไชยชนกในฐานะประธาน กมธ.วิสามัญพิจารณาบันทึกความเข้าใจ (MOU) 2543 และ 2544 ระหว่างไทย-กัมพูชา สภาฯเปิดเผยว่า จะได้ข้อสรุป MOU 43 นำเข้าสู่การพิจารณา MOU44 ข้อดี ข้อเสีย ข้อระวังการยกเลิกหรือไม่ยกเลิกใน กมธ.มีความเห็นต่างกัน เมื่อถามว่าหากยกเลิก MOU 43 จะเจรจายากขึ้นหรือไม่ โยงถึงการปักปันหลักเขตแดนหรือไม่ นายไชยชนกกล่าวว่า หลักเขตไม่ใช่การปักปันแล้วจะได้ข้อสรุปว่านี่คือเขตใหม่ ตามข้อตกลงหากปักปันเสร็จต้องนำเข้าสู่สภาฯก่อนเพื่อยืนยันอีกครั้ง วันที่ 17 ต.ค. ครม.ที่เกี่ยวข้องก็จะหารือกันด้วย“ทนายอั๋น” ร้องสภาถกล้างทุนเทาช่วงสาย ที่รัฐสภา นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น บุรีรัมย์ ยื่นหนังสือร้องทุกข์ ถึงนายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาฯ คนที่ 2 ผ่านว่าที่ร้อยตรี สัณห์ พิยะ นิติกรเชี่ยวชาญ รักษาการผู้บังคับบัญชากลุ่มงานประสานการเมืองและรับเรื่องราวร้องทุกข์ สำนักงานประธานสภาฯ ขอให้นำกรณีการทำผิดของกลุ่มเครือข่ายทุนสีเทาสแกมเมอร์ คอลเซ็นเตอร์ เครือข่ายการค้ามนุษย์และกระบวนการฟอกเงิน ที่มีฐานปฏิบัติการผิดกฎหมายในกัมพูชาเข้าสู่ที่ประชุมสภาฯเป็นกรณีพิเศษวาระเร่งด่วน โดยนายภัทรพงศ์กล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐฯยึดบิทคอยน์ 127,271 BTC 490,000 ล้านบาท เครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์โดยประธานกลุ่ม Prince Holding Group ของกัมพูชา สหภาพยุโรปตรวจสอบและยึดอายัดทรัพย์สินของกลุ่มเครือข่ายทุนสีเทาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์และกลุ่มค้ามนุษย์ที่มีฐานที่มั่นอยู่ในกัมพูชา รัฐบาลเกาหลีใต้เร่งปราบปรามจริงจัง เหตุใดรัฐบาลและรัฐสภาไทย ไม่ดำเนินการใดๆเรื่องนี้ ดูเหมือนประเทศไทยจะทะนุถนอม บำรุงรักษา หรือจะมีผลประโยชน์ใดๆของนักการเมืองไทยเกี่ยวข้องหรือไม่ อย่างไร รัฐบาลต้องเร่งตรวจสอบและจัดการจริงจัง ตรงไปตรงมา ขอให้นำประเด็นนี้เข้าสู่ที่ประชุมสภา เป็นกรณีพิเศษในวาระเร่งด่วนให้ สส.อภิปราย ระดมความเห็น หามาตรการปราบปรามสว.สำรองฟ้อง ม.157 กกต. ยื้อคดีฮั้ว สว.เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นายวิเชียร ศรีสุด และสมาชิกชมรมสภาเที่ยงธรรม พร้อม พ.ต.อ.สมพล เรืองเกตุพันธุ์ สว.สำรอง และอดีตผู้สมัคร สว.ที่เข้ารอบสุดท้ายเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง กกต.ทั้ง 8 คนข้อกล่าวหากระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 โดยนายวิเชียรอ่านแถลงการณ์ว่า สืบเนื่องจากเดือน ก.ย. ภาคีเครือข่ายเพื่อการปฏิรูปสถาบันนิติบัญญัติ (ภปน).ได้รับร้องเรียนจาก สว.สำรองและอดีตผู้สมัคร สว.ว่า กกต.ทำสำนวนยื่นถอดถอน สว.138 คนนานเกิน 1 ปี ยื้อเวลาคณะกรรมการและเลขาธิการ กกต.ไม่ได้ควบคุม กำกับ ดูแล ตรวจสอบและเร่งรัด การปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ทำให้สำนวนถอดถอน สว.ล่าช้า กกต.ยังไม่ส่งสำนวนยื่นถอดถอน สว.ไปยังศาลฎีกา (แผนกเลือกตั้ง) ทำให้ สว.สำรองและอดีตผู้สมัคร สว.เสียหายไม่อาจเลื่อนขึ้นไปแทนที่ สว.ที่ถูกยื่นถอดถอนได้ศาลฯรับฟ้องนัดตรวจคำฟ้อง 3 พ.ย.พ.ต.อ.สมพลกล่าวว่า กกต.ทั้ง 8 คนพบพฤติกรรมเข้าข่ายยื้อกระบวนการสอบสวนคดีฮั้ว สว.ควรต้องเร่งสืบสวนสอบสวนตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค.67 ที่ประกาศผลเลือกตั้ง คดีนี้ตามหลักแล้วต้องใช้เวลาประมาณ 1 ปี แต่ล่วงเลยมากว่า 3 เดือนแล้วไม่คืบหน้า ดีเอสไอสืบสวนสอบสวนแล้วเสร็จส่งเรื่องให้ กกต.ตรวจสอบในกรอบ 60 วันแต่ กกต.กลับตั้งหลักเกณฑ์ใหม่ ส่งสำนวนไปยังคณะต่างๆของ กกต.ที่ตั้งขึ้นเองเป็นการยื้อเวลา หากนับรวมทุกขั้นตอนต้องใช้มากกว่า 8 เดือน จึงจะส่งสำนวนให้ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งได้ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางรับคำฟ้อง เป็นคดีหมายเลขดำที่ อท.182/2568 พร้อมนัดตรวจคำฟ้องวันที่ 3 พ.ย.68 เวลา 09.30 น.“หญิงอ้อ” เข้าเรือนจำเยี่ยม “ทักษิณ”เมื่อเวลา 09.00 น. บริเวณหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม และส่วนของศูนย์บริการเยี่ยมญาติ ถือเป็นครั้งที่ 9 ในการเยี่ยมญาตินายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ เป็นตัวแทนครอบครัวเข้าเยี่ยมนายทักษิณ โดยมีนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความประจำตัวของนายทักษิณ ร่วมเดินทางมาด้วย ท่ามกลางมวลชนคนเสื้อแดงคอยส่งเสียงให้กำลังใจอย่างต่อเนื่อง ทันทีที่คุณหญิงพจมานลงมาจากรถได้ทักทายสื่อมวลชน โบกมือทักทายพร้อมพูดคุยกับกลุ่มมวลชนคนเสื้อแดง ส่วนใหญ่มาจาก จ.ศรีสะเกษให้กำลังใจนายทักษิณเล่าถึงความหลังสมัยที่นายทักษิณลงพื้นที่ตอนเป็นนายกฯ บางจังหวะคุณหญิงพจมานจับมือกับมวลชนคนเสื้อแดงรับหนังสือเนื้อหาให้กำลังใจอย่างเป็นกันเองด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมกล่าวขอบคุณ จากนั้นเดินเข้าเรือนจำฯเผยอดีตนายกฯไม่สบายนิดหน่อยกระทั่งเวลา 10.20 น. คุณหญิงพจมาน นายวิญญัติและผู้ติดตามออกมาจากเรือนจำฯ โดยคุณหญิงพจมานเปิดเผยสั้นๆว่า นายทักษิณยังคงดูดี แต่แค่ไม่สบายนิดหน่อย ก่อนรีบขึ้นรถยนต์ส่วนบุคคลเดินทางออกจากพื้นที่เรือนจำฯด้านนายวิญญัติกล่าวว่า นายทักษิณฝากขอบคุณคนเสื้อแดงและประชาชนทางบ้านที่ให้กำลังใจ ท่านมีกำลังใจขึ้นมาก แม้ท่านอยู่ด้านในยังคงเป็นห่วงประชาชนเหมือนเดิม แต่พวกเราเป็นห่วงท่าน เพราะยังคงมีอาการโรคประจำตัวอยู่ เรื่องกระดูก กระดูกต้นคอเกี่ยวกับไขสันหลัง และภาวะที่ตับและโรคหัวใจ แต่พยายามดูแลตัวเองอย่างดี ได้รับการตรวจจากแพทย์ของทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์เป็นระยะแทบจะทุกสัปดาห์ อยู่ที่แพทย์เฉพาะด้านวนเวียนกันมาตรวจ แต่ถ้าด้านใดเกินศักยภาพเราอาจต้องร้องขอ แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นร้องขอตรวจห้องปฏิบัติการพิเศษ ท่านทานยาเป็นประจำ ยังอยู่ในการดูแลของราชทัณฑ์อย่างดีขณะที่นางผุสดี กลิ่นทอง หรือ อ.เป้า แดงสิงห์บุรีกล่าวว่า คนเสื้อแดงรวมตัวทำกิจกรรมด้านหน้าเรือนจำฯวันเสาร์ที่ 18 ต.ค. มีกำหนดการกิจกรรมทานข้าวหน้าเรือนจำฯ กลุ่ม พปศ. (เพื่อชาติเพื่อประชาธิปไตยและคนที่เรารักและศรัทธา) มีเมนูชื่อต้มยำเขากระโดง ต้มโคล้ง สว.“บวรศักดิ์” เผย “ทักษิณ” ยังยื่นฎีกาได้ที่ทำเนียบรัฐบาล นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกฯฝ่ายกฎหมายกล่าวถึงการขอรับพระราช ทานอภัยโทษของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯว่า ถือเป็นสิทธิตามกฎหมายของผู้ต้องโทษในมาตรา 259 แต่สิทธินี้จะถูกจำกัดในกรณีขอพระราชทานอภัยโทษแล้วถูกยกหนหนึ่ง จะยื่นใหม่อีกไม่ได้จนกว่าจะพ้น 2 ปี เมื่อถามว่ากรณีนายทักษิณมีการยกฎีกาจริงหรือไม่ นายบวรศักดิ์กล่าวว่า กรณีนายทักษิณมีพระบรมราชโองการพระราชทานพระมหากรุณาอภัยลดโทษเหลือโทษจำคุกต่อไปอีก 1 ปี เมื่อวันที่ 31 ส.ค.66 เมื่อศาลฎีกามีคำสั่งบังคับโทษ นายทักษิณจึงเข้าไปรับโทษ ฉะนั้น จึงไม่มีการยกฎีกาอะไรมาก่อน เพราะนายทักษิณยังไม่ได้ถวายฎีกาอะไรเลย เมื่อถามว่านายทักษิณยังยื่นได้ใช่หรือไม่ นายบวรศักดิ์กล่าวว่า ยื่นได้ถือว่าเป็นสิทธิโดย รมว.ยุติธรรมมีหน้าที่ถวายเรื่องราวส่งมายังคณะเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต้องนำเรื่องนี้กราบบังคมทูลเสนอไปยังกรมราชเลขานุการในพระองค์ สำนักพระราชวัง เมื่อถามย้ำว่านายทักษิณยังไม่เคยถูกยกฎีกาใช่หรือไม่ นายบวรศักดิ์กล่าวว่า มีการถวายฎีกา แต่เป็นเรื่องที่ รมว.ยุติธรรมมีหน้าที่ถวายคำแนะนำ ท้ายที่สุดเป็นพระบรมราชวินิจฉัย เหตุผลที่ รมว.ยุติธรรมเห็นว่าควรจะยก แต่ตนไม่สามารถแถลงรายละเอียดได้ เรื่องยังอยู่ในขั้นตอนการกราบบังคมทูล อธิบายได้เพียงแต่ข้อกฎหมายอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่