“ทักษิณ” ร่วมวงดินเนอร์พรรคร่วมคึกคัก แกนนำมากันพร้อมหน้า ส่งสัญญาณจับมือร่วมรัฐบาลกันไปยาวๆ “อิ๊งค์” ขอบคุณทุกแรงสนับสนุน มั่นใจด้วยเจตนาบริสุทธิ์จะได้กลับมารับใช้อีก พท.ยัน “นายใหญ่” ร่วมมื้อค่ำไม่ผิดครอบงำ “ณัฐพงษ์” ดักคอพรรคร่วมอย่าเอาแต่จ้องแบ่งเค้ก ทำประโยชน์ให้ประชาชนบ้าง “โรม” ซัด “พ่อนายกฯ” แย่งซีนลูกสาว “อนุทิน” แนะอดีตเจ้านายอยู่ให้ห่างคนสอพลอ ที่ประชุม พท.ชง “ฉลาด” นั่งรองประธานฯ ฝักถั่วสีน้ำเงินโหวตตามโผ “สราวุธ” นั่งตุลาการศาล รธน. ตีตกชื่อ “สุธรรม เชื้อประกอบกิจ” “ณรงค์” ฉลุย กกต.ใหม่ “นันทนา” เสียงข้างน้อยขอฟ้องประชาชน “ทนายอั๋น” ขู่ยื่นร้องศาลฎีกา พ่วงเอาผิดจริยธรรม “เดชอิศม์” ตั้งทีมสอบอธิบดีที่ดิน สางปมเขากระโดงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมวงดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาลชื่นมื่น พร้อมโชว์วิสัยทัศน์การขับเคลื่อนงานของรัฐบาลต่อไป ท่ามกลางการจับจ้องจากกลุ่มต้าน ที่มองว่าเป็นการครอบงำพรรคร่วมรัฐบาล อาจมีการยื่นเรื่องให้องค์กรอิสระตรวจสอบเอาผิดได้“อิ๊งค์” ยิ้มให้สื่อก่อนประชุม ครม.เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 ก.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม ในชุดสีเหลืองเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายก รัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุม ทั้งนี้ ก่อนการประชุม นางวรรณปรียา โลหะวัฒนะกุล รองประธานสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ นำคณะกรรมการและเจ้าหน้าที่สภาสังคมสงเคราะห์ฯ เข้าพบนายภูมิธรรมเพื่อประชาสัมพันธ์และจำหน่ายดอกมะลิ เนื่องในวันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2568 ด้าน น.ส.แพทองธารส่งยิ้มให้ผู้สื่อข่าวและแวะบูธประชาสัมพันธ์และจำหน่ายดอกมะลิ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ติดเข็มกลัดดอกมะลิเพื่อประชาสัมพันธ์งานด้วย หลังประชุม ครม. ขณะ น.ส.แพทองธารเดินลงจากตึกบัญชาการ 1 มายังตึกไทยคู่ฟ้า ได้ยืนถ่ายภาพด้านหน้าตึกไทยฯที่มีการอัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในเดือนมหามงคล วันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2568ปลื้มยูเนสโกสดุดี “เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี”ก่อนหน้านี้ช่วงเช้า น.ส.แพทองธารทวีตข้อความผ่าน X ว่า “ข้าพระพุทธเจ้ามีความปลื้มปีติเป็นอย่างยิ่งในโอกาสที่นางออเดรย์ อาซูเลย์ ผู้อำนวยการใหญ่ยูเนสโก ได้ประกาศเชิดชูพระเกียรติและถวายเหรียญสดุดีแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา อันเนื่องจากพระกรณียกิจอันทรงคุณูปการ ด้านการอนุรักษ์และส่งเสริมมรดกทางวัฒนธรรม การสนับสนุนงานวิจิตรศิลป์ และการขับเคลื่อนวัฒนธรรมและอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระปณิธานอันแน่วแน่ในการสืบสานและยกระดับผ้าไทยสู่เวทีโลก