“ลุงพล” นอนคุกยาว ศาลฎีกาไม่อนุญาตให้ประกันตัวคดีมหากาพย์ฆ่า “น้องชมพู่” พบพฤติการณ์ร้ายแรงกระทบต่อสังคม ศาลอุทธรณ์ลงโทษสถานหนักจำคุก 26 ปี จำเลยมีฐานะทางการเงินดี อยู่จังหวัดชายแดนมุกดาหาร เกรงว่าจะหลบหนียากต่อการติดตามตัว ด้านเรือนจำจังหวัดมุกดาหารเตรียมย้ายไปไว้เรือนจำกลางนครพนมที่มีความมั่นคงสูงสำหรับผู้ต้องขังที่มีโทษหนักภายหลังศาลอุทธรณ์ภาค 4 มีคำพิพากษาแก้โทษจำคุก 26 ปี นายไชย์พล วิภา หรือลุงพล จำเลยในคดีการเสียชีวิตของ “น้องชมพู่” หรือ ด.ญ.อรวรรณ วงศ์ศรีชา อายุ 3 ขวบ บริเวณภูเหล็กไฟบ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร รวม ความผิด 3 ข้อหา ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเล็งเห็นผล พรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปีไปเสียจากบิดามารดา และกระทำการใดๆแก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพ ก่อนส่งตัวคุมขังเรือนจำจังหวัดมุกดาหาร ในช่วงเย็นวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา เพื่อรอศาลฎีกาพิจารณาเรื่องการประกันตัวเกี่ยวกับคดีมหากาพย์น้องชมพู่ เมื่อวันที่ 14 ส.ค.นายประยุทธ เพชรคุณ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีศาลสูงภาค 4 ในฐานะผู้ควบคุมดูแลการดำเนินคดีในชั้นศาลสูง เปิดเผยว่า คดีนี้กำชับ น.ส.นฤมล วิเชียรแสน อัยการศาลสูงจังหวัดมุกดาหาร ยื่นคัดค้านการประกันตัวนายไชย์พลและวันนี้ศาลฎีกามีคำสั่งออกมาว่าพฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง กระทบต่อสังคม เป็นการลงโทษสถานหนัก ทั้งศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษให้จำคุก 26 ปี และเกรงว่าจำเลยจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างฎีกา ยกคำร้องการประกันตัว ส่งผลให้จำเลยต้องคุมขังในเรือนจำระหว่างฎีกาผู้สื่อข่าวรายงานว่า คำร้องคัดค้านการประกันตัวของอัยการศาลสูงจังหวัดมุกดาหารระบุว่า คดีนี้ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษจำเลยที่ 1 ให้หนักกว่าที่พิพากษาในศาลชั้นต้น เนื่องจากคดีนี้มีอัตราโทษสูงและจังหวัดมุกดาหารอยู่ใกล้ชายแดน ประกอบกับจำเลยที่ 1 มีฐานะทางการเงินดี และคดีเป็นที่สนใจของประชาชนทั่วไป หากศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นฎีกาแล้ว จำเลยที่ 1 สามารถหลบหนีไปได้ โจทก์เกรงว่าจะเป็นการยากในการติดตามตัวจะทำให้การบังคับใช้กฎหมายไม่ได้ผลและทำให้กระบวนการยุติธรรมขาดความน่าเชื่อถือผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ภายหลังศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัวนายไชย์พล ในวันที่ 15 ส.ค. เจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดมุกดาหารจะนำตัวนายไชย์พล จำเลยที่ 1 ในคดีฆ่าน้องชมพู่ย้ายไปขังในเรือนจำกลางนครพนม เนื่องจากเป็นเรือนจำที่มีความมั่นคงสูงที่ใช้คุมขังผู้ต้องขังที่มีโทษจำคุกสูงกว่าเรือนจำจังหวัดมุกดาหารด้านนางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า คดีนี้เมื่อเวลา 17.45 น. วันที่ 13 ส.ค. เรือนจำจังหวัดมุกดาหารรับตัวนายไชย์พลภายหลังศาลอุทธรณ์ตัดสินจำคุก 26 ปี และอยู่ระหว่างฎีกา เรือนจำตรวจร่างกายแรกรับทั่วไปพบว่ามีผลปกติ ไม่พบบาดแผลพร้อมทั้งปฏิเสธโรคประจำตัว และไม่มียาใดๆติดตัวมา การตรวจสุขภาพจิตไม่พบความผิดปกติ ไม่แสดงอาการเครียดให้เห็นชัดเจนมากนัก พูดคุยกับเจ้าหน้าที่เรือนจำและผู้ต้องขังอื่นเป็นปกติ ภายหลังเสร็จสิ้นกระบวนการรับตัวเข้าเรือนจำ เจ้าหน้าที่นำตัวนายไชย์พลเข้าห้องแยกกักโรคโควิด-19 รวม 5 วัน หลังจากนั้นจะนำไปคุมขังรวมกับผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดีในพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ต่อไปด้านนางสาวสมพร หลาบโพธิ์ หรือป้าแต๋น ภรรยานายไชย์พล ป้าแท้ๆของน้องชมพู่ และเป็นหนึ่งในจำเลยคดีดังกล่าวที่ศาลพิพากษายกฟ้องได้เดินทางมาศาลจังหวัดมุกดาหาร เพื่อรอลุ้นการขอประกันตัวสามี และภายหลังทราบว่าศาลฎีกาไม่อนุญาต ให้ประกันตัวนายไชย์พล ป้าแต๋นเดินทางกลับด้วยสีหน้าเคร่งเครียดอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่