แม้ศึกชายแดนไทย–กัมพูชาจะยุติลงอย่างเป็นทางการตามคำขอร้องของประธานาธิบดีทรัมป์ตั้งแต่ 28 กรกฎาคม 2568 หลังการเจรจาที่มาเลเซียอาสาเป็นคนกลางจัดเวทีให้ขณะเดียวกันก็มีการเจรจาระดับ GBC (General Border Committee) ไปไม่รู้กี่ครั้งได้ข้อตกลงอะไรต่อมิอะไรกันไปแล้วหลายๆข้อแต่สถานการณ์สงครามประสาทและการก่อกวนจากฝ่ายกัมพูชาก็ยังมีมาตลอดและยังไม่หยุดแม้จนบัดนี้ในขณะที่เรายังเวียนหัวอยู่กับความเจ้าเล่ห์เจ้ากลของกัมพูชาอยู่นั่นเอง...ผมซึ่งมีเวลาว่างเยอะก็เข้าไปท่อง “ยูทูบ” ดูโน่นดูนี่ไปเรื่อยๆก็ไปพบคลิปคลิปหนึ่งพาดหัวว่า “เพลงนี้กำลังฮิตมาก...ร้องในเมืองไทย แต่ได้ยินไกลไปถึงเมืองลาว”โดยมีอินฟลูฯชาวลาวหลายคนเป็นผู้แนะนำจากนั้นก็ปล่อยคลิปเพลง ซึ่งเป็นการร้องหมู่ของพี่น้องชาวลาวในประเทศไทยกลุ่มใหญ่ ซึ่งมีทั้งวัยหนุ่มสาววัยกลางคนไปจนถึงผู้สูงอายุ ประสานเสียงกันอย่างไพเราะมีเนื้อร้องที่ผมจดมาได้บางส่วน ดังนี้...“บุญเก่า เฮาหนุนนำพามาให้เราได้พบกัน...ไทยลาวเคยผูกพัน เว้ากันเข้าใจกัน ก็รู้สึกดีดี...ดังญาติที่พรากจากกันนานปี...แต่ก็ยังจำกันได้ดีไม่มีวันลืม”“จากปากเซเวียงจันทน์ ถึงตากฟ้านครสวรรค์หลวงพระบาง เซกอง เฮาก็ยังมาฮอดวังน้อยอยุธยา นี่คือพลังแห่งศรัทธา แม่พระผู้รู้ ผู้เมตตา นำพาหมู่เฮาเข้าถึงตัวเอง”ฟังคล้ายๆเพลงสวด และยิ่งตั้งชื่อเพลงว่า “พระโปรดเมตตา” ผมก็นึกว่าเป็นเพลงสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้าที่พี่น้องชาวคริสต์ของเราสวดบูชาตามโบสถ์คริสต์ต่างๆแต่เมื่อตามไปดูอีก 2-3 คลิป จึงพบว่าไม่ใช่...“แม่พระ” ผู้รู้ ผู้เมตตาในเนื้อร้องน่าจะเป็นสุภาพสตรีชาวลาวที่ได้รับรางวัลจากองค์การระดับโลกในวันสตรีสากลที่ผ่านมานี้เองในฐานะผู้ก่อตั้งศูนย์ปฏิบัติธรรมสอนให้คนลาวทำสมาธินึกถึงคำสั่งสอนต่างๆของพระพุทธเจ้าเพื่อทำให้จิตใจสงบและหลุดพ้นจากความทุกข์ต่างๆสำหรับศูนย์ปฏิบัติธรรมที่ปรากฏในเพลงนี้ก็คือ “สถานธรรมตามรอยผู้รู้ตากฟ้า” อำเภอตากฟ้า จังหวัดนครสวรรค์!! นั่นเองเนื่องจากลีลาการประพันธ์ที่เป็นท่วงทำนองลาวและศัพท์แสงบางศัพท์ก็เป็นภาษาลาว ผมจึงต้องตีความเอาบ้าง ซึ่งเมื่อตีความแล้วก็สรุปได้ว่า...ชาวลาวที่มาชุมนุมที่ อ.ตากฟ้า นครสวรรค์ เหล่านี้รักและขอบคุณประเทศไทยที่ให้ความอบอุ่นแก่พวกเขาบรรดาอินฟลูฯทั้งหลายก็จะอธิบายเพิ่มเติมว่าพวกเธอฟังไปน้ำตาไหลไป รู้สึกขอบคุณประเทศไทยที่ต้อนรับพวกเธออย่างญาติและให้โอกาสมาทำมาหากินในประเทศไทยอย่างมีความสุขในคอมเมนต์ของชาวลาวที่ส่งเข้ามาก็เต็มไปด้วยคำว่าขอบใจหลายๆบ้าง...ฟังแล้วขนลุกบ้าง ไทยลาวเป็นพี่น้องกันบ้าง...รวมทั้งคอมเมนต์ต่อไปนี้ด้วยครับ“ประเทศลาวรักประเทศไทย...ขอบคุณประเทศไทยที่ทำให้หนูมีเงินใช้ทุกวันนี้ ส้าง (ไม่มีตัว ร.เรือ) บ้านให้พ่อแม่และดีใจที่ได้ทำตามความฝันของหนู” ฯลฯอ่านแล้วก็ชื่นใจครับที่การเปิดประเทศไทยให้พี่น้องชาวลาวเข้ามาทำงานในบ้านเราแล้วไม่สูญเปล่า...ต่างคนต่างได้ประโยชน์โดยเฉพาะคนลาวเขาตระหนักถึงประโยชน์ที่เขาได้รับจึงร้องเพลงนี้ด้วยความซาบซึ้งให้แก่แผ่นดินไทยในภาษิตไทยเรานั้นผู้ใหญ่ท่านสอนว่าคนไม่ลืมบุญคุณคนถือเป็นคนดีมีความกตัญญูจะตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้...ทำให้เชื่อเหลือเกินว่าพี่น้องชาวลาวและประเทศ สปป.ลาวจะเจริญรุ่งเรืองขึ้นไปเรื่อยๆตามลำดับในอนาคตข้างหน้าไม่เหมือนเพื่อนบ้านอีกประเทศหนึ่งของเราที่ไม่รู้จักบุญคุณคนคิดแต่จะหักหลังจะเอาเปรียบผู้มีพระคุณตลอดเวลา...ตกน้ำก็จมสนิทแน่ๆ ตกไฟก็จะไหม้เกรียมไปทั้งตัว...ไม่มีวันเจริญรุ่งเรืองไปได้หรอกครับ."ซูม"คลิกอ่านคอลัมน์ “เหะหะพาที” เพิ่มเติม