เป็นที่ประจักษ์แก่สากล และทรงมีบทบาทสำคัญในการธำรงอัตลักษณ์ของชาติอย่างสง่างาม นับเป็นพระกรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ การมอบเหรียญสดุดี ณ สำนักงานใหญ่ยูเนสโก กรุงปารีส เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2568 ถือเป็นการร่วมกันสดุดีโดยประชาคมระหว่างประเทศในพระวิริยอุตสาหะและพระอัจฉริยภาพของพระองค์อย่างแท้จริง”เคลียร์คิวไปช่วยหาเสียงศรีสะเกษนางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงโควตาเก้าอี้รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ว่า รองประธานสภาฯคนที่ 2 เป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทย คาดว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะพูดคุยกันในวันเดียวกันนี้ เมื่อถามถึงการเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ หัวหน้าพรรค พท. จะลงพื้นที่ช่วยหาเสียงด้วยหรือไม่ นางมนพรตอบว่า วันที่ 22 ก.ค.พรรคจะหารือกัน ยังไม่มีการเคาะวัน แต่ทราบว่านายทักษิณจะไปที่ประชุม พท.เสนอ “ฉลาด” รอง ปธ.ต่อมาเวลา 15.00 น.ที่โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท พรรคเพื่อไทยจัดประชุม สส.ประจำสัปดาห์ มีแกนนำพรรคทยอยเดินทางมาถึง อาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯและ รมว.คมนาคม นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกฯ รองหัวหน้าพรรค จากนั้นเวลา 16.00 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯและ รมว.วัฒนธรรม หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เดินทางเข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ ในที่ประชุมมีการหารือถึงการเสนอชื่อ สส.พรรค เป็นรองประธานสภาฯ แทนนายภราดร ปริศนานันทกุล ที่ลาออกไปก่อนหน้านี้ ซึ่งที่ประชุมเห็นตรงกันว่าควรเป็นสส.อีสานที่มีความอาวุโส มองแล้วมี 2 คน คือนายไชยา พรหมา สส.หนองบัวลำภู และนายฉลาดขามช่วง สส.ร้อยเอ็ด และที่ประชุมมีมติให้เสนอชื่อนายฉลาด โดยจะมีการเสนอต่อที่ประชุมสภาฯ ในวันที่ 24ก.ค.ต่อไป“ทักษิณ”ร่วมดินเนอร์รัฐบาลคึกคักกระทั่งเวลา 17.30 น. พรรคเพื่อไทยเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงกระชับความสัมพันธ์พรรคร่วมรัฐบาล ถือเป็นครั้งแรกของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ภายใต้ชื่องาน “Pheu Thai Party (พรรคเพื่อไทย) สามัคคีประเทศ ปกป้องอธิปไตย แก้ปัญหาเพื่อประชาชน” มีรัฐมนตรี และ สส.พรรคร่วมรัฐบาล มาร่วมงานกันคึกคัก อาทิ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค รทสช. นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายไผ่ ลิกค์ เลขาธิการพรรคกล้าธรรม (กธ.) นายอรรถกร ศิริลัทยากร นายทะเบียนพรรค กธ. นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง หัวหน้าพรรคประชาชาติ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรค ชพน. นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรค ชพน. จนเวลา 18.00 น. นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึง มี น.