“วันนอร์” ส่งซิก อาจได้โหวตเลือกนายกฯ 4-5 ก.ย. “ฉลาด” บอกขั้วไหนพร้อมประสาน มาได้เลยพร้อมบรรจุวาระ “ภูมิธรรม” ดักคอพรรคส้ม ดูเหมือนสนใจ ภูมิใจไทย ติงคดีเขากระโดง-ฮั้ว สว.อาจแท้งได้ แถมจะไม่ได้แก้รัฐธรรมนูญ ปัดไม่เคยตระบัดสัตย์แต่ติดที่ สว.มีคนคุม ยุบสภาฯรอความชัดเจนจากปชน.ก่อน คิดตกเมื่อไหร่ให้แจ้งมา “ประเสริฐ” ลั่นถ้าขั้วส้มไม่เลือกใคร เล็งใช้ไพ่ใบสุดท้าย ยุบสภาผ่าทางตัน “สรวงศ์” ย้ำเป็นอำนาจ “ภูมิธรรม” พรรคประชาชนเรียกประชุม สส.นัดพิเศษ แต่ไร้มติยังต้องถกกันอีกรอบ โอกาสสูงไม่โหวตให้ใคร เกมบีบยุบสภา “ณัฐพงษ์” อุบไต๋แทงกั๊กไม่มีธงในใจ “ไอติม” เมินคำขู่ท้า เพื่อไทย ยุบสภาได้เลยไม่ต้องมารอ “อนุทิน” นำทีม ภูมิใจไทยเกาะติดมติ ปชน. “สิริพงศ์” อ้อนส้มคุม รบ.เสียงข้างน้อยได้ง่ายพรรคเพื่อไทยส่อใช้ไพ่ใบสุดท้ายยุบสภา หากพรรคประชาชนเดินเกมไม่โหวตสนับสนุนแคนดิเดตนายกฯ จากขั้วการเมืองใดเลย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯและ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแกนนำพรรคเพื่อไทย ยอมรับว่าการยุบสภาถือเป็นทางออกหนึ่ง เพื่อไม่ให้บ้านเมืองไปถึงทางตัน“วันนอร์” ส่งซิกโหวตนายกฯ 4–5 ก.ย.เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 1 ก.ย.ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการกำหนดวาระลงมติเลือกนายก รัฐมนตรีคนใหม่ว่า มอบให้เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเป็นตัวกลางรับเรื่องจากพรรคการเมืองที่มีความพร้อมเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี แต่เมื่อพิจารณาตามข่าวที่ว่าพรรคประชาชนจะประชุมตัดสินใจในวันที่ 1 ก.ย. จึงคิดว่าวันที่ 3 ก.ย. ไม่น่าจะทัน หากจะโหวตเลือกนายกฯต้องแจ้ง สส. ล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน ดังนั้นจะเหลือวันที่ 4 และ 5 ก.ย. ที่เป็นไปได้โหวตเลือกนายกฯ สภาฯพร้อมเพราะนัดประชุมไว้แล้วตั้งแต่วันที่ 3-5 ก.ย. แต่เมื่อบรรจุวาระเป็นเรื่องด่วนต้องขอเสียงจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเลื่อนระเบียบวาระขึ้นมา อยากให้การเลือกนายกฯ เสร็จโดยเร็ว ไม่ให้ประเทศเว้นว่างไม่มีนายกฯนาน เพราะมีผลต่อความเชื่อมั่นประเทศ หากเสนอชื่อนายกฯมากกว่า 2 คน ก็ต้องดำเนินการตามระเบียบ วาระ โดยการขานชื่อแบบเปิดเผยว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ยังไม่มีพรรคการเมืองใดติดต่อประสานแจ้งเพิ่มระเบียบวาระเลือกนายก รัฐมนตรี แต่ประธานสภาฯสั่งให้สแตนด์บายไว้ 4 วัน คือ 3-4-5 ก.ย. และวันที่ 10 ก.ย.ขั้วไหนพร้อมประสานมาได้เลยนายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ต้องรอพรรคการเมืองที่จับกลุ่มกันได้ แจ้งมายังประธานสภาฯ หากพร้อมวันไหนก็บรรจุระเบียบ วาระได้เลย สภาฯพร้อมตลอดเวลา ไม่อยากให้ว่างเว้นผู้บริหารนาน ใครที่รวมเสียงได้มากกว่าเกินกึ่งหนึ่งก็เสนอมาที่ประธานสภาฯ จะนัดประชุมโดยด่วน แจ้ง สส.ล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน ทั้งนี้ กระบวนการตามระบอบประชาธิปไตย พรรคการเมืองใดรวมเสียงข้างมากในสภาฯก็สามารถบริหารประเทศได้ แต่ถ้าเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย สภาฯก็ไม่มีความมั่นคง การบริหารราชการแผ่นดินไปไม่รอด ต้องรอพรรคประชาชนที่จะมีการประชุม สส.และกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคเย็นนี้ การโหวตเลือกนายกฯต้องอาศัยเสียงของพรรคประชาชน แต่ระหว่างการ บริหารราชการ 3-4 เดือนข้างหน้า เชื่อว่าสภาฯจะเดินหน้าได้ เราไม่มีวาระการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถ้ามีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พรรคประชาชนก็ต้องช่วยคนที่ได้เสียงข้างมากเป็นนายกฯ เพื่อประคับ ประคองให้ภารกิจที่มุ่งหวัง คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญนำไปสู่การเลือกตั้งอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรมต่อไป“ภูมิธรรม” ประชด พรรคประชาชน รับอบอุ่นต่อมาเวลา 10.45 น. ที่กระทรวงมหาดไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงผลการพูดคุยกับพรรคประชาชนว่า เมื่อวันที่ 31 ส.ค.ต้องลาการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) คิดว่าอนาคตประเทศมีความสำคัญ แม้จะมีความกินแหนงแคลงใจไม่พอใจกันบ้างถือเป็นเรื่องธรรมดาของการทำงาน ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น แต่ไม่มีใครมาต้อนรับ เราไปกับตัวแทนพรรคร่วมรัฐบาลหลายคน ทุกพรรครับข้อเสนอของพรรคประชาชนทั้งหมด ถือเป็นเรื่องที่ดีที่ควรทำ การร่างรัฐธรรมนูญใหม่ผ่านกลไก ส.ส.ร. เป็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลเห็นด้วย ที่ผ่านมาพรรคภูมิใจไทยไม่สนับสนุน เมื่อถามถึงเรื่องเอ็มโอยู 43-44 นายภูมิธรรมตอบว่า เรื่องนี้เป็นประเด็น ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลนี้หรือรัฐบาลใหม่ ยืนยันไม่มีอะไรติดใจหากจะดำเนินการในเรื่องนี้ และไม่มีประโยชน์อะไรแอบแฝง จึงเห็นควรแนบไปกับประชามติ ถ้าประชาชนเห็นอย่างไรรัฐบาลใหม่จะได้ดำเนินการตามนั้น วิกฤติเรื่องนี้จะได้จบลงดักคอดูเหมือนสนใจภูมิใจไทยผู้สื่อข่าวถามถึงประเด็นที่ดินเขากระโดงและคดีฮั้ว สว. นายภูมิธรรมตอบว่า เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม รวมถึงที่ดินอัลไพน์เห็นแกนนำพรรคประชาชนหลายคนพูดว่าหัวใจสำคัญของการตัดสินใจ จะดูว่าใครอยู่ในความควบคุมได้มากที่สุด ดูเหมือนว่าจะสนใจพรรคภูมิใจไทย หากพูดกันตามความจริงไม่มีใครสามารถควบคุมใครได้ หากคิดว่าไม่ซื่อตรงแล้วจะตัดสินใจก็ตัดสินใจได้ แต่สิ่งสำคัญคือการจะปล่อยให้พรรคภูมิใจไทยมาเป็นหัวหน้ารัฐบาล ในเวลาอีก 4 เดือนก่อนมีการเลือกตั้ง ขอถามว่าคดีเขากระโดงจะกลับไปเป็นแบบเดิมหรือไม่ เพราะขณะนี้อยู่ในกระบวนการที่จะนำที่หลวงกลับคืนมา เช่นเดียวกับคดีฮั้ว สว. ที่กำลังเข้าสู่การเปิดประเด็นจับกุม ขณะนี้ติดอยู่ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เชื่อว่า 2 เรื่องนี้เป็นหัวใจสำคัญ แต่บอกไปว่าหากติดใจเรื่องนี้ก็ไม่เป็นไร แต่ขออย่าให้มีกระบวนการแทรกแซง และไม่ว่าจะตัดสินใจอย่างไรเราเคารพ แต่เรื่องการแก้รัฐธรรมนูญที่เป็นหัวใจสำคัญใครจะทำเต็มที่ได้มากกว่ากัน ฝากให้ไปคิดว่าใครคือผู้มีบทบาทในการควบคุม สว. หากให้พรรคภูมิใจไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จะมีหลักประกันอะไรที่พรรคประชาชนสามารถทำให้เกิดขึ้นในเมื่อตัวเองไม่ได้เข้าไปเป็นรัฐมนตรี จะรอให้อภิปรายไม่ไว้วางใจบอกเลยว่าไม่ทัน เพราะเขามีอำนาจยุบสภาปัดไม่เคยตระบัดสัตย์ติดตรง สว.นายภูมิธรรมกล่าวว่า ยอมรับว่าเคยบาดหมางกัน แต่เรายืนยันในข้อตกลงมาตลอด การบอกว่าพรรคเพื่อไทยบิดพลิ้ว หรือตระบัดสัตย์ 2 ครั้ง ที่มีการเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกฯจากพรรคก้าวไกล ล้วนเป็นคนของพรรคเพื่อไทยที่เป็นผู้เสนอชื่อทั้ง 2 ครั้ง และทุกเสียงของพรรคเพื่อไทยยกมือให้หมด แต่สิ่งที่บอกคือ สว.