สวิส หรือ สวิตเซอร์แลนด์ ประเทศเล็กๆ ใจกลางยุโรปที่มีประชากร 9 ล้านคน คนทั่วโลกรู้จักสวิสในฐานะ ประเทศที่มีภูเขา หิมะ และทุ่งหญ้าอันสวยงามราวกับอยู่ในสวนสวรรค์ เป็นประเทศที่มหาเศรษฐีทั่วโลกเอาเงินไปฝากมากมาย ทั้งเงินสุจริตและเงินทุจริต ทำให้สวิสกลายเป็นศูนย์กลางเงินฝากของโลก สวิสยังเป็นที่ตั้งของ ธนาคารเพื่อการชำระบัญชีระหว่างประเทศ (BIS) ของธนาคารกลางทั่วโลก เป็นที่ตั้งของ องค์การสหประชาชาติ ภาคพื้นยุโรป องค์การการค้าโลก องค์การอนามัยโลก และที่คนไทยรู้จักดีคือ การประชุมสภาเศรษฐกิจโลก World Economic Forum ที่เมืองดาวอส รวมทั้งเป็นประเทศที่ผลิตนาฬิกาหรู ราคาแพง เรือนละหลายสิบล้านบาทที่นักการเมืองไทยชอบใส่อวดประชาชนวันเสาร์สบายๆวันนี้ผมจะพาท่านผู้อ่านไปรู้จักกับสวิสในอีกด้านหนึ่ง นั่นคือ ความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี Blockchain และ Fin Tech ที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึงธนาคารกรุงไทย เป็น 1 ใน 3 ธนาคารที่ได้รับการคัดเลือกจากแบงก์ชาติและกระทรวงการคลังให้เป็นผู้รับใบอนุญาต Virtual Bank ธนาคารไร้สาขา วันก่อน คุณลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ประธานธนาคารกรุงไทย คุณผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทย ได้นำสื่ออาวุโสกลุ่มใหญ่ไปชมเทคโนโลยีที่ลํ้าหน้าของสวิสในด้าน การซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลภายใต้การกำกับดูแลเต็มรูปแบบ SDX ด้วย โครงสร้างพื้นฐานที่เป็นเทคโนโลยี Blockchain สามารถซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้ตลอด 24 ชั่วโมงในหนึ่งสัปดาห์ (24/7) หรือซื้อขายได้ทั้งปี 365 วัน ตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่มีวันหยุดข้อมูลจาก คุณพรรณนภา จันทรารมย์ เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงเบิร์น ประเทศสวิส ที่กรุณาให้การต้อนรับและเลี้ยงข้าวกลางวันด้วย ระบุว่าสวิสถือเป็น “ศูนย์กลางนวัตกรรมด้าน FinTech” ตัวเลขในปลายปี 2566 สวิสมีบริษัท FinTech รวมประมาณ 483 แห่ง เป็นฟินเทคด้านเทคโนโลยี Blockchain ถึง 175 แห่ง การที่สวิสมีฟินเทคเกิดขึ้นจำนวนมาก เพราะสวิสมี FinTech License ที่เปิดโอกาสให้บริษัทเข้าถึงตลาดได้ง่ายขึ้น และ กฎหมาย DLT Act ที่ทำให้ธุรกรรมบนบล็อกเชนถูกต้องตามกฎหมายและน่าเชื่อถือ ครอบคลุมตั้งแต่ โทเคนดิจิทัล การซื้อขาย ไปจนถึง การคุ้มครองเจ้าของทรัพย์สินในกรณีล้มละลาย กฎหมายนี้เริ่มใช้มาตั้งแต่ปี 2564การมี กฎหมาย DLT Act ทำให้สวิสเป็น ผู้นำด้านกฎหมายเกี่ยวกับบล็อกเชนและคริปโต สวิสมีการจัดตั้ง Crypto Valley ขึ้นที่ เมืองซูก (Zug) ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัทกว่า 40% และขยายไปยังเมืองต่างๆ อาทิ ซูริก เจนีวา ติชิโน ลูเซิร์น โดยมีบริษัทฟินเทคและบล็อกเชนกว่า 1,700 แห่ง ปัจจุบัน สวิสมีบริษัทที่เป็น Unicorn ด้านคริปโตถึง 17 บริษัทการเติบโตอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีบล็อกเชน รัฐบาลสวิสจึงออกกฎหมายให้จัดตั้ง SDX (SIX Digital Exchange) ตลาดหลักทรัพย์ดิจิทัลแห่งแรกของโลกที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลเต็มรูปแบบ (SIX ย่อมาจาก Swiss Infrastructure and Exchange) เพื่อปฏิรูปตลาดทุนด้วยบล็อกเชน ผู้บริหารของ SDX ซึ่งเป็นผู้ให้ข้อมูลระบุว่า ในอนาคตตลาดทุนโลกจะค่อยๆเปลี่ยนจาก “โครงสร้างดั้งเดิม” ไปสู่ “โครงสร้างดิจิทัลบน Blockchain” คาดว่าจะต้องใช้เวลาอีกกว่า 10 ปี โครงสร้างใหม่นี้ต้องอาศัยทั้งเครือข่ายบล็อกเชนส่วนตัวและสาธารณะ ทำงานควบคู่ไปกับตลาดเงินแบบดั้งเดิมตลาดซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล SIX Digital Exchange (SDX) ต้องการสร้าง โครงสร้างตลาดทุนดิจิทัลระดับโลกที่เปิดการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้แบบ 24 ชั่วโมงทุกวัน (24/7) สามารถรองรับสินทรัพย์ได้ทุกประเภท ตั้งแต่ พันธบัตรดิจิทัล ไปจนถึง NFT และ Real-world Assets ใช้เทคโนโลยีทั้ง Private & Public Blockchain เพื่อความปลอดภัยของระบบ และจะเป็น สะพานเชื่อม ระหว่าง สถาบันการเงินดั้งเดิม กับ สินทรัพย์ดิจิทัล ให้สามารถซื้อขายคู่ขนานกันนี่คือ ตลาดทุนยุคใหม่ที่เกิดขึ้นแล้วในสวิส ประเทศที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติอันสวยงาม แต่ในความสวยงามอันหลากหลายนั้น สวิสกลับซ่อนความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีทางการเงินและตลาดทุนของโลกอย่างเงียบๆ ยิ่งฟังก็ยิ่งสนุก เมื่อเห็นภาพการเงินในโลกอนาคตที่กำลังเปลี่ยนไป ก็เก็บมาเล่าสู่กันฟังคงไม่เครียดเกินไปนะครับ.“ลม เปลี่ยนทิศ”คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม