บ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ยังตึงเครียด คนไทยไม่ทนจัดม็อบถือธงชาติบุกไล่ชาวกัมพูชาที่รุกล้ำพื้นที่ เสธ.เบิร์ดลุยบ้านหนองจาน ตอกย้ำแผ่นดินไทย ซัดฮุน เซน ไม่ได้โง่แต่ขี้โกงจี้อพยพคนกัมพูชากลับประเทศ หากนิ่งไทยจะเดินหน้าผลักดันเอง ด้านทหารกัมพูชาเกณฑ์พระสงฆ์ชาวบ้านหลายร้อยชีวิตพร้อมธงชาติมาประชิดรั้วหวังเป็นโล่มนุษย์ “บิ๊กเล็ก” ลั่นมวลชนกัมพูชาป่วนรื้อรั้วลวดหนามบ้านหนองจาน ในพื้นที่อธิปไตยไทยไม่ได้ ตั้งแท่นแจ้งความเอาผิดอาญา ชี้หากรุกล้ำยิงตอบโต้ได้ทันที แม้อยู่ระหว่างเจรจาหยุดยิง กระทรวงการต่างประเทศประณามกัมพูชาใช้โล่มนุษย์ระบุไร้มนุษยธรรมสถานการณ์แนวชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณบ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ยังตึงเครียดต่อเนื่อง จากปัญหาข้อพิพาทการรุกล้ำพื้นที่บ้านหนองจานของชาวกัมพูชา หลังจากเมื่อบ่ายวันที่ 25 ส.ค.ทหารกัมพูชาได้เกณฑ์ชาวบ้านออกมาประท้วงตะโกนขับไล่และด่าทอทหารไทยบริเวณริมรั้วลวดหนามหีบเพลงที่ทหารไทยนำไปวางกั้นเป็นแนวป้องกันพื้นที่ จากนั้นได้มีการระดมกำลังประชาชนชาวกัมพูชาออกมาพังรั้วลวดหนามหีบเพลงโดยใช้ไม้เป็นอาวุธและเครื่องมือรื้อลวดหนาม มี จนท.ทหารไทยพยายามป้องกันอย่างเต็มที่จนทำให้มีทหารไทยบาดเจ็บไป 1 นาย ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่เพิ่มกำลังเข้าควบคุมจุดดังกล่าวและเฝ้าดูจนถึงเช้าวันที่ 26 ส.ค. เนื่องจากชาวกัมพูชาบางส่วนยังไม่ยอมถอนกำลังกลับไป“เจ๊เอ๋” นำม็อบถือธงไทยไล่กัมพูชากระทั่งเที่ยงวันที่ 26 ส.ค. มีมวลชนชาวไทยพร้อมชาวบ้านในพื้นที่เดินทางมารวมตัวกันกว่า 500 คน นำโดย “เจ๊เอ๋” อินฟลูฯคนดังในโซเชียล ที่บริเวณจุดตรวจ ที่ 40 บ้านหนองจาน แสดงพลังปกป้องผืนแผ่นดินไทยเพื่อตอบโต้กัมพูชา ทั้งนี้ มวลชนพยายามจะขอเข้าไปในพื้นที่ ติดรั้วลวดหนามหีบเพลงตรงแนวชายแดน ที่ทหารไทยไปวางกั้นพื้นที่ไว้ แต่ทหารขอไม่ให้เข้าไปเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการเผชิญหน้ากับชาวกัมพูชา เพราะอาจทำให้เกิดการปะทะกันระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศและอาจทำให้กัมพูชานำภาพเหตุการณ์เหล่านั้นไปสร้างข่าวปลอมโจมตีประเทศ ไทยได้ โดยมี พ.อ.ชัยณรงค์ กาสี ผบ.ฉก.อรัญประเทศ กกล.บูรพา เข้าร่วมชี้แจงและเจรจากับมวลชน ทำให้มวลชนชาวไทยเกิดความเข้าใจและได้ร่วมกันร้องเพลงชาติกับทหารไทยเสียงดังกระหึ่มไปทั่วชายแดนพร้อมชูธงชาติไทยขึ้นเหนือหัว การรวมตัวกันของมวลชนในครั้งนี้ เพื่อแสดงเจตจำนงในการปกป้องพื้นที่ของตนเอง และส่งสัญญาณว่าชาวบ้านในฝั่งไทยพร้อมที่จะยืนหยัดเพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศ ขณะเดียวกันชาวบ้านได้จัดเตรียมอาหาร น้ำดื่มและสิ่งของจำเป็นไปมอบให้ทหารที่ตรึงกำลังตามแนวชายแดน เป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ปกป้องประเทศกัมพูชาระดมคน–พระเป็นโล่มนุษย์ต่อมาเวลาประมาณ 