จะโหวตให้แต่สุดท้ายไม่เลือก ประเด็นสุดท้ายขอเวลา 10 เดือน ได้ประกาศไปชัดเจนตั้งแต่แรกว่ารอการตัดสินใจของพรรคประชาชนไม่ได้ และวันนี้อยากจะร่วมมือกัน ลืมเรื่องเก่าๆ สิ่งที่เกิดขึ้นขณะนี้ทุกคนยอมรับว่าปล่อยประเทศให้พรรคเพื่อไทย และพรรคประชาชนที่มี 360 เสียงเป็นฝ่ายค้านไม่ได้ ขณะที่รัฐบาลมีเพียง 143 เสียง ไม่มีประเทศไหนมาเจรจาด้วย เพราะไม่มีความเชื่อมั่น ทั้งหมดนี้อยู่ในอำนาจของพรรคประชาชนที่จะเป็นผู้ตัดสินใจเลี่ยงตอบยุบสภาขอให้ชัดก่อนเมื่อถามว่าหากพรรคประชาชนไม่ร่วมรัฐบาล พรรคเพื่อไทยพร้อมเป็นฝ่ายค้าน หรือจะตัดสินใจยุบสภา นายภูมิธรรมตอบว่า ยังไม่ต้องตัดสินใจว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือยุบสภา เราเสนอประเด็นให้พรรคประชาชนตัดสินใจ ถ้าเขาเลือกพรรคภูมิใจไทยก็เป็นสิทธิ์ทำได้ ส่วนพรรคเพื่อไทยจะทำอย่างไรมีกระบวนการตามรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว ต้องหาทางออกในหลายๆทางที่เป็นไปได้ อยู่ที่ดุลพินิจ ขอให้สถานการณ์ชัดตอบให้ชัดว่าจะสนับสนุนพรรคภูมิใจไทยหรือพรรคเพื่อไทย มีข้อกังวลอะไรบอกมาให้ชัด และข้อกังวลนั้นจะหาทางป้องกันอย่างไร เมื่อถามว่ากระบวนการของพรรคเพื่อไทยปลายทางจะไม่เป็นฝ่ายค้านใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า ยังไม่มีการตัดสินใจ มีแต่เพียงว่าอยากร่วมกันตั้งรัฐบาลให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ แล้วจะดำเนินการตามนั้น ต้องเปลี่ยนแปลงสภาพการเมืองที่ผิดเพี้ยนแบบนี้ รีเซ็ตใหม่คือไปแก้รัฐธรรมนูญหากพรรคประชาชนคิดตกขอให้แจ้งมานายภูมิธรรมกล่าวว่า อยากให้เลือกนายกฯได้เร็วที่สุด หากปล่อยสภาพแบบนี้ไว้ก็เป็นรัฐบาลเป็ดง่อยทำอะไรไม่ได้ ตอนนี้ทั้งหมดอยู่ที่พรรคประชาชนตัดสินใจ อยากให้รอบคอบ เพราะการตัดสินใจครั้งนี้เป็นครั้งสำคัญ พรรคประชาชนยังไม่เคยเลือกนายกฯจากนอกพรรค ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ถ้าจะประเดิมด้วยพรรคภูมิใจไทย ต้องมีหลักประกันว่าประเทศจะไม่เสียหาย ขอให้พรรคประชาชนใช้เวลาเต็มที่ แต่เมื่อเสร็จแล้วให้แจ้งเราด้วยเพื่อให้เราดำเนินการขั้นต่อไป เมื่อถามว่านอกจากพรรคประชาชนแล้ว พรรคร่วมรัฐบาลที่ยังอยู่ด้วยกันยังเหมือนเดิมหรือไม่ อย่างพรรคประชาธิปัตย์ก็ยังไม่ชัดว่าจะไปต่อ นายภูมิธรรมตอบว่า เขาไม่ได้พูดคำนี้ เขาพูดเพียงว่าขณะนี้เรายังร่วมกันอยู่ ทั้งหมดจะตัดสินใจอย่างไรขึ้นกับสถานการณ์ เราเคารพทุกพรรค ต้องพิจารณาตามสถานการณ์การเมืองเพื่อไทยลั่นยุบสภาอำนาจ “ภูมิธรรม”นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงความคืบหน้าการขอเสียงสนับสนุนจากพรรคประชาชน โหวตนายชัยเกษม นิติศิริ แคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทย เป็นนายกฯว่า ต้องรอพรรคประชาชนว่าจะตัดสินใจอย่างไร เราพยายามเต็มที่ เสนอสิ่งที่คิดว่าเป็นประโยชน์กับบ้านเมืองแล้ว แต่ไม่ว่าพรรคประชาชนจะเลือกข้างไหนรัฐบาลที่จะเกิดขึ้นจะเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย เมื่อถามว่าถ้าพรรคประชาชนไม่รับเงื่อนไขจะยุบสภาหรือไม่ นายสรวงศ์ตอบว่า การยุบสภาเป็นอำนาจนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ที่จะเสนอความเห็นขึ้นทูลเกล้าฯ แต่ต้องดูว่าจะทำหรือไม่ทำอย่างไร ในพรรคเพื่อไทยมีการพูดคุยประเด็นนี้กันหลากหลายในที่ประชุมพรรคและในวันที่ 2 ก.ย. สมาชิกพรรคคงได้แสดงความคิดเห็นกันเพิ่มเติม“ประเสริฐ” มั่นใจประชาชนเลือกเพื่อไทยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯและรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า อยู่ระหว่างรอการตัดสินใจของพรรคประชาชน มั่นใจว่าพรรค ปชน.จะเลือกพรรคพท. เพราะมีข้อเสนอที่มีการพูดคุยกัน และคิดว่าประเทศจะได้เดินหน้าไปได้ เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่าพรรค ปชน.