ส.แพทองธาร และแกนนำพรรค พท.มารอรับ นายทักษิณส่งยิ้มทักทายสื่อมวลชน ผู้สื่อข่าวถามว่ามาบรรยายเรื่องอะไร นายทักษิณตอบว่า มาการเมืองก็ต้องพูดเรื่องการเมือง เมื่อถามย้ำว่าไม่กลัวถูกข้อหาครอบงำใช่หรือไม่ นายทักษิณปฏิเสธที่จะตอบคำถาม นายกฯมั่นใจได้กลับมารับใช้อีกขณะที่ น.ส.แพทองธารขึ้นกล่าวบนเวทีว่า วันนี้รู้สึกดีใจที่ได้มาพูดคุยมาทานข้าวกัน เรามีเจตนารมณ์มีเป้าหมายร่วมกันคือดูแลประชาชน ขอบคุณทุกท่านสำหรับการสนับสนุนที่มีมาต่อเนื่อง ตลอดระยะเวลาหนึ่งปีที่เป็นหัวหน้ารัฐบาล ในฐานะนายกฯต้องขอบคุณความทุ่มเทแรงกายแรงใจของทุกคนที่จะทำให้รัฐบาลของเราแข็งแรง มั่นใจว่าเอกภาพเสถียรภาพของพรรคร่วมรัฐบาล จะทำให้เราชนะทุกสิ่ง ผ่านพ้นทุกอย่างไปได้ ยังมั่นใจในเรื่องเจตนาอันบริสุทธิ์ที่จะรักษาไว้ซึ่งชีวิตประชาชน ชีวิตเจ้าหน้าที่ทหาร และยึดหลักสันติวิธีเป็นสิ่งที่สำคัญ หวังว่าสิ่งเหล่านี้จะสามารถพิสูจน์ในกระบวนการต่างๆได้ จะได้มีโอกาสกลับมารับใช้พี่น้องประชาชน รับใช้สถาบัน และมีโอกาสกลับมาทำงานร่วมกับทุกท่านอีกครั้งแน่นอนประกาศจับมือร่วม รบ.กันไปยาวๆด้านนายทักษิณกล่าวบรรยายพิเศษว่า วันนี้รู้สึกหนุ่มขึ้นเยอะ รู้สึกเหมือน 51 ปีที่แล้ว ตอนอายุ 25 ปี วันนี้บรรยากาศคล้ายกัน สมัยก่อนพรรคร่วมรัฐบาลมีหลายพรรค เป็นผลพวงจากการเขียนกฎหมายแบบนี้ แต่เป็นคนไม่มองเห็นปัญหาเป็นปัญหา มองปัญหาเป็นความท้าทาย วันนี้กำลังท้าทายพวกเราพรรคร่วมรัฐบาลว่าเราต้องสร้างความเป็นปึกแผ่น แม้ว่าเสียงจะเกินกึ่งหนึ่งไม่มากนัก แต่ด้วยความสามัคคี ความน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ความมุ่งมั่นแก้ปัญหาชาติ เสียงหนึ่งเสียงก็เกินพอ บังเอิญวันนี้พรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล ในจังหวะที่มั่นใจว่าได้เปรียบทางการเมือง แต่เป็นจังหวะที่ไม่เป็นสุภาพบุรุษไม่เป็นไร วันนี้พรรคร่วมรัฐบาลยังเป็นปึกแผ่นแข็งแรงดี หัวหน้าพรรคทุกคนยืนยันว่าเราจะไปด้วยกัน บอกกับหัวหน้าพรรคเพื่อไทยว่าทีมนี้แหละที่เมื่อเลือกตั้งแล้ว จะเป็นเพื่อนร่วมงานกันอีกครั้งหนึ่ง เมื่อไม่ทิ้งกันขนาดนี้ก็ไม่ทิ้งกันตลอดไปแนะเทคนิคควบคุมเสียงในสภานายทักษิณกล่าวต่อว่า เคยมีประสบการณ์ควบคุมเสียงในสภาสมัยนั้น เชื่อว่าวันนี้ถ้าแต่ละพรรคแบ่งรัฐมนตรีให้ความอบอุ่นแก่ สส. ก็จะมั่นคง หากไม่ดูแลก็จะถูกตีท้ายครัว หากดูแลดีๆก็ไม่ถูกใครตีท้ายครัว วันนี้มีพวกชอบตีท้ายครัวอยู่ กระทรวงมหาดไทยวันนี้ได้นายภูมิธรรม เวชยชัย กำกับดูแลเป็นกระทรวงที่ส่งนโยบายถึงมือประชาชน ไปถึงสัปดาห์แรกย้ายอธิบดี 2 คน บางทีประเทศเราต้องการความเด็ดขาดเฉียบพลัน บางทีเราช้าไปรำวงมากไปไม่ค่อยดี