16.30 น. ได้เกิดความตึงเครียดเพิ่มขึ้น เมื่อฝั่งกัมพูชามีการแชร์ภาพทหารกัมพูชา ภาพการเกณฑ์พระสงฆ์และชาวกัมพูชาหลายร้อยชีวิต พร้อมถือธงชาติกัมพูชามาประชิดรั้วลวดหนามหีบเพลงที่ทหารไทยวางกั้นพื้นที่แนวป้องกันไว้ มีการปลุกระดมสร้างข่าวลือว่า ทหารไทยจะบุกสลายกลุ่มชาวกัมพูชา ทำให้มีการระดมชาวกัมพูชาและพระสงฆ์ออกมาเป็นโล่มนุษย์หากมีการปะทะกับทหารไทย ทำให้ทหารไทยต้องเตรียมความพร้อมและวางแนวป้องกันไว้เต็มที่ ขณะที่ชาวม็อบ รวมถึงประชาชนในพื้นที่ทยอยนั่งพักผ่อน ทำกิจกรรมเบาๆ แต่ยังคงปักหลักอยู่ในจุดดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ไม่มีการกำหนดเวลาหรือถอนกำลังออกจากพื้นที่พบกัมพูชาปลูกบ้านรุกล้ำอีก 18 หลังก่อนหน้านี้ เวลา 10.30 น. วันเดียวกัน พล.อ. มนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย พร้อมด้วย พล.ท.วันชนะ สวัสดี รองโฆษกกองทัพบกและคณะ ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณจุดตรวจ ส.34 บ้านหนองหญ้าแก้ว ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ตรงข้ามบ้านเตรยจัน ต.ห้า อ.โอจโร จ.บันเตียเมียนเจย มี พ.อ.ปฏิวัติ เฟื่องประพัฒน์ รอง ผบ.กองกำลังบูรพา พ.อ.ชัยณรงค์ กาสี ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ และเจ้าหน้าที่กองกำลังบูรพา นำเข้าตรวจพื้นที่ พบชาวกัมพูชาสร้างบ้านเรือนรุกล้ำเข้ามาในเขตไทย 18 หลังคาเรือน ถือเป็นการละเมิดอธิปไตยอย่างชัดเจน คณะเสนาธิการทหารยืนยันว่าจะนำปัญหาดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ให้รัฐบาลกัมพูชาดำเนินการแก้ไขและรับผิดชอบต่อประชาชนของตน หากไม่ดำเนินการ ไทยมีสิทธิ์โดยชอบธรรมที่จะขับไล่ผู้บุกรุกออกจากพื้นที่ตามหลักกฎหมายและหลักมนุษยธรรมลุยบ้านหนองจานย้ำแผ่นดินไทยพล.ต.วันชนะให้สัมภาษณ์ระหว่างลงพื้นที่ว่า จุดที่เรายืนอยู่ในขณะนี้คือ บ้านหนองจานอยู่ในเขตของประเทศไทยปัจจุบันตอนนี้ หลักเขตที่ไทยและกัมพูชายอมรับตรงกัน คือหลักเขตที่ 46 และ 47 ซึ่งมีหลักเขตอยู่จริง แต่พื้นที่ที่อ้างสิทธิ์ระหว่างหลักเขตพื้นที่ 46 และ 47 เราอ้างสิทธิ์ไม่ตรงกัน นั่นหมายความ ว่ามีพื้นที่ที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อนกันอยู่ แต่สิ่งที่แน่ที่สุดคือ หลักเขตที่กัมพูชาได้เซ็นยอมรับเมื่อปี 49 ที่กัมพูชา อ้างสิทธิ์ มันมีหมู่บ้านของเขาที่ล้ำมาในแผ่นดินไทยอย่างชัดเจน ตนฝากไปถึงผู้ที่มาเซ็นยอมรับไว้เมื่อปี 49 ว่า คุณจะต้องจัดการกับหมู่บ้านเหล่านี้ทำแผนอพยพประชาชนให้แล้วเสร็จ และจะต้องมีเวลากำหนด คุณต้องอพยพออกไป เพราะนี่เป็นการละเมิดอย่างชัดเจนฉะแรง “ฮุน เซน” ไม่โง่แต่ขี้โกงรองโฆษกกองทัพบกกล่าวอีกว่า หมู่บ้านแห่งนี้ อาจจะมีข้อแตกต่างจากบ้านหนองหญ้าแก้วนิดหน่อย คือ บ้านหนองหญ้าแก้วไม่ได้เป็นพื้นที่ศูนย์อพยพ พื้นที่บ้านหนองจานเป็นศูนย์อพยพมาก่อน