อาจไม่มีคำตอบในวันนี้ว่าจะเลือกใคร นายประเสริฐตอบว่า ไม่ทราบ ต้องถามพรรค ปชน. แต่คิดว่าเขาต้องดูรอบคอบ เพราะการตัดสินใจครั้งนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยน เขาคงต้องใช้ระยะเวลาตัดสินใจ เมื่อถามว่าตรงไหนที่คิดว่าพรรค ปชน.จะตัดสินใจเลือกพรรค พท.มากกว่าพรรคภูมิใจไทย นายประเสริฐตอบว่า เงื่อนไขที่พรรค ปชน.ยื่นมาเราสามารถปฏิบัติได้ ทั้งเรื่องยุบสภาภายใน 4 เดือน หรือแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ คงไม่เข้าไปก้าวล่วงการตัดสินใจของพรรค ปชน. มีปัจจัยหลายอย่างที่พรรค ปชน.ต้องใช้เป็นข้อมูลตัดสินใจส้มไม่เลือกใครเล็งใช้ไพ่ยุบสภาผู้สื่อข่าวถามว่าการที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ไปคุยกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำคณะก้าวหน้า ทำให้พรรค พท.ได้เปรียบหรือไม่ นายประเสริฐตอบว่า ไม่ทราบว่าเขาคุยอะไรกันบ้าง เมื่อถามว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค พท. ว่าอย่างไรบ้าง นายประเสริฐตอบว่า หัวหน้าพรรคยังไม่มีความเห็นอะไรในเรื่องนี้ เมื่อถามว่าถ้าพรรค ปชน.เลือกโหวตให้พรรค ภท. พรรค พท.จะใช้เกมยุบสภาหรือไม่ นายประเสริฐตอบว่า เรื่องยุบสภาถือเป็นทางออกหนึ่ง เพื่อไม่ให้บ้านเมืองเกิดทางตัน สมมติเกิดกรณีพรรค ปชน.ไม่ตัดสินใจร่วมมือกับพรรคใดเลย ถ้าเกิดแบบนี้จะทำอย่างไร ถ้าเขาไม่เดินทางไหนเลยแบบนี้บ้านเมืองจะไปอย่างไรต่อ ทางออกเรื่องการยุบสภามีคนวิพากษ์วิจารณ์กันมากว่าสามารถทำได้ และทำไม่ได้ เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญด้วย ในอนาคตคงต้องมีความชัดเจนในประเด็นนี้ เมื่อถามย้ำว่าถ้ายุบสภาแล้วมีคนไปร้องศาลรัฐธรรมนูญจะทำอย่างไร นายประเสริฐตอบว่า พูดยากเพราะยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่สามารถเกิดขึ้นได้และเกิดขึ้นแล้ว“ชัยเกษม” ประกาศพร้อมรับไม้ต่อผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา เพจเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทยโพสต์รูปภาพ นายชัยเกษม นิติศิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พร้อมลงข้อความเป็นประวัตินายชัยเกษมว่า นายชัยเกษมเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญในแวดวงกฎหมายและการเมืองของไทย ด้วยประสบการณ์ยาวนานทั้งในฐานะอัยการสูงสุด และ รมว.ยุติธรรม ได้รับการยอมรับว่าเป็นนักกฎหมายที่ยึดมั่นในหลักนิติรัฐ และเคยมีบทบาทโดยตรงในหลายเหตุการณ์สำคัญของประเทศ ต่อมาช่วงเช้าวันที่ 1 ก.ย. นายชัยเกษมให้สัมภาษณ์สั้นๆถึงความพร้อมในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ว่า “ไม่ต้องห่วงเรื่องความพร้อม ผมพร้อมทำหน้าที่เพื่อชาติบ้านเมือง ไม่มีปัญหา”พรรคส้มเรียกประชุม สส.นัดพิเศษผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่พรรคประชาชน (ปชน.) เรียกประชุมนัดพิเศษ สส.พรรค ปชน. ในเวลา 13.00 น. วันที่ 1 ก.ย. เพื่อกำหนดทิศทางโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ กำหนดเงื่อนไขในการโหวตเลือกนายกฯคนใหม่ 3 ข้อ ทำให้มี 2 ขั้วการเมืองเข้ามาหารือกับพรรค ปชน. ได้แก่ พรรคภูมิใจไทย นำโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และคณะ อีกขั้วนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ติดต่อมายังนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และคณะของนายภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกฯ กับตัวแทนพรรคร่วมรัฐบาลเดิม มาหารือกับพรรค ปชน. ทั้งนี้ ในที่ประชุมตัวแทนพรรคเพื่อไทยได้เอ่ยขอโทษพรรคปชน. ในประเด็นการเมืองที่ผ่านมา ยืนยันยอมรับเงื่อนไขทั้งหมดและยังพร้อมยุบสภาก่อนถึงเส้นตาย 4 เดือนอีกด้วยส่อไม่เลือกใครกดดันให้ยุบสภาสำหรับการประชุมพรรค ปชน.