ปรากฏการณ์ ตึก สตง.แห่งใหม่ถล่ม ปรากฏการณ์การก่อสร้าง โครงสร้างพื้นฐาน ถนนพระราม 2 ก่อสร้างกันมา 7 ชั่วโคตร นอกจากจะไม่เสร็จแล้ว ยังเกิดอุบัติเหตุหลายครั้ง แต่จับมือใครดมไม่ได้ ล่าสุดสดๆร้อนๆ ถนนสามเสน ทรุดตัวกลายเป็นหลุมลึกกว่า 50 เมตร หน้าอาคารของ โรงพยาบาลวชิรพยาบาล จุดเกิดเหตุเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างอุโมงค์กับสถานี รถไฟฟ้าสายสีม่วงสองเส้นทางที่วิ่งสวนกัน ผู้ที่เกี่ยวข้องคาดว่าเกิดจากน้ำใต้ดินและดินเคลื่อนตัว ทำให้ผนังสถานีเกิดการเคลื่อนตัวจนดินเกิดการทรุดตัวโดยที่ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย กาจผจญ อุดมธรรมภักดี ยอมรับว่าความเสียหายที่เกิดขึ้น รฟม.พร้อมรับในการดูแลทั้งหมดบริเวณที่ถนนทรุดตัวลงมา ซึ่งเป็นบริเวณการก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้า พื้นผิวถนนด้านบนยังใช้งานปกติ มีรถวิ่งไปมา โชคดีว่า ไม่มีผู้เสียชีวิตจากการทรุดตัวของถนนเหมือนกับถนนพระรามสอง ที่เกิดอุบัติเหตุจากการก่อสร้างทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินและชีวิตของประชาชนบ่อยครั้ง เปลี่ยนไปไม่รู้กี่รัฐบาล ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม การก่อสร้างรถไฟฟ้า ซ่อมแซมถนน ทางเดินใน กทม.และปริมณฑล ผู้รับเหมานึกอยากจะทำตรงไหนก็ทำ หน่วยงานรัฐที่รับผิดชอบก็ไม่ค่อยจะเข้มงวดจนกว่าจะเกิดอุบัติเหตุสูญเสียขึ้นก็จะออกมาแสดงความรับผิดชอบ ทำงานแบบวัวหายล้อมคอก และไม่กล้าไปแตะต้องกับบริษัทรับเหมาก่อสร้าง เพราะบริษัทก่อสร้างที่เข้ามารับสัมปทานโครงการขนาดใหญ่ของรัฐ มีความสัมพันธ์กับฝ่ายการเมืองทั้งสิ้น แม้จะเกิดความเสียหายขึ้นชัดเจนแค่ไหนก็เอาผิดไม่ได้ การสร้างถนนหนทาง สนามบิน รถไฟฟ้า และโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆจะผิดสเปกหรือการก่อสร้างล่าช้า ไม่มีใครกล้าไปแตะต้องโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าดังกล่าวเป็นสัญญาจ้าง บริษัทกิจการ ร่วมค้าซีเคเอสที–พีแอล ระหว่าง บริษัท ช.การช่าง หรือ CK และ บริษัท ซิโน–ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น หรือ STEC ครอบคลุมการออกแบบและก่อสร้างอุโมงค์ทางวิ่งและสถานีใต้ดินช่วงเตาปูน-หอสมุดแห่งชาติ ด้วยวงเงินค่าจ้าง 19,430 ล้านบาท ซึ่งดำเนินการไปแล้ว 70.46% ความเสียหายที่เกิดขึ้น บริษัท รับเหมาจะรับผิดชอบอย่างไร รฟม.จะมีส่วนรับผิดชอบอย่างไร ความเสียหายที่เกิดขึ้นมีมูลค่าเท่าไหร่ หน่วยงานการตรวจสอบ คงต้องหาคำตอบมาอธิบายกับสังคมให้ได้ภาครัฐ หน่วยงานตรวจสอบการทุจริต มักจะยืนยันว่า ทุกอย่างจะต้องโปร่งใสและตรวจสอบได้ แต่ความเป็นจริงมักตรงกันข้ามกับการกระทำอย่างเสมอต้นเสมอปลาย ตึก สตง.แห่งใหม่ มูลค่ากว่า 2 พันล้าน ที่ถล่มลงมาเหลือแต่เศษเหล็กกับซากปูน ยังไม่มีคำตอบว่าจะไปเอาคืนจากใครได้บ้าง บ้านเรามีองค์กร คณะกรรมการตรวจสอบการทุจริตและประพฤติมิชอบมากมาย ป.ป.ช. สตง. คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ศาลทุจริต คณะกรรมาธิการ สส.-สว.องค์กรตรวจสอบการทุจริตภาคเอกชน แต่ไม่มีคำตอบความโปร่งใสและตรวจสอบได้จากองค์กรเหล่านี้เลยสุดท้ายกลายเป็นเครื่องมือในการฟอกขาวการทุจริตคอร์รัปชันไปฉิบ นักการเมืองห่วงแต่จะแก้รัฐธรรมนูญท่าเดียว ไม่สนใจความเดือดร้อนชาวบ้าน เป็นสัญญาณว่าเมืองไทยไม่มีการพัฒนาแต่กำลังถอยหลังลงคลองทุกวัน.หมัดเหล็กmudlek@thairath.co.th