ยืนยันเหมือนเดิมว่าพื้นที่ที่เรายืนอยู่ตรงนี้เป็นแผ่นดินไทย สิ่งที่เราได้เปรียบคือ ไม่ว่าคุณจะยอมรับหลักเขตหรือไม่ ตรงนี้คุณล้ำเขตแดนอย่างแน่นอน “เราอยากเรียกร้องให้อพยพประชาชนชาวกัมพูชาที่ล่วงล้ำแผ่นดินไทยออกไป มีประมาณ 50 ครัวเรือนในพื้นที่เกือบ 60 ไร่ ถ้าไม่เป็นไปตามข้อตกลงนั้น เราจะใช้สิทธิ์ผลักดันต่อไป ฮุน เซน ไม่ใช่คนโง่ แต่เป็นคนขี้โกง แม้กระทั่งเส้นที่เขาอ้างสิทธิ์ก็ยังล้ำมาในแผ่นดินไทย เรียกร้องให้เขาทำแผนอพยพประชาชนออกไป ส่วนพื้นที่ที่ทั้งสองฝ่ายอ้างสิทธิ์จะต้องมาคุยกันต่อในการประชุม JBC จุดที่เราเรียกร้องอยู่นอกเหนือ MOU43 เพราะเขาล้ำมาในแผ่นดินไทย ถ้าเขายังไม่ยอมทำ เราก็ต้องทำแผนของเรา เพื่อผลักดันเขาออกไป“ณัฐพล” ให้เอาผิดรื้อลวดหนามที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม รักษาราชการแทน รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีชาวกัมพูชาเข้ารื้อรั้วลวดหนามที่ชายแดนบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ว่า จากที่ได้รับรายงาน คือ ผวจ.สระแก้วจะเดินทางมาพบคนไทยในบริเวณพื้นที่ดังกล่าว กองทัพภาคที่ 1 กองกำลังบูรพาจึงวางแนวรั้วลวดหนามเพิ่มเติม ป้องกันชาวกัมพูชาเข้ามารบกวน ไม่ใช่ส่วนที่วางไว้เดิม การทำเช่นนี้ถือเป็นความผิดทำลายทรัพย์สินทางราชการ ขอให้ดำเนินการตามกฎหมาย อย่าให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก ผู้ที่จะแจ้งความเป็นใครก็ได้ จะเป็นกองกำลังบูรพา กองทัพภาคที่ 1 หรือจังหวัดสระแก้ว ต้องไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นอีก เพราะประชาชนรับไม่ได้ และยังได้สั่งการให้ทำหนังสือประท้วงผ่านกระทรวงการต่างประเทศไปด้วย เพราะนี่คือพื้นที่อธิปไตยของไทย เขามาทำอย่างนี้ไม่ได้ ต่อมากองทัพภาคที่ 1 ได้พูดคุยกับทางกัมพูชา เหตุการณ์จึงคลี่คลายลงตอนหลัง เนื่องจากกัมพูชาเข้าใจแล้วว่าไม่ได้เป็นการวางเพื่อสกัดกั้นเพิ่มเติม แต่เป็นการวางป้องกันเฉพาะกรณีย้ำถ้าล่วงล้ำอธิปไตยจัดหนักได้เลยเมื่อถามว่า ในพื้นที่เขาพระวิหารมีรายงานสถานการณ์เข้ามาบ้างหรือไม่ เนื่องจากมีการรายงานว่าทางกัมพูชาเติมกำลังเข้ามาในพื้นที่ พล.อ.ณัฐพลตอบว่า มี เราได้เตรียมพร้อมเอาไว้ ส่วนเจรจาก็เจรจาไป ส่วนเตรียมกำลังก็เตรียมไป เราจะต้องไม่ยอมมาปฏิบัติการอะไรทางทหารในพื้นที่เป็นอันขาด เมื่อถามว่า จากที่แม่ทัพภาคที่ 2 ออกมาระบุว่าหากมีการล้ำในพื้นที่ จะไฟเขียวให้ยิงตอบโต้ได้ในทันที พล.อ.ณัฐพลตอบว่า แน่นอน ตนพูดตั้งแต่ต้น ไม่ใช่ว่าหยุดยิงแล้วหยุดยิงตลอดไป หากล่วงล้ำอธิปไตย สามารถทำตามอำนาจหน้าที่ได้เลย กฎใช้กำลังของกระทรวงกลาโหมได้ให้อำนาจไว้แล้ว ผบ.