วันนี้ไม่มีเวลารำวงโชว์แล้ว ตอนนี้ต้องเอาจริง “มั่นใจว่าวันนี้พวกเราทุกคนจะมีความสามัคคีกัน และเมื่อผมพ้นบ่วงของผมแล้ว ผมจะแวะไปเยี่ยมท่านทั้งหลาย ไปทุกจังหวัด แวะไปเยี่ยม ไปให้คำปรึกษา คำแนะนำ มีอะไรก็ไม่ต้องเกรงใจ มีผมอยู่ที่นี่อย่าว้าเหว่ ไม่ต้องไปตกใจกับคะแนนเสียงที่หายไป มันหายไปได้ก็กลับมาได้ หวังว่าทุกคนคงจะมีกำลังใจ และมีผมอยู่ทั้งคน ได้นายกฯอิ๊งค์ แถมพ่อนายกฯอิ๊งค์ ไว้ช่วยเป็นที่ปรึกษา”“เท้ง” ดักคอดินเนอร์จ้องแบ่งเค้กที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ผู้นำฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ว่าคงไม่มีความเห็นเป็นพิเศษกรณีนายทักษิณไปร่วมวงดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาล หวังว่าบทสนทนาที่เกิดขึ้นในวงดินเนอร์จะเป็นสิ่งที่รัฐบาลอยากผลักดันร่วมกัน ในฐานะพรรคฝ่ายค้านขณะนี้มีกฎหมายหลายฉบับ ถ้าพรรคเพื่อไทยสามารถผลักดันกฎหมายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนได้ เช่น การปฏิรูปกองทัพ ฝ่ายค้านพร้อมสนับสนุนรัฐบาล ไม่อยากให้วงดินเนอร์นี้เป็นวงที่พูดคุยกันแต่เรื่องแบ่งเค้ก หรือรวมเสียงรัฐบาล อยากให้เอาประชาชนเป็นตัวตั้ง และลำพังเสียง สส.พรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชน 2 พรรค ถ้าเราเห็นตรงกันในกฎหมายบางฉบับสามารถผลักดันได้ มีเสียงเกินครึ่งอยู่แล้ว อยากให้พรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำรัฐบาลมองประโยชน์ประชาชนเป็นตัวตั้ง เมื่อถามว่า เป็นการตอกย้ำหรือไม่ว่านายทักษิณอยู่เบื้องหลังรัฐบาล นายณัฐพงษ์ตอบว่า คิดว่าสังคมเห็นมาตลอด แต่ถ้าจะกลับมาผลักดันกฎหมายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน เชื่อว่าจะทำให้ประชาชนกลับมาเชื่อมั่นในระบบรัฐสภามากขึ้นซัด “พ่อนายกฯ” แย่งซีนลูกสาวนายรังสิมันต์ โรม รองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวว่า กรณีนายทักษิณไปร่วมดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาล สังคมไม่ได้รู้สึกว่าการที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ และ รมว.วัฒนธรรม ถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ทำให้สังคมอยู่ไม่ได้ กลายเป็นนายทักษิณใช้จังหวะนี้แสดงบทบาทนำของตัวเองมากขึ้น ทำให้ น.ส.แพทองธารถูกคิดถึงน้อยลง วันนี้เราควรมีนายกฯหรือไม่ ปัญหาต่างๆทั้งเรื่องคลิปเสียงชายแดนไทย-กัมพูชา ปัญหาแม่น้ำกก ไม่ได้รับการแก้ไข ความชอบธรรมของ น.ส.แพทองธารและพรรคเพื่อไทยไม่เหลือแล้ว เหตุผลหนึ่งที่ทำให้ น.ส.แพทองธารไม่ถูกคิดถึงในฐานะนายกฯ เพราะขาดความชอบธรรมการบริหารประเทศ ต้องเอาบั้นปลายชีวิตผู้อาวุโสใช้บารมีสุดท้ายที่เคยสะสมมาเผาเล่น เพื่อประคองพรรคเพื่อไทย ตระกูลชินวัตรประคองลูก เป็นวิธีคิดที่ผิด เราอยู่ในจังหวะที่พรรคเพื่อไทยตั้งรัฐบาลง่อนแง่น เรื่ององค์ประชุมสภาฯ พรรคร่วมรัฐบาลไม่สามารถประคองได้ พร้อมล่มตลอดเวลา การผลักดันนโยบายต่างๆจึงยิ่งมีปัญหา ไม่ใช่แค่นโยบายเรือธงที่ผลักดันไม่ได้ รวมถึงกรณีข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ฝากถึง น.