วันนี้ คาดว่า ที่ประชุมจะมีการหารือแสดงความคิดเห็นกันหลายแนวทางที่ยังมีความเห็นต่างกันอยู่ ทั้งเห็นว่าควรโหวตสนับสนุนพรรคภูมิใจไทย โหวตสนับสนุนพรรคเพื่อไทย หรือไม่สนับสนุนใครเป็นนายกฯคนใหม่ ในที่ประชุมวันนี้คือการรับฟังเสียง สส. แต่ไม่ได้เปิดให้โหวตเลือกแนวทาง เพราะแกนนำพรรคมีแนวทางตัดสินใจไว้เบื้องต้นแล้ว มีการประเมินความเป็นไปได้ไว้คร่าวๆว่า หากสนับสนุนพรรคใดพรรคหนึ่งเป็นรัฐบาลยังมีความกังวลว่าพรรคเพื่อไทย หรือพรรคภูมิใจไทย อาจเติมเสียงเพิ่มเติมด้วยการดูด สส.เข้าไป จนทำให้เป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก และจะเบี้ยวเงื่อนไขของ ปชน. ทำให้พรรค ปชน.ต้องตกที่นั่งลำบากและเสียภาพลักษณ์จากประชาชน ดังนั้น การกดดันให้นำไปสู่การยุบสภา ณ เวลานี้เลยน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ทั้งนี้ ภายหลังการประชุม สส.วันนี้ พรรค ปชน.มีแนวโน้มจะยังไม่แสดงท่าทีสนับสนุนใครเป็นนายกฯ เพื่อรอดูการประชุมของวิปฝ่ายค้าน และวิปรัฐบาล ในวันที่ 1-2 ก.ย. วาระการโหวตเลือกนายกฯคนใหม่ จากนั้นจึงจะตัดสินใจ มีรายงานเพิ่มเติมว่า แกนนำพรรค ปชน. ยังมีท่าทีไม่ปลื้มกับพฤติกรรมของนายภูมิธรรม ที่นำคณะเข้ามาเจรจา เมื่อวันที่ 31 ส.ค. เนื่องจากเข้ามาพูดด้วยท่าทีของผู้ใหญ่สอนเด็ก ทั้งที่นาทีนี้พรรค พท.ต้องขอความช่วยเหลือขอเสียงโหวตจากพรรค ปชน. และยังพบว่ามีไอโอเข้ามาคอยถล่มตามเพจ สส.พรรค ปชน.อยู่ตลอดเวลา“ณัฐพงษ์” อุบไต๋ข้อยุติโหวตนายกฯต่อมาเวลา 13.00 น. ที่พรรคประชาชน (ปชน.) นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุม สส.นัดพิเศษว่า วันนี้คงเปิดอภิปรายถกเถียงแลกเปลี่ยนเหตุผลพอสมควร อยู่ที่ว่าได้ข้อสรุปหรือไม่ ถ้าได้ข้อสรุปทิศทางเดียวกันอาจไม่ต้องลงมติ แต่ถ้าแตกต่างอาจต้องดำเนินตามกระบวนการพรรค นอกจากนี้มีหลายเรื่องต้องพิจารณารอบด้าน เมื่อถามว่ามีหลายคนไม่อยากให้ตัดสินใจโหวตฝ่ายใด อยากให้คงจุดยืนยุบสภา นายณัฐพงษ์ตอบว่า ทุกอย่างนำมาพิจารณาหมด เมื่อถามว่าได้รับฟังเสียง สส.ในพื้นที่สะท้อนความเห็นมาครบถ้วนหรือไม่ นายณัฐพงษ์ตอบว่า วันนี้เชื่อว่าเพื่อนๆ ทุกคนได้รับเสียงสะท้อนในพื้นที่นำมาสะท้อนในที่ประชุม สส.วันนี้ เมื่อถามว่านายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย ติดต่อมาหารือบ้างหรือไม่ นายณัฐพงษ์ตอบว่า ถ้าส่วนตัวยัง แต่เห็นในหน้าข่าวบอกว่านายชัยเกษมบอกว่ายังไม่ได้ทาบทาม ทางการ คิดว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่น่ากังวล คิดว่าเพื่อนสมาชิกใช้ประกอบตัดสินใจแคนดิเดตนายกฯที่ทำให้เกิดความเชื่อมั่นได้มากกว่าแทงกั๊กไม่มีธงในใจจะออกทางไหนเมื่อถามย้ำว่าวันนี้จะได้ข้อยุติหรือไม่ นายณัฐพงษ์ตอบว่า ต้องมีข้อยุติก่อนวันโหวตในสภาฯ ตอบแทนเพื่อนๆไม่ได้ว่าวันนี้จะได้ข้อยุติหรือไม่ เมื่อถามว่าในฐานะหัวหน้าพรรค หรือกรรมการบริหารพรรค ปชน.ตัดสินใจเรื่องนี้ไว้แล้วหรือไม่ นายณัฐพงษ์ตอบว่า ไม่มีธงในใจ แต่การทำงานในฐานะผู้บริหารพรรค กำกับทิศทางพรรคระดับหนึ่ง การพูดคุยแลกเปลี่ยนปกติ และการคุยกับสมาชิกในพรรคด้วย ส่วนการตัดสินใจสำคัญทางหนึ่งทางใด ต้องใช้ที่ประชุม สส.ตัดสินใจร่วมกัน“ไอติม” ท้า พท.ยุบสภาไม่ต้องรอนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรค ปชน. กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยไม่จำเป็นต้องรอให้พรรค ปชน.ตัดสินใจ สามารถทำตามที่ต้องการได้ เจตนารมณ์พรรค ปชน.