เหล่าทัพ แม่ทัพภาคมีอำนาจทำได้อยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าหยุดยิงแล้วอย่างไรก็ไม่ยิง ยืนยันว่าไม่ใช่แน่นอน แต่อย่างไรไทยเรามีการเตรียมพร้อมไว้ทั้งหมด“ภูมิธรรม” พบทูตมะกันที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 15.30 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกฯ ให้การต้อนรับนายรอเบิร์ต เอฟ โกเด็ก เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ก่อนให้สัมภาษณ์ว่า มีการพูดคุยเรื่องชายแดนไทยกัมพูชา ยืนยันจุดยืนว่าจะรักษาอธิปไตยของเรารักษาสันติ แก้ปัญหาด้วยวิธีการพูดคุยและหลีกเลี่ยงความรุนแรง และยืนยันในหลักการให้คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ไม่อยากพัฒนาไปสู่ผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวอาเซียน หรือ AOT ทูตสหรัฐฯขอบคุณไทย ที่ดูแลสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ ที่มาเยือนและลงพื้นที่อุบลราชธานี อยากให้เขาเห็นพื้นที่จริงให้เห็นกับตาว่าใครอยากเข้าสู่สันติภาพมากที่สุด วันที่ 27 ส.ค.พบกับเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทยเช่นกัน ท่าทีทูตสหรัฐฯพอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่ แจ้งว่าจะรายงานไปยังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯทันทีประณามกัมพูชาใช้โล่มนุษย์นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ว่า ตามที่กัมพูชาใช้พลเรือน สตรี เด็ก และผู้สูงอายุ มารื้อลวดหนามก่อความวุ่นวายพื้นที่บ้านหนองจาน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอยืนยันชัดเจน ว่าเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาปล่อยให้ประชาชนกัมพูชาทำการรื้อรั้วลวดหนาม รวมทั้งสร้างสถานการณ์ยั่วยุต่อเนื่อง แสดงท่าทีพร้อมก่อความรุนแรง ปรากฏภาพสตรีอุ้มทารกเข้าเผชิญหน้ากับทหารไทย ที่ใช้ความอดทนอดกลั้นสูงสุด ประเทศไทยขอประณามฝ่ายกัมพูชาที่ใช้ประชาชน โดยเฉพาะสตรี เด็ก บังหน้าเสมือนโล่มนุษย์ ไร้มนุษยธรรม ขอเรียกร้องให้กัมพูชายุติการกระทำดังกล่าว รวมทั้งการจัดฉากโดยใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือ กระทรวงการต่างประเทศกำลังมีหนังสือตอบโต้ฝ่ายกัมพูชาอย่างเป็นทางการ และดำเนินกรอบในคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ไทย-กัมพูชา ด้วย“เศรษฐา” มอบบล็อกทำบังเกอร์อีกด้านที่ จ.อุบลราชธานี นายวรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ สส.พรรคเพื่อไทย จ.อุบลราชธานี และสมาชิกอบจ.อุบลราชธานี เข้าตรวจรับบล็อกคอนกรีตพิเศษสำหรับทำบังเกอร์หลบภัยจากนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี จำนวน 50 ท่อน เพื่อนำไปติดตั้งในพื้นที่ อ.น้ำยืน และ อ.น้ำขุ่น รวม 5 จุด เพื่อเป็นการรักษาชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยอดีตนายกฯเศรษฐาได้สั่งผลิตบล็อกคอนเวิร์สขนาดใหญ่จากกรุงเทพฯมาช่วยเหลือประชาชนทั้งสองอำเภอจำนวน 5 จุด จุดละ 10 ท่อน รวม 50 ท่อน เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้มีความรู้สึกปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่