นายกฯลุยเองนั่งประธานปราบปรามสแกมเมอร์กัมพูชา ดึง “ผู้ว่าการ ธปท.-เพิ่มพูน-จิรภพ” ร่วมล้างบาง พร้อมประกาศไม่ได้หายแต่งานเยอะ หลัง “รังสิมันต์ โรม” สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค ปชน. และไอซ์ รักชนก ตามหาคนหาย ภายหลังจากสหรัฐฯ-เกาหลีใต้ เปิดปฏิบัติการเขย่ารังสแกมเมอร์ กองทัพภาคที่ 2 เลื่อนคุย RBC กับกัมพูชาออกไปอย่างไม่มีกำหนด เหตุจากกัมพูชายังไม่ส่งแผนการปฏิบัติที่ชัดเจนและข้อเสนอลดความขัดแย้งอย่างเป็นรูปธรรม ขณะที่กระทรวงกลาโหมเย้ย “ฮุน เซน” กดดันไทยเปิดด่าน 20 ต.ค.นี้ เหตุจากสูญเสียรายได้หรือไม่ ทหารไทยจับมือเดินบนผืนดินของชาวบ้านหนองหญ้าแก้ว ร่วมร้องเพลงสยามานุสสติ แสดงออกถึงสัญลักษณ์แผ่นดินไทยและได้รับการเคลียร์ระเบิดออกแล้วหลังจากสหรัฐอเมริกาและเกาหลีใต้ไม่ทน เปิดปฏิบัติการเขย่ารังสแกมเมอร์ กดดันกัมพูชาบีบให้ปราบแก๊งสแกมเมอร์ในกัมพูชา เพื่อกวาดล้างขบวนการหลอกลวงทางออนไลน์ ที่เป็นมหันตภัยต่อผู้คนทั่วโลกและเกาหลีใต้ได้ส่งคนเข้ามานำชาวเกาหลีใต้ออกจากประเทศกัมพูชา หลังตกเป็นเหยื่อของสแกมเมอร์ ขณะเดียวกัน มีหลายฝ่ายเรียกร้องให้ไทยร่วมปราบปรามด้วยนั้นเมื่อวันที่ 15 ต.ค.นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ได้เทกแอ็กชันเรื่องนี้ ลงนามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 341/2568 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพื่อให้การป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและการกระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับเงินที่ได้จากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทันต่อสถานการณ์ เพื่อลดความเสียหายและผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล มีนายกฯเป็นประธาน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกฯ รมว.คลัง รมว.ต่างประเทศ รมว.ยุติธรรม และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นรองประธานกรรมการนอกจากนี้ ในคำสั่งดังกล่าวยังมีปลัด ก.คลัง ปลัด ก.ต่างประเทศ ปลัด ก.ดิจิทัลฯ ปลัด ก.มหาดไทย ปลัด ก.ยุติธรรม ผบ.ตร. เลขาธิการ ปปง. เลขาธิการป.ป.ท. ผู้ว่าการ ธปท. เลขาธิการ กสทช. เลขาธิการ ก.ล.ต. เป็นกรรมการ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ร.ต.อ.เขมชาติ ประกายหงษ์มณี เป็นกรรมการ อธิบดีกรมการปกครอง เป็นกรรมการและเลขานุการ มีอำนาจหน้าที่กำหนดนโยบาย มาตรการ แนวทางปฏิบัติป้องกันและปราบปราม กำกับดูแลและบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถตามหน้าที่และอำนาจตามกฎหมาย พร้อมติดตามและประเมินผลรายงานนายกฯหรือคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทราบอย่างต่อเนื่องก่อนหน้าที่นายกฯมีคำสั่งตั้งคณะกรรมการปราบปรามการหลอกลวงทางออนไลน์นั้น นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค ปชน. โพสต์เฟซบุ๊กว่า สหรัฐฯเขย่ารังสแกมเมอร์ เกาหลีใต้เอาจริงส่งกำลังมาลุย แต่ประเทศไทยมีพรมแดนติดกับกัมพูชา กลับอยู่เฉยไม่ทำอะไร นี่คือโอกาสที่เราจะเป็นผู้นำจัดการระดับ Big Boss สแกมเมอร์เลยนะครับ ฝากใครช่วยตามหาคุณอนุทินด้วยครับ ว่าหายไปไหน นอกจากนี้ยังมี น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคประชาชน ออกมาวิพากษ์ วิจารณ์นายอนุทินว่า หายไปเลย ไม่ออกมาแสดงท่าทีในการปราบสแกมเมอร์ขณะที่นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค ปชน. กล่าวที่รัฐสภา ถึงกรณีนายรังสิมันต์โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน. ถามหาตัวนายกฯ หายไปไหน ไม่ตอบสนองเรื่องการปราบปรามสแกมเมอร์ จนต้องเรียกร้องให้ “กัน จอมพลัง” มาช่วย ว่า ปัญหานี้นานาชาติให้ความสำคัญ ทั้งสหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ และอังกฤษ จริงจังในการปราบปรามแก๊งสแกมเมอร์ คอลเซ็นเตอร์ ที่อยู่ตามชายแดนประเทศไทย ตัวนายกฯต้องเทกแอ็กชัน เรื่องเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ จะมีพัวพันกับผู้มีอิทธิพล หรือเครือข่ายทางการเมือง ประเทศกัมพูชาหรือไม่ ย้ำว่านายกฯสามารถดำเนินการได้อย่างเข้มแข็ง จริงจัง โดยการแก้ไขปัญหาไทย-กัมพูชา ทั้งเรื่องของชายแดนและคอลเซ็นเตอร์ต่อมานายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และรมว.มหาดไทย ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “หายที่ไหนนี่ก็กลับมาแล้ว ส่วนที่ น.ส.รักชนกบอกจะไปให้นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกัน จอมพลัง แก้ปัญหาสแกมเมอร์แทนนายกฯนั้น นายกฯกล่าวว่า เดี๋ยวดูแล้วกัน และก่อนที่นายอนุทินจะเข้าลิฟต์เพื่อไปร่วมประชุมรัฐสภา ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “ไม่ได้หายๆ งานเยอะมาก”นอกจากนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและ รมว.มหาดไทย ยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา กดดันให้ไทยเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ภายในวันที่ 20 ต.ค.ว่า จะพูดได้อย่างไรมันเป็นเรื่องความมั่นคง เมื่อถามถึงกรณีนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา จะเดินทางเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ระหว่างวันที่ 26-28 ต.ค. เพื่อให้ไทยและกัมพูชาลงนามข้อตกลงสันติภาพ นายกฯไม่ตอบคำถามดังกล่าวและออกจากวงสัมภาษณ์ทันทีวันเดียวกัน พลเรือตรีสุรสันต์ คงศิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงความเคลื่อนไหวของฮุน เซน กรณีกดดันให้ไทยเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ภายในวันที่ 20 ต.ค.ว่า ส่วนตัวไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าเป็นการส่งสัญญาณอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ แต่ขณะนี้ไทยยังไม่มีมาตรการอื่นใด นอกเหนือจากเงื่อนไข 4 ข้อคือ ถอนอาวุธหนัก เก็บกู้ทุ่นระเบิด ปราบปรามสแกมเมอร์และบริหารจัดการพื้นที่ชายแดนที่มีปัญหา ตามข้อเสนอจากวงประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC ไทย-กัมพูชา และต้องมีกลไกความร่วมมือมาพูดคุยกัน เพื่อให้สองฝ่ายตกลงร่วมกันเป็นรูปธรรมก่อนจึงค่อยไปคุยเรื่องอื่น ไทยพูดชัดเจนว่าหากจะมีการเจรจาใดๆ กัมพูชาต้องยอมรับในเงื่อนไขทั้ง 4 ข้อ -ขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรมและมีผลเป็นที่น่าพึงพอใจจึงค่อยไปคุยในประเด็นอื่นทางด้านกองทัพภาคที่ 2 ออกเอกสารข่าวลงวันที่ 14 ต.ค. ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ความว่า ในห้วงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา กัมพูชายังไม่สามารถเสนอแผนการปฏิบัติที่ชัดเจน เรื่องการปรับกำลังเพื่อลดความขัดแย้งและการกำหนดพื้นที่เก็บกู้ทุ่นระเบิด ตามข้อตกลงของ GBC กำหนดให้มีการหารือให้ได้ข้อยุติในระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ร่วมกัน ดังนั้น เพื่อรักษาความน่าเชื่อถือของข้อตกลง ไม่ยื้อเวลาและป้องกันการบิดเบือนข้อเท็จจริงในภายหลัง คณะกรรมการชายแดนส่วน ภูมิภาคกองทัพภาคที่ 2 (RBC) เลื่อนการประชุมออกไปโดยไม่มีกำหนด จนกว่าฝ่ายกัมพูชาจะมีข้อเสนอที่สามารถลดความขัดแย้งได้อย่างเป็นรูปธรรม กองทัพภาคที่ 2 ยืนยันจะดำเนินการทุกมาตรการภายใต้กรอบความร่วมมือระหว่างประเทศ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะรักษาความสงบเรียบร้อย ความมั่นคง ปกป้องอธิปไตยของชาติอย่างเต็มขีดความสามารถโฆษกกระทรวงกลาโหมยังกล่าวถึงข้อสังเกต กรณีฮุน เซน อาจจะสูญเสียรายได้ พุ่งเป้ากดดันเรื่องการเปิดด่าน ว่า ไม่มีข้อมูลเรื่องการสูญเสียรายได้ของกัมพูชา แต่คาดคะเนได้จากผลกระทบด้านการค้าตามแนวชายแดน ที่สืบเนื่องจากมาตรการปิดด่านของไทย แต่ย้ำว่ามาตรการปิดด่านที่ไทยดำเนินการมีความเหมาะสม เป็นการกดดันกัมพูชาในเชิงหลักสากล กัมพูชาต้องย้อนมองตัวเองว่ามีความพร้อมแค่ไหน ก่อนที่จะออกมาพูดว่าขอเปิดด่าน เพราะขณะนี้ฝ่ายไทยยืนยันเป็นแนวทางเดียวกันหมด ตั้งแต่รัฐบาลจนถึงระดับพื้นที่ว่า ต้องยึดในเงื่อนไข 4 ข้อ ก่อนไปคุยเรื่องอื่น โดยเฉพาะนายกฯ ก็ยืนยันในเงื่อนไข 4 ข้อว่า กัมพูชาต้องยอมรับเรื่องนี้ก่อนจะนำไปสู่การเจรจา แต่กัมพูชากลับไม่มีแผนการปฏิบัติใดๆที่เป็นรูปธรรมส่วนสถานการณ์ที่บ้านหนองจาน บ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ช่วงเช้าวันที่ 15 ต.ค กองกำลังบูรพา ใช้โดรนขึ้นบินสำรวจพื้นที่ชายแดนใน 2 พื้นที่ดังกล่าว ตรวจสอบติดตามความเคลื่อนไหวบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างใกล้ชิด รวมทั้งเพื่อประเมินสถานการณ์ทั่วไปในพื้นที่ ตรวจสอบการเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่และประชาชนฝั่งกัมพูชา แต่ทัศนวิสัยจากภาพมุมสูงไม่ค่อยชัดเจน เนื่องจากช่วงเช้ามีเมฆค่อนข้างหนา เจ้าหน้าที่จึงอาศัยข้อมูลจากกล้องวงจรปิดจาก 2 จุดหลักที่ติดตั้งอยู่ในพื้นที่ พบสถานการณ์ทั่วไปยังคงปกติ ไม่มีความเคลื่อนไหวผิดปกติของเจ้าหน้าที่หรือประชาชนฝั่งกัมพูชา ทั้งนี้ กองกำลังบูรพาจะดำเนินการเฝ้าระวังพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ทั้งภาคพื้นดินและทางอากาศ เพื่อรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยบริเวณแนวชายแดนพ.อ.ชัยณรงค์ กาสี ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจที่ 12 กองกำลังบูรพา เปิดเผยถึงภาพทหารไทยกว่า 20 นาย จับมือกันเดินบนผืนดินทำกินของชาวบ้านหนองหญ้าแก้ว พร้อมร่วมกันร้องเพลงสยามานุสติ ว่า มีนัยสำคัญเพื่อยืนยันอธิปไตยเหนือแผ่นดินไทย แสดงสัญลักษณ์ให้เห็นชัดเจนว่า ทหารไทยเหยียบดินผืนไหน ตรงนั้นคือแผ่นดินไทย และการปรากฏตัวของทหารในพื้นที่ดังกล่าว ยังเป็นสัญญาณยืนยันว่าผืนดินบริเวณนี้ ได้รับการเคลียร์พื้นที่จนปราศจากทุ่นระเบิดแล้ว โดยเหตุผลในการเลือกใช้เพลงสยามานุสติ ในการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ครั้งนี้ เนื่องจากเป็นเพลงพระราชนิพนธ์ มีความหมายอันลึกซึ้งที่สื่อถึงความรักชาติอย่างชัดเจนอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่