ส.แพทองธาร หากสถานการณ์ไปต่อไม่ได้ การหันไปสู่การเลือกตั้งอาจเป็นวิธีดีที่สุด“สมศักดิ์” ตอก ภท.ไม่รู้จักหน้าที่วันเดียวกัน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีพรรคภูมิใจไทยเตรียมดำเนินคดีหลังปราศรัยพาดพิงว่า ถ้าฟ้องในประเด็นนี้แสดงว่ายอมรับสารภาพว่าไม่ได้ทำ ไม่ได้สั่งการแก้ปัญหายาเสพติด เพราะไม่มีหน้าที่ ทั้งที่ในประมวลกฎหมายยาเสพติด มีทั้งกระทรวงยุติธรรม กระทรวงสาธารณสุข รวมถึงกระทรวงมหาดไทยเป็นแนวร่วมการดำเนินการหลัก กระทรวงมหาดไทยมีอำนาจโยงไปถึงผู้ว่าราชการจังหวัด มีอำนาจหน้าที่บูรณาการกับอำเภอ ผู้บริหารท้องถิ่น กระทรวงยุติธรรม และส่วนต่างๆ เป็นที่น่าเสียดายที่เราเสียเวลาไปเปล่าๆ และยิ่งเข้าใจว่าท่านไม่เข้าใจข้อสั่งการ ไม่เข้าใจอำนาจหน้าที่ ยิ่งหนักไปอีก เมื่อถามว่ามีการวางคิวให้นายกฯในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ลงพื้นที่ช่วยหาเสียงเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ ด้วยหรือไม่ นายสมศักดิ์ตอบว่า ไม่ทราบว่ามีการวางตัวหรือไม่ เป็นเรื่องของพรรคแนะ “นายใหญ่” อยู่ห่างคนสอพลอที่พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า การทำงานร่วมกับพรรคประชาชนเป็นฝ่ายค้านก็แฮปปี้ดี เป็นหน้าที่ที่มีความภาคภูมิใจที่สุด เมื่อถามว่าวงดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาลที่มีนายทักษิณเข้าร่วมด้วย นายอนุทินตอบว่า ไม่ต้องมองอะไรแล้ว เอาสรรพกำลังทั้งหมดไปช่วยเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ ให้ ภท.ชนะดีกว่า เมื่อถามว่านายทักษิณระบุว่ามีการโทรศัพท์ให้นายอำเภอมารอรับ นายอนุทินหัวเราะก่อนตอบว่า คนประจบสอพลอนำข่าวแบบนี้ไปเรียนท่าน ต้องห่างไว้นะ ไม่มีนายอำเภอมารอต้อนรับแน่นอนฝักถั่วสีน้ำเงินโหวตสลอนตามโผที่รัฐสภา เมื่อเวลา 09.30 น. มีการประชุมวุฒิสภา มี พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภาทำหน้าที่ประธานที่ประชุม เพื่อพิจารณาการให้ความเห็นชอบบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 2 คน คือ ร.ต.อ.สุธรรม เชื้อประกอบกิจ อาจารย์รัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และนายสราวุธ ทรงศิวิไล อดีตอธิบดีกรมทางหลวง แต่ น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว.กลุ่มพันธุ์ใหม่ ลุกขึ้นคัดค้านไม่ให้ที่ประชุมวุฒิสภาลงมติเลือก เพราะมี สว. 2 ใน 3 ถูกแจ้งข้อหาในคดีฮั้วเลือก สว. แต่ถูกกลุ่ม สว. สีน้ำเงินหลายคนรุมประท้วงจนเกิดการโต้เถียงกันวุ่นวาย ทำให้ พล.อ.