รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร เปิดโครงการ “บ้านเพื่อคนไทย” โดยเช่าที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ที่ไม่เกี่ยวกับคดีที่ดินเขากระโดง) สร้างคอนโดมิเนียม และบ้านพักอาศัยบนพื้นที่ทำเลทองเพื่อให้โอกาสคนไทยที่ยังไม่มี บ้านพักอาศัย ได้ผ่อนซื้อระยะยาว 30 ปี ในราคาถูกกว่าโครงการเอกชนเท่าตัวโดยเริ่มโครงการนำร่องลอตแรก 4,180 ยูนิต แยกเป็นที่ดินการรถไฟฯใกล้สำนักงานใหญ่ ปตท. เนื้อที่ 15 ไร่ สร้างคอนโดมิเนียม 1,296 ยูนิตที่ดินการรถไฟฯติด รพ.ศิริราช เนื้อที่ 23 ไร่ อีก 2,100 ยูนิตที่ดินการรถไฟฯใกล้ ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต เนื้อที่ 18 ไร่ อีก 210 ยูนิตและที่ดินการรถไฟฯตรงข้ามสถานี รถไฟเชียงใหม่ เนื้อที่ 15 ไร่ สร้างบ้านเดี่ยวอีก 574 ยูนิตและจะเช่าที่ดินของการรถไฟฯในย่านชุมชนอีกหลายจังหวัดทำโครงการบ้านเพื่อคนไทยให้ครบหนึ่งแสนยูนิต ภายใน 3 ปี“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่า “โครงการบ้านเพื่อคนไทย” เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อต้นปีที่ผ่านมามีพี่น้องประชาชนแห่ไปลงทะเบียนจองสิทธิ์กว่า 2.6 แสนรายผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติจาก ธ.ก.ส.แล้วกว่า 127,000 รายคุณสมบัติตามเงื่อนไขคือ ต้องเป็นคนไทย มีรายได้ประจำไม่เกินห้าหมื่นบาทต่อเดือน ไม่เคยมีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยมาก่อนและ ต้องใช้พักอาศัยเอง ห้ามขายต่อให้ผู้อื่นกำหนดจับสลากผู้ลงทะเบียนจองสิทธิ์ลอตแรก 4,180 ยูนิต ในเดือนพฤศจิกายนนี้ และโครงการก่อสร้างจะเสร็จไม่เกินสิ้นปีหน้า 2569โครงการบ้านเพื่อคนไทย ไม่ต้องวางเงินดาวน์ผ่อนซื้อไม่เกิน 4,000 บาทต่อเดือน ในเวลา 30 ปี ถึง 40 ปีมีสิทธิ์อยู่อาศัย 99 ปี ต่อสัญญาได้อีก 49 ปี เป็น 150 ปีหากเทียบโครงการอสังหาฯเอกชนย่านใกล้เคียงกัน ต้องผ่อนซื้อตั้งแต่ 9,500 บาทต่อเดือน ถึง 20,000 บาทต่อเดือนข้อสำคัญ อัตราผ่อนซื้อเบาๆไม่เกิน 4,000 บาทต่อเดือน ยังถูกกว่าค่าเช่า ห้องพักคอนโดฯเอกชนในย่านเดียวกันส่วนที่ดินของการรถไฟฯก็ยังเป็น กรรมสิทธิ์ของการรถไฟฯอย่างเดิมแถมได้ค่าเช่าที่ดินเพิ่มอีก ก้อนโต!“แม่ลูกจันทร์” มองว่า “โครงการ บ้านเพื่อคนไทย” ที่รัฐบาลเก่าทำค้างไว้ รัฐบาลใหม่ของ นายกฯอนุทิน ชาญวีรกูล ควรเดินหน้าต่อไปให้เกิดผลสำเร็จเป็นรูปธรรมเพื่อให้โอกาสประชาชนรายได้ ปานกลาง ไม่มีกำลังซื้อบ้านพักอาศัยโครงการเอกชน ได้มีที่อยู่อาศัยของตัวเองอย่างสบายๆ“แม่ลูกจันทร์” จึงเสียดายที่โครงการ บ้านเพื่อคนไทยต้องชะงักกลางคันการจับสลากผู้มีสิทธิ์ลอตแรกเดือนพฤศจิกายน ต้องเลื่อนไปจากกำหนดเดิมกำหนดโครงการก่อสร้างเสร็จปลายปีหน้าชักจะไม่แน่นอนเพราะต้องรอรัฐบาลใหม่ตัดสินใจว่าจะเดินหน้าต่อไป? หรือยกเลิกโครงการนี้ไปเลย?“แม่ลูกจันทร์” กระชุ่น นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม รีบตัดสินใจโดยเร็ว!!พี่น้องประชาชนกว่าหนึ่งแสนคน ที่ใจจดใจจ่อรออยู่จะได้รู้อนาคตตัวเองจะเอายังไงก็เอาซะอย่างเถอะนะโยม.“แม่ลูกจันทร์”คลิกอ่านคอลัมน์ “สำนักข่าวหัวเขียว” เพิ่มเติม