ตั้งแต่วันแรกที่มีคลิปเสียง เราเรียกร้องตั้งแต่วันนั้นให้นายกฯยุบสภา เพื่อให้มีรัฐบาลใหม่มีความชอบธรรมทางการเมือง แก้ปัญหาประเทศได้ แต่ผู้มีอำนาจเวลานั้นไม่ตอบสนอง เรายังคงยืนยันว่าอำนาจการยุบสภาอยู่ที่นายภูมิธรรม ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกฯ ทำได้เลย ไม่ต้องรอให้พรรค ปชน.ตัดสินใจ เมื่อถามย้ำว่าเป็นความพยายามของเพื่อไทยที่จะโยนให้ ปชน.รับผิดชอบในการตั้งรัฐบาลหรือไม่ นายพริษฐ์ตอบว่า ประชาชนมีสิทธิตั้งคำถาม เราแค่มายืนยันว่าเพื่อไทยยุบสภาได้เลยไม่ต้องรอเรายังไม่มีข้อสรุปต้องถกกันต่ออีกรอบนายพริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรค ปชน. แถลงภายหลังประชุมว่า มี สส.เข้าร่วม 90 กว่าคน หรือ 90% ความเห็นในที่ประชุมหลากหลายมาก หลายคนแสดงความหนักใจ จึงต้องประชุมต่อในวันพรุ่งนี้ (2 ก.ย.) ให้ สส.ตกผลึกแสดงความเห็นเพิ่มเติม วันนี้ มี 2 ประเด็นที่พูดคุยกันค่อนข้างชัดเจน คือ 1.เรายืนหยัดจุดยืนเดิมว่าสิ่งที่ตอบโจทย์ประเทศคือการเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว 2.เราเรียกร้องให้ยุบสภาฯมาตลอด ตั้งแต่เกิดเหตุคลิปเสียง วันนี้ยืนยันว่าการยุบสภายังคงตอบโจทย์ประเทศ เราพร้อมเลือกตั้ง หากรักษาการ นายกฯไม่ยุบสภา และไม่มีกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งรวมเสียงได้เกินกึ่งหนึ่ง เราต้องใช้กระบวนการพิจารณาเลือกนายกฯคนใหม่ เพื่อนำไปสู่การยุบสภาฯเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว เรามองไปถึงความน่ากังวล 2 ประการคือ 1.ปัจจุบันที่แดงกับน้ำเงินรวบรวมเสียงไม่เกินกึ่งหนึ่ง หากแดง-น้ำเงินไหลกลับไปรวมกัน กังวลจะเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก มีแนวโน้มอยู่ครบวาระไปอีกเกือบ 2 ปี ขัดกับจุดยืนของเราที่ต้องการเลือกตั้งโดยเร็ว 2.หากแดง-น้ำเงินไม่ไหลไปรวมกัน อาจไหลไปจากนอกระบอบประชาธิปไตย ไม่ส่งผลดีต่อการเมืองไทย หากเราไม่ทำอะไรก็เสี่ยงว่า 2 เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ไม่ส่งผลดีต่อประเทศไม่ไว้ใจทั้งคู่เลือกทางที่เสี่ยงน้อยสุดเมื่อถามย้ำว่าทำไม ภท.บอกว่า ปชน.จะทำข้อตกลงแล้ว นายพริษฐ์ตอบว่า ไม่ทราบต้องถาม ภท. ขอย้ำว่าจะไม่มีรัฐบาลไหนที่ตั้งขึ้นได้จากเงื่อนไขของ ปชน. เราไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคไหน ไม่ว่าใครก็ตามอ้างเกินกึ่งหนึ่งไม่ใช่เป็นผลลัพธ์จาก ปชน. ผลลัพธ์เราชัดเจนคือรัฐบาลเสียงข้างน้อย สส.น้อยกว่า 246 เสียง เมื่อถามถึงการประเมินความจริงใจระหว่าง พท.กับ ภท. นายพริษฐ์ตอบว่า หลายคนมองว่าเราจะทำให้รัฐบาลเสียงข้างน้อยรักษาสัญญาอย่างไร เราก็มองว่ามี 2 ปัจจัยสำคัญ ออกแบบกลไกควบคุมให้รักษาสัญญา คืออภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่เบี้ยวได้ทันที “คือไม่ไว้ใจทั้งคู่ เพราะต้องมาประเมินความเสี่ยงจากท่าทีที่วัดด้วยหลักฐาน อันไหนเสี่ยงน้อยกว่า เราตัดสินใจด้วยเหตุผล ไม่ใช้อารมณ์ความแค้นมาตัดสิน บางคนคิดว่าเพื่อไทยฉีกเอ็มโอยู หรือภูมิใจไทยไม่โหวตให้นายพิธาตอนชิงนายกฯ เราใช้เหตุผลให้มากที่สุด”“เจ๊เจี๊ยบ” ตามสัญญารำแก้บนแล้วด้านนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีต สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล โพสต์ภาพที่ถ่ายร่วมกับเพื่อนๆพร้อมข้อความลงเฟซบุ๊กว่า “วันนี้มาแก้บน (ภาพก่อนแก้ผ้า) ตามที่ได้บนไว้ว่าถ้านายกฯ #แพทองธาร พ้นตำแหน่งก่อนสิ้นปี 68 จะ #แก้ผ้ารำ มสจ.อ.เมืองนครปฐม และเพื่อนฝูงบางส่วนมาร่วมเป็นสักขีพยาน ตัดคลิปเสร็จจะลงให้ชม ไม่ใช่สายมู บนด้วยความรำคาญหงุดหงิดไปงั้น แต่บนครั้งแรกก็สำเร็จผลเลย ขออภัยที่ไม่แจ้งล่วงหน้า เพราะสถานที่คับแคบ กังวลจะมีคนมาป่วนสร้างความวุ่นวายที่อาจมีผลให้แก้บนไม่สำเร็จ 1 ก.ย.68 เวลา 07.30 น.”“หนู” นำทีม ภูมิใจไทยเกาะติดมติพรรคประชาชนที่พรรคภูมิใจไทยเวลา 15.00 น. มีการประชุมพรรคประจำสัปดาห์ มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล แคนดิเดตนายกฯ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นประธาน มีกรรมการบริหารพรรค สส. เข้าร่วมพร้อมหน้า อาทิ นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการรพรรค นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ รองหัวหน้าพรรค เพื่อเกาะติดผลการประชุมของพรรคประชาชน ว่าจะมีท่าทีสนับสนุนพรรคภูมิใจไทยหรือพรรคเพื่อไทย นายอนุทินให้สัมภาษณ์กรณีพรรคเพื่อไทยใช้คดีที่ดินเขากระโดงและคดีฮั้ว สว. เป็นเงื่อนไขตั้งรัฐบาลว่าอย่าพยายามไปพูดให้มันแตกแยกกัน แค่แตกแยกมาถึงจุดนี้ คนที่ทำก็ทำร้ายบ้านเมืองมามากพอแล้ว เราต้องเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา อริยสัจ 4 ส่วนกรณีพรรคเพื่อไทยขู่จะใช้วิธียุบสภานั้น การยุบสภาเป็นสิทธิตามกฎหมาย หากทำอะไรถูกกฎหมายทำได้หมด สำหรับท่าทีของพรรคประชาชน อย่าไปคาดการณ์หรือก้าวก่ายก้าวล่วงไม่ได้ เรายืนยันไปแล้วยอมปฏิบัติตามเงื่อนไขของพรรคประชาชนอ้อนส้มคุมรัฐบาลเสียงข้างน้อยได้นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยยืนยันพร้อมยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชนภายใน 4 เดือนหลังแถลงนโยบายรัฐบาล ถ้าเลือกพรรคภูมิใจไทยมั่นใจได้ว่าพรรคประชาชนสามารถควบคุมทิศทางการเมืองให้เป็นไปตามข้อตกลงได้ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงระหว่างทาง เพราะเสียงพรรคภูมิใจไทยห่างจากพรรคประชาชนอยู่มาก เสียงของฝ่ายค้านมีเหนือรัฐบาลเสียงข้างน้อย พรรคภูมิใจไทยต้องการเข้ามาเป็นทางออกของประเทศ ทั้งการแก้ปัญหาชายแดน ปัญหา เศรษฐกิจปากท้องของเกษตรกร รวมถึงการทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญที่จะเปิดทางสู่การเลือกตั้ง ส.ส.ร. เมื่อถามพรรคเพื่อไทยมีท่าทีจะยุบสภา นายสิริพงศ์ตอบว่า เราพร้อมเลือกตั้งเช่นกัน แต่หากยุบสภาตอนนี้ปัญหาชายแดนที่เร่งแก้ไขจะคาราคาซังหรือไม่ และโอกาสทำประชามติจัดทำรัฐธรรมนูญต้องเกิดขึ้นภายในการเลือกตั้งหน้ากธ.ย้ำมติเดิมโหวตหนุน “อนุทิน”นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายทะเบียนพรรคกล้าธรรม (กธ.) กล่าวว่าสมาชิกพรรคยังยืนยันยึดมติเดิมในการโหวตสนับสนุนให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เป็นนายก รัฐมนตรีคนที่ 32 ว่า หากมีอะไรเปลี่ยนแปลงต้องเรียกประชุมพรรคกันอีกครั้ง แต่ตอนนี้ยังเป็นไปตามมติเดิม เมื่อถามว่าจะเกิดปัญหาเรื่องรัฐบาลเสียงข้างน้อยในอนาคตหรือไม่ นายอรรถกรตอบว่า ทำตามเสียงส่วนใหญ่ของพรรค ส่วนเรื่องรวมเสียงได้เท่าไหร่คงขึ้นอยู่กับผู้บริหารพรรคแต่ละพรรค ส่วนการเลือกนายกฯจะจบเมื่อไหร่นั้น ต้องถามทางสภา เพราะนายกฯต้องมาจากสภาฯ เรายึดมั่นระบบนั้น เมื่อถามว่าวิป 3 ฝ่าย จะหารือกำหนดวันโหวตนายกฯวันที่ 3 ก.ย.นี้เลยหรือไม่ นายอรรถกรตอบว่า ไม่ได้เป็นวิปจึงตอบไม่ได้“เรืองไกร” ยื่น กกต.ยุบพรรคเพื่อไทยนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลัง ประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า ยื่นเรื่องถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้นำคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ วันที่ 29 ส.ค.2568 มาพิจารณาเป็นหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า พรรคเพื่อไทยโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองมาตรา 92 (2) หรือไม่ คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ให้ น.ส.แพทองธารพ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี อาจเกี่ยวกับการกระทำของ น.ส.แพทองธารในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่เข้าข่ายฝ่าฝืน พ.ร.บ.พรรคการเมืองรวมอยู่ด้วย สามารถนำคำวินิจฉัยดังกล่าวมาดำเนินการตามมาตรา 92 ได้เลย ไม่ต้องให้นายทะเบียนสอบเพิ่มเติมตามมาตรา 93 คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญถือเป็นเด็ดขาด มีผลผูกพันต่อ กกต. แต่ศาลมิอาจสั่งยุบพรรคได้เนื่องจากคำร้องไม่ได้มาจาก กกต. ต้องขอให้ กกต.ดำเนินการยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคเพื่อไทย เพราะฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคเมืองมาตรา 92 (2) หรือไม่จี้ฟัน “ธนาธร-ทักษิณ” คอยครอบงำช่วงสายที่สำนักงาน กกต. ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดินยื่นคำร้องต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองและ กกต. ขอให้ไต่สวนสอบสวนกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ออกมายอมรับว่าได้เจรจาพูดคุยกับนายทักษิณ ชินวัตร เกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาชน เข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองมาตรา 28—29 หรือไม่ นายธนาธรถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลา 10 ปี ส่วนนายทักษิณถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทาง การเมือง พิพากษาในข้อหาทุจริตหรือใช้อำนาจขัดต่อกฎหมาย รวมหลายคดี ต้องห้ามตามกฎหมายพรรคการเมืองมาตรา 24 (2) และข้อบังคับพรรคเพื่อไทย การที่บุคคลทั้งสองพูดคุยเจรจากัน เพื่อนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ อาจเข้าข่ายกระทำการอันใดอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำกิจกรรมของพรรคการเมือง ในลักษณะที่ทำให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระสว.ฉะงบรายจ่าย 69 กู้เงินมือเติบเมื่อเวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมวุฒิสภา มีนายบุญส่ง น้อยโสภณ รองประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท ตามที่สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาเสร็จแล้ว ทั้งนี้ นพ.ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล สว. ประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ รายจ่ายประจำปี 2569 วุฒิสภา รายงานสรุปผลการพิจารณาศึกษาว่า กมธ.มีข้อสังเกตว่า การตั้งงบประมาณรายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคงคลัง ในงบปี 2569 ทำให้พื้นที่งบประมาณถูกจำกัด ต้องขยายเพดานวงเงิน ทำให้ต้องกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลสูงขึ้น มีหนี้สาธารณะสูงขึ้น ปัจจุบันหนี้สาธารณะ วันที่ 31 ม.ค. 2568 อยู่ที่ 11.95 ล้านล้านบาท หรือร้อยละ 64.1 ของจีดีพี รัฐบาลควรคำนึงการจัดเก็บรายได้ เพื่อลดการกู้ชดเชยขาดดุล ตั้งงบประมาณให้สอดคล้องความต้องการ ขณะที่ภาพรวมงบประมาณ กลุ่มภารกิจด้านเศรษฐกิจ วงเงิน 965,754 ล้านบาท มีข้อสังเกตคือเศรษฐกิจประเทศชะลอตัว จีดีพีโตต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอาเซียน ปัญหาสำคัญคือความไม่แน่นอนทางการเมือง จึงมีข้อเสนอ เช่น ควรนำงบประมาณไปดำเนินการให้เกิดประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการปรับโครงสร้างหนี้ทั้งระบบ การส่งเสริมการออม การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนาดใหญ่อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่