ตำรวจไซเบอร์รวบแก๊งสแกมเมอร์เวียดนาม 9 คน เป็นชาย 7 หญิง 2 หลังเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมาเดินทางเข้าไทยถือวีซ่านักท่องเที่ยวเช่าบ้านหรูที่ จ.หนองคาย ตั้งเป็นฐานบัญชาการตุ๋นเหยื่อชาติเดียวกันจองห้องพัก สายการบิน ทัวร์และเว็บหวย แบ่งหน้าที่กันทำงานอย่างชัดเจน เมื่อเหยื่อหลงเชื่อโอนเงินเสร็จรีบตัดการติดต่อตำรวจรวบแก๊งสแกมเมอร์ชาวเวียดนาม เปิดเผยเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 25 ก.ค. พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบช.สอท.3 พ.ต.อ.อภิรักษ์ จำปาศรี ผกก.1 บก.สอท.3 พ.ต.อ.อดิชาต อมรประดิษฐ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 แถลงผลการจับกุมแก๊งสแกมเมอร์เวียดนามตั้งฐานที่ จ.หนองคาย เปิดเพจหลอกขายตั๋วเครื่องบินพล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. กล่าวว่า คดีนี้สืบเนื่องจากตำรวจรับแจ้งเบาะแสพบกลุ่มคนชาวเวียดนามเช่าบ้านอยู่ในพื้นที่ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย มานานราว 2 เดือน มีพฤติกรรมต้องสงสัยอาจลักลอบทำงานผิดกฎหมาย ตำรวจ บก.สอท.3 สนธิกำลังร่วมกับตำรวจ ตม.หนองคาย สภ.ท่าบ่อ ตำรวจตระเวนชายแดน และตำรวจ สส.ภ.จ.หนองคาย เข้าตรวจค้นบ้านพัก 2 หลังในโครงการบ้านจัดสรรแห่งหนึ่งในพื้นที่หมู่ 6 ต.ท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ผลการตรวจค้นจับกุมผู้กระทำผิดชาวเวียดนามทั้งหมด 9 ราย เป็นชาย 7 ราย หญิง 2 ราย มีนายหงวิง เวียง ก๊ก อายุ 32 ปี เป็นหัวหน้าแก๊ง พร้อมตรวจยึดคอมพิวเตอร์ 5 เครื่อง และโทรศัพท์มือถือ 20 เครื่องด้าน พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบช.สอท.3 กล่าวว่า กลุ่มผู้ต้องหาให้การยอมรับว่าเดินทางเข้าประเทศถูกต้องตามกฎหมายในประเภทวีซ่านักท่องเที่ยว มีพฤติการณ์เช่าบ้านหรูดัดแปลงเป็นห้องทำงานผ่านคอมพิวเตอร์โต้ตอบกับลูกค้าออนไลน์เกี่ยวกับเว็บไซต์การจองห้องพัก สายการบิน ทัวร์ และเว็บขายหวยเวียดนาม ตำรวจไซเบอร์ตรวจสอบข้อมูลพบหลักฐานว่า ขบวนการดังกล่าวทำงานลักษณะแก๊งคอลเซ็นเตอร์เปิดเพจในรูปแบบ Meta Business เพื่อโฆษณาขายตั๋วเครื่องบินราคาถูกให้คนในประเทศเวียดนาม สนทนาผ่านแอปพลิเคชันเทเลแกรมตามสคริปต์ที่เตรียมไว้ เมื่อเหยื่อหลงเชื่อให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารเวียดนาม จากนั้นจะไม่สามารถติดต่อคนร้ายได้อีก ตรวจสอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์พบข้อมูลการสนทนาในแอปพลิเคชันเทเลแกรมมีห้องสนทนาหลายห้อง ข้อมูลสอดคล้องกับข้อมูลจากหน่วยงานรัฐของเวียดนามที่ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายด้าน พ.ต.อ.อภิรักษ์ จำปาศรี ผกก.1 บก.สอท.3 กล่าวว่า ตรวจสอบโทรศัพท์มือถือหลายเครื่องพบคลังภาพที่มีภาพเอกสารรับรองการจองตั๋วเครื่องบิน หนังสือประกันการเดินทาง สลิปการโอนเงินจากธนาคารของเวียดนาม รวมทั้งนามบัตรของบริษัทที่อ้างว่าให้บริการขายตั๋วเครื่องบินราคาถูก เช่น VLINES AIRCRAFT COMPANY LIMITED และเว็บไซต์ AIRDULICH.COM อีกทั้งยังพบการเข้าใช้งานเฟซบุ๊กแฟนเพจและ Business Suite เชื่อว่าเป็นช่องทางในการลงโฆษณาเพื่อหลอกลวงเหยื่อ นอกจากนี้จากข้อมูลในคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะยังพบเอกสารประกันการเดินทางที่สามารถแก้ไขได้“ขณะนี้ประสานตำรวจเวียดนามเพื่อพิสูจน์การกระทำผิดของกลุ่มผู้กระทำความผิดในเบื้องต้น กลุ่มนี้จัดทำเว็บไซต์ปลอมและเปิดบริษัทในเวียดนามเพื่อบังหน้า จากพยานหลักฐานทั้งหมดแสดงให้เห็นถึงการกระทำที่เป็นขบวนการแบ่งหน้าที่กันทำ เช่น ผู้โพสต์ข้อความโฆษณา ผู้จัดทำเอกสารปลอม และผู้จัดส่งเอกสารไปยังเหยื่อ รับโอนเงินแต่ไม่มีหลักฐานการจองตั๋วเครื่องบินจริงแต่อย่างใด ตำรวจไซเบอร์รวบรวมพยานหลักฐานส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ดำเนินคดีในความผิดฐานสมคบกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิด (ฉ้อโกง) อั้งยี่ และซ่องโจร” พ.ต.อ.อภิรักษ์กล่าวอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่