การเมืองไม่มีทางตัน นายพริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคประชาชน (ปชน.) ตอกย้ำหัวหมุดอีกครั้งหลังเคยออกแถลงการณ์สกัดการเมืองนอกระบบเข้ามาแทรกแซง โดยตั้งเงื่อนไขไม่ร่วมรัฐบาล ทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญโดยสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) และยุบสภาภายใน 4 เดือน พรรคการเมืองใดรับเงื่อนไขนี้พร้อมโหวตสนับสนุนเลือกแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคนั้นเพื่อให้สถานการณ์การเมืองเดินไปตามคติพจน์ของพรรคที่ระบุเอาไว้ว่า “โดยประชาชน เพื่อประชาชน สร้างประเทศไทยที่มีอำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน”โดยพรรคภูมิใจไทยยอมรับเงื่อนไขดังกล่าวทุกข้อ หลังนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เข้าพบนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค ปชน.นายพริษฐ์ ได้สะท้อนให้เห็นภาพรัฐบาลในอนาคตที่มีอายุ 4 เดือนตามเงื่อนไขที่เสนอไป โดยชี้ให้เห็นถึงปัญหาของประเทศไทยที่เผชิญอยู่ โดยเฉพาะด้านความมั่นคงด้านเศรษฐกิจที่รุมเร้ารัฐบาลที่สามารถแก้ปัญหาให้ประชาชนได้จริง ต้องมีคุณสมบัติพื้นฐาน คือ 1.มีเสถียรภาพในระดับหนึ่ง 2.มีความชอบธรรมทางการเมือง ประชาชนไว้เนื้อเชื่อใจ และ 3.มีศักยภาพเพียงพอ เลือกคนที่มีความสามารถ เชี่ยวชาญ ในแต่ละประเด็นเป็นทีมบริหาร ไม่ใช่จัดสรรผ่านการต่อรองผลประโยชน์ทางการเมืองเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยแต่ทั้งเสถียรภาพ ความชอบธรรม การฟอร์มทีมที่มีศักยภาพของรัฐบาล ภายใต้สภาผู้แทนราษฎรชุดนี้ ไม่ว่าเขย่าหรือโหวตให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรี ใครเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ย่อมไม่สามารถบรรลุ 3 คุณสมบัตินี้ได้ประเทศไทยถ้ามีความหวังได้รัฐบาลที่มีคุณสมบัติดังกล่าว ต้องผ่านการเลือกตั้ง ที่เป็นกลไกให้ประชาชนเลือกรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ ความชอบธรรมและมีศักยภาพฉะนั้นการเลือกตั้งโดยเร็วเป็นหนทางที่ประโยชน์ที่สุดต่อประเทศไทย พรรค ปชน.เสนอตั้งแต่มีเหตุการณ์คลิปสนทนาระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯในขณะนั้นกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชา ตอนนั้นถูกแซวว่า พรรค ปชน.กระแสดีหรือไม่ถึงออกมาเรียกร้องเพื่อประโยชน์ของพรรคของตัวเองวันนี้หลายคนมองว่าพรรค ปชน.คะแนนนิยมตก แต่เรายืนยันยังเรียกร้องเหมือนเดิม เพราะเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับประเทศ 3 เงื่อนไขที่พรรค ปชน.เสนอหลังนายกฯหลุดตำแหน่งต้องการผ่านทางตันประเทศ–ทำให้มีการเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว“เงื่อนไขสำคัญที่พรรค ปชน.ยินดีพิจารณาโหวตแคนดิเดตนายกฯให้พรรคนั้นๆ ต้องยุบสภาภายใน 4 เดือน ประมาณสิ้นปี 68จัดทำประชามตินำไปสู่การทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดย ส.ส.ร.โดยเร็ว ต้องจัดอย่างช้าที่สุดพร้อมกับวันเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นหลังมีการยุบสภาเราไม่ส่งใครเข้าไปเป็นรัฐมนตรี พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเต็มที่ต่อไป เดินหน้าตรวจสอบโดยไม่มีการออมมือ”พรรค ปชน.เปิดเกมการเมืองใหม่แบบนี้ ต้องการสกัดอำนาจนอกระบบเข้ามาแทรกแซง นายพริษฐ์ บอกว่า มี 2 เหตุผล คือ ต้องการให้มีการเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว โดยต้องมีนายกฯเข้ามามีภารกิจเพื่อยุบสภาและไม่ต้องการให้นำไปสู่การมีนายกฯที่เป็นอดีตหัวหน้าคณะรัฐประหาร หรือนายกฯนอกระบบด้วยเหตุผลดังกล่าว พรรค ปชน.ยินดีใช้ 143 เสียงผ่าทางตันประเทศ ตราบใดที่แคนดิเดตนายกฯรับเงื่อนไขนี้ขยายประเด็นที่พรรค ปชน.ที่มีเสียงเป็นอันดับ 1 ไม่เข้าร่วมรัฐบาล แต่พร้อมโหวตเลือกนายกฯให้สังคมเข้าใจหน่อย นายพริษฐ์ บอกว่า เราไม่คิดว่ารัฐบาลและแคนดิเดตนายกฯ ที่มีอยู่ในเวลานี้ ภายใต้ข้อจำกัดโดยองค์ประกอบของสภาชุดนี้ จะสามารถแก้ปัญหาของประเทศได้“การแก้ปัญหาของประเทศได้ พรรค ปชน.ต้องเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยถือนโยบายตามวิสัยทัศน์ของพรรคเข้าไปเป็นนายกฯ”พรรคที่รับเงื่อนไขได้เป็นนายกฯตั้งรัฐบาลเรียบร้อย แต่ตระบัดสัตย์ พรรค ปชน.จะทำอย่างไร นายพริษฐ์บอกว่า ต้องมีกลไกกำกับทั้งก่อนเป็นนายกฯและหลังเป็นนายกฯ โดยก่อนเป็นต้องให้เข้ามาสื่อสารสัญญาต่อประชาชน“สมมติเข้าไปเป็นนายกฯแล้วไม่ทำตามสัญญา เชื่อว่าประชาชนพร้อมลงโทษ บางคนอาจมองว่าไม่พอ เพราะบางคนพร้อมตระบัดสัตย์หรือผิดคำพูดได้ตลอดเวลาโดยสภาพพรรคที่รับเงื่อนไขนี้เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย รู้ดีว่าถ้าเบี้ยว ทำอะไรไม่ชอบ ถูกล้มได้ทันที สมมติไม่ทำตามข้อตกลง ใช้อำนาจโดยมิชอบ เราเปิดซักฟอก รัฐบาลก็ล้มทันที”ทำไมเปิดประตูให้รัฐบาลอยู่ได้แค่ 4 เดือน หรือรัฐบาลไม่ได้มีอำนาจอยู่ในมือเต็มที่ อำนาจไปอยู่กับทหารเกือบหมดแล้ว นายพริษฐ์ บอกว่า ปัญหาของประเทศที่ใหญ่ๆทั้งปฏิรูปการเมืองที่เชื่อมโยงรัฐธรรมนูญ ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาความมั่นคงที่ยังคาราคาซังอยู่ ต้องเป็นรัฐบาลใหม่หลังการเลือกตั้งเข้ามาแก้ แต่ก่อนไปถึงตรงนั้นต้องมีนายกฯเข้ามาติดกระดุมเม็ดแรก ทำประชามติจัดทำรัฐธรรมนูญและยุบสภาสถานการณ์การเมืองที่กองทัพมีอำนาจเยอะมาก การเมืองต่อรองกันเยอะ โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทยกับพรรคเพื่อไทย ที่ต้องแข่งจัดตั้งรัฐบาล มีโอกาสพรรคเพื่อไทยยุบสภาก่อนมีการเลือกนายกฯคนใหม่ นายพริษฐ์ บอกว่า ถ้ามีการยุบสภา มีการเลือกตั้งเกิดขึ้น พรรค ปชน.พร้อมเดินหน้าสู่การเลือกตั้งใหม่พรรค ปชน.