เกรียงไกรชิงตัดบทไม่อนุญาตให้อภิปราย ก่อนนำเข้าสู่การประชุมลับ เพื่อพิจารณาประวัติเชิงลึก หลังจบการประชุมลับ ที่ประชุมลงมติเลือกนายศราวุธเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ด้วยคะแนน 143 ต่อ 17 งดออกเสียง 27 ไม่ลงคะแนน 2 และลงมติไม่เลือก ร.ต.อ.สุธรรมเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญด้วยคะแนน 118 ต่อ 39 งดออกเสียง 30 ไม่ลงคะแนน 2เสียงท่วมท้น “ณรงค์” นั่งเก้าอี้ กกต.ต่อมาเวลา 11.50 น. เข้าสู่วาระการพิจารณาการให้ความเห็นชอบบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คือ นายณรงค์ กลั่นวารินทร์ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา หลังการประชุมลับเพื่อพิจารณาประวัติเชิงลึก ประชุมลงมติเห็นชอบนายณรงค์เป็น กกต. ด้วยคะแนน 165 ต่อ 1 งดออกเสียง 20 ไม่ลงคะแนน 1 ถือว่านายณรงค์ได้รับเลือกเป็น กกต.“นันทนา” น้ำน้อยฟ้องประชาชนจาก น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว. แถลงคัดค้านการเลือกผู้ดำรงตำแหน่งองค์กรอิสระว่า ช่วงเวลาแห่งการปิดหูปิดตาประชาชนได้เริ่มขึ้นแล้ว ไม่ยอมให้สมาชิกอภิปราย มีกระบวนการยกมือประท้วงขัดขวางอย่างรุนแรง สุดท้ายประธานวุฒิสภาวินิจฉัยให้หยุดอภิปราย ทำให้ประชาชนเสียโอกาสที่จะรับรู้เรื่องราวต่างๆในสภาฯ “ขอย้ำว่านี่ไม่ใช่เรื่องปกติ ที่คู่กรณีพยายามใช้สิทธิเลือกองค์กรอิสระ โดยไม่คำนึงถึงจริยธรรม ไม่มีจิตสำนึกว่า เป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ เพราะมีประโยชน์ทับซ้อนกันอย่างรุนแรง ขอบอกกับประชาชนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ไม่ปกติ และไม่ควรเกิดขึ้น ขอให้ประชาชนพิจารณาว่าเหมาะสมหรือไม่ ขอฟ้องให้ประชาชนรับรู้”“ทนายอั๋น” ขู่ยื่นเรื่องร้องศาลฎีกาด้านนายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น บุรีรัมย์ กล่าวเสริมว่า จะยื่นหนังสือถึงประธานคณะกรรมการสรรหาและคณะกรรมการสรรหาทุกท่าน ให้หยุดสรรหา หยุดพายเรือให้โจรนั่ง และหวังว่าการสรรหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 2 คนในวันนี้ จะเป็น 2 คนสุดท้ายภายใต้น้ำมือของ สว.ชุดปัจจุบัน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าประธานจะเรียกประชุมและหยุดสรรหาบุคคลเข้าไปดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ โดยจะเดินทางไปยื่นที่สำนักงานศาลฎีกา และจะยื่นตรวจสอบจริยธรรม สว. ที่ประท้วงและกล่าวหา น.ส.นันทนาว่าเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำ เพราะเห็นว่าเป็นพฤติการณ์ที่สมควรอย่างยิ่งที่คณะกรรมาธิการจริยธรรม วุฒิสภาต้องตรวจสอบศาล รธน.นัดชี้ขาดทำประชามติวันเดียวกัน ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคำร้องที่ประธานรัฐสภา ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 210 วรรคหนึ่ง (2) กรณีที่ประชุมรัฐสภามีมติเห็นด้วยให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภา ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญให้พยานผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องจัดทำความเห็นเป็นหนังสือตามประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญกำหนด เพื่อประกอบการพิจารณาวินิจฉัยแล้ว และเห็นว่าคดีเป็นปัญหาข้อกฎหมาย และมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้ จึงยุติการไต่สวนตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญมาตรา 58 วรรคหนึ่ง จึงนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือและลงมติ ในวันที่ 10 ก.ย.เวลา 09.30 น.นัดไต่สวน “พิเชษฐ์” แปรงบลงพื้นที่นอกจากนี้ศาลรัฐธรรมนูญยังมีคำสั่งเกี่ยวกับคำร้องของนายภัณฑิล น่วมเจิม สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) ที่ขอให้ศาลวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 144 วรรคสาม ว่า กรณีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้จัดทำโครงการและมีการเสนองบประมาณของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร 3 โครงการ โดยนายพิเชษฐ์มีส่วนทางตรงและทางอ้อมในการใช้งบประมาณประจำปี 2568 และเสนอทั้ง 3 โครงการอีกครั้ง ในงบประมาณปี 2569 แบบโครงการเดียวกันและต่อเนื่อง ที่นายพิเชษฐ์มีส่วนในการเสนอแปรญัตติ หรือการกระทำใดที่มีส่วนไม่ว่าโดยทางตรงและทางอ้อมในการใช้งบประมาณ ศาลมีคำสั่งให้หน่วยงานหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องจัดส่งสำเนาหลักฐานตามประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญกำหนด และยื่นต่อศาลภายในวันที่ 23 ก.ค. ส่วนการไต่สวนพยานบุคคลในวันที่ 24 ก.ค. ศาลอนุญาตให้เฉพาะคู่กรณีและผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมฟังเท่านั้น“เดชอิศม์” ตั้ง กก.สอบอธิบดีที่ดินผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงมหาดไทยว่า นายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย ลงนามคำสั่ง มท. ที่ 2143/2568 เมื่อวันที่ 21 ก.ค. แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบคำสั่งอธิบดีกรมที่ดิน กรณีไม่เพิกถอนโฉนดที่ดินบริเวณเขากระโดง ระบุว่า ด้วยปรากฏข่าวสารเป็นที่แพร่หลายเกี่ยวกับความเคลือบแคลงสงสัยในผลการตรวจสอบการถือครองที่ดินบริเวณเขากระโดงของกรมที่ดิน กรณีศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาให้อธิบดีกรมที่ดิน ตั้งคณะกรรมการสอบสวน ตามมาตรา 61 ตามกฎหมายที่ดินเพื่อหาแนวเขตที่ดินที่เป็นของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลฎีกาปี 60 และคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ภาค 3 ปี 63 ต่อมาอธิบดีกรมที่ดินเห็นชอบตามมติของคณะกรรมการสอบสวนที่ไม่เพิกถอนโฉนดที่ดินบริเวณเขากระโดง และมีคำสั่งให้ยุติเรื่อง ดังนั้นจึงแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบคำสั่งอธิบดีกรมที่ดิน เพื่อความชัดเจน เป็นธรรม เป