คงทราบกันแล้วว่าปี 2568 นี้ ประเทศไทยของเราจะเป็นเจ้าภาพจัดกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 33 ระหว่างวันที่ 9–20 ธันวาคม ใน 3 เมืองหลัก ได้แก่ กรุงเทพฯ ชลบุรี และสงขลาเมื่อวานนี้เอง ศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ได้เผยแพร่ผลการสำรวจความคิดเห็นจากประชาชนชาวไทย ในหัวข้อ “ซีเกมส์ 2025 กับโอกาสของนักกีฬาทีมชาติไทย” ในหลายๆคำถาม...โดยมีคำถามที่น่าสนใจที่สุดอยู่คำถามหนึ่งว่า... โอกาสที่นักกีฬาทีมชาติไทยจะเป็น “เจ้าเหรียญทอง” ในการแข่งขันครั้งนี้มีมากน้อยเพียงใด?จากกลุ่มตัวอย่างทั่วประเทศ อายุ 18 ปีขึ้นไป รวม 1,209 คน ตอบว่า มี โอกาสมาก ร้อยละ 38.02, มี โอกาสค่อนข้างมาก ร้อยละ 32.30, ไม่แน่ใจ ร้อยละ 4.00, มี โอกาสน้อย ร้อยละ 3.48 และ ไม่มีโอกาสเลย ร้อยละ 2.74แสดงว่าจากผลการสำรวจของ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต คนไทยเรามีความเชื่อมั่นว่า ประเทศไทยจะได้เป็นเจ้าเหรียญทองครั้งนี้ค่อนข้างสูงมากจะทำได้หรือไม่คงต้องลุ้นกันต่อไปครับคงทราบแล้วว่ากีฬา ซีเกมส์ เริ่มมาจากกีฬา เซียพเกมส์ หรือ กีฬาแหลมทอง จัดแข่งระหว่างประเทศที่อยู่ใน แหลมทอง เท่านั้น ได้แก่ ไทย พม่า เวียดนาม กัมพูชา ลาว และมาเลเซีย เริ่มครั้งแรกปี 1959 หรือ พ.ศ.2502 โดยจัด 2 ปีครั้ง ไปทั้งหมด 8 ครั้ง ถึง พ.ศ.2518ปรากฏว่าไทยเราคว้าตำแหน่ง เจ้าเหรียญทอง คือได้เหรียญทองมากที่สุดถึง 6 ครั้ง และแบ่งให้พม่าไป 2 ครั้งต่อมาจึงมีความเห็นร่วมกันให้ขยายการแข่งขันให้กว้างขวางขึ้น รวมอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และบรูไน เข้ามาด้วยเป็น “เซาต์ อีสต์ เอเชียเกมส์” หรือ ซีเกมส์ ตั้งแต่ปี 1977 หรือ พ.ศ.2520 เป็นต้นมา... ถึงล่าสุดปี 2566 ที่กัมพูชาเป็นเจ้าภาพ จัดไปทั้งหมด 24 ครั้งผลก็คือ อินโดนีเซีย เก่งสุด ได้เจ้าเหรียญทองถึง 10 ครั้งไทย เราเก่งอันดับ 2 ได้เจ้าเหรียญทอง 7 ครั้ง เวียดนาม เก่งอันดับ 3 ได้เจ้าเหรียญทอง 3 ครั้ง โดยมี ฟิลิปปินส์ กับ มาเลเซีย เก่งอันดับ 4 เท่ากัน ได้เจ้าเหรียญทองประเทศละ 2 ครั้งสำหรับประเทศไทยเรานั้น ซึ่งยิ่งใหญ่ในกีฬาแหลมทองมาตลอด แต่พอมาแข่งซีเกมส์ ปรากฏว่าช่วงแรกๆหงอยเลย 4 หนแรก อินโดนีเซีย กวาดเรียบ โดยไทยได้แค่ที่ 2 เท่านั้น รวม 3 หนจนกระทั่งถึงปี 1985 หรือ พ.ศ.2528 เมืองไทยเราได้กลับมาเป็นเจ้าภาพหนแรก หลังจากเป็นกีฬาซีเกมส์...ชาวไทยต่างหวังกันมากว่า เราน่าจะได้ครอง เจ้าเหรียญทอง ในครั้งนี้แหละเป็นที่มาของโครงการ “เจ้าเหรียญทองซีเกมส์” โดย หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ภายใต้การนำของท่านผู้อำนวยการ กำพล วัชรพล ในฐานะแกนกลางของการรวมใจชาวไทยและนักกีฬาไทยให้สามารถคว้า “เจ้าเหรียญทอง” ในปีดังกล่าววิธีการสำคัญก็คือ ไทยรัฐ ได้ประกาศเป็นสื่อกลางนำ บริษัท ห้างร้าน รวม 14-15 แห่ง บริจาคเงินแห่งละ 1 ล้านบาท ให้แก่14-15 สมาคม สมาคมละ 1 ล้านบาท รวมเป็น 14-15 ล้านบาทโดย ไทยรัฐ ก็มอบ 1 ล้านบาท ให้แก่ สมาคมตะกร้อฯ อันเป็นกีฬาที่ท่าน ผอ.กำพลโปรดมาก ล้อมวงเตะทุกเย็นที่สนามหน้าตึก 1 ของโรงพิมพ์ยุคนั้น สมาคมกีฬาไทยยังไม่มีสปอนเซอร์ยังไม่มีเงินอุดหนุนใดๆจากรัฐบาล และเพราะยังไม่มีการเก็บ ภาษีบาป มาใช้ในวงการกีฬารวมทั้งเป็นค่าอัดฉีดนักกีฬาอย่างสมัยนี้จำได้ว่าเมื่อคุณ จรูญ วานิชชา หัวหน้าข่าวกีฬาไทยรัฐใน พ.ศ. ดังกล่าว นำความไปบอกกับนายกสมาคมต่างๆว่า ไทยรัฐ จะหาสปอนเซอร์มาให้สมาคมละ 1 ล้านบาท ทุกสมาคมต่างตื่นเต้นยินดี และให้สัญญาว่าจะสู้ๆ สู้ตาย และคว้าเจ้าเหรียญทองซีเกมส์มาครอง ให้จงได้ในที่สุดผล...ประเทศไทยสามารถคว้าเจ้าเหรียญทองมาครองสำเร็จหรือไม่?...อ่านต่อพรุ่งนี้นะครับ.“ซูม”คลิกอ่านคอลัมน์ “เหะหะพาที” เพิ่มเติม