เตรียมพร้อมเปิดหน้าแคนดิเดตนายกฯ และแคนดิเดตรัฐมนตรี ช่วงหาเสียงเลือกตั้ง นายพริษฐ์ บอกว่า เร็วไปที่ระบุชัดลงไปในรายละเอียด แต่ในเชิงทิศทางตอนเลือกตั้งปี 66 เราฉายภาพให้เห็นชัดทั้งในเรื่องของ Why กับ What โดยมีนโยบายเรื่องต่างๆทำไม และมันคืออะไร เช่น มีนโยบายกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นเพราะอะไรรอบนี้เสริมด้วย How กับ Who เข้ามา เสริม Why กับ What เพื่อชี้ให้ประชาชนเห็นว่าทำอย่างไร มีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในแต่ละประเด็นเข้ามาขับเคลื่อนมีใครบ้าง ไม่ใช่เป็นเพียงนโยบายสวยหรู แต่สามารถนำไปปฏิบัติให้เกิดขึ้นได้จริงพรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย รับเงื่อนไขพรรค ปชน.ตัดสินใจอย่างไร นายพริษฐ์ บอกว่า ขั้นต่ำต้องรับ 3 เงื่อนไขโดยไม่มีการประนีประนอม หลังจากนั้นมาดูมาตรการที่ทำให้มั่นใจว่าพรรคนั้นจะรักษาสัญญาตามเงื่อนไขพร้อมมีข้อเสนอผลักดันกฎหมายที่สอดคล้องกับนโยบายของพรรค ปชน.ที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ 2 ปีที่ผ่านมาเราผลักดันร่างกฎหมายหลายฉบับผ่านความเห็นชอบของสภาไปได้ ยังมีกฎหมายกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น กฎหมายที่อยู่ในชั้นคณะกรรมาธิการวิสามัญฯเช่น พ.ร.บ.อากาศสะอาด รับมือฝุ่น PM 2.5 พ.ร.บ.แข่งขันทางการค้า ป้องกันทุนผูกขาด พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร เป็นอีกกลไกในการป้องกันการทุจริต คอร์รัปชันสิ่งเหล่านี้ต้องนำเข้าหารือภายในพรรคอีกครั้งว่า มั่นใจพรรคไหนที่จะทำตามข้อตกลงและเงื่อนไข 3 ข้อยุบสภาภายใน 6 เดือน โดยมีพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทยขอต่อรอง นายพริษฐ์ บอกว่า เป็นเงื่อนไขขั้นต่ำ เลย 4 เดือนเราไม่รับ แต่พรรคไหนดำเนินการจัดทำประชามติเร็วกว่า 4 เดือน อันนี้พอคุยกันได้รัฐบาลเฉพาะกิจรับเงื่อนไขยุบสภาภายใน 4 เดือน จะก่อประโยชน์อย่างไรได้บ้าง นายพริษฐ์ บอกว่า ต้องถามประชาชนอยากเลือกตั้งใหม่หรือไม่ ถ้าเห็นตรงกันว่าการเลือกตั้งใหม่เป็นวิธีคืนอำนาจให้ประชาชน เพื่อกำหนดทิศทางของประเทศ จึงเป็นกลไกนำไปสู่การเลือกตั้งโดยเร็วที่สุดรัฐบาลเฉพาะกิจไม่มีการใช้อำนาจโดยมิชอบ หรือดำเนินนโยบายที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน เพราะเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ทำให้ฝ่ายค้านทำหน้าที่ได้อย่างเข้มข้น เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประชาชน โดยไม่ให้รัฐบาลลุแก่อำนาจ และไปวัดกันในสนามเลือกตั้งว่าประชาชนอยากให้ประเทศเดินไปทิศทางไหนขอย้ำ 4 เดือนฝ่ายค้านยังทำหน้าที่เข้มข้นเหมือนเดิมโดยมีอาวุธอันทรงพลังตรวจสอบรัฐบาลเสียงข้างน้อย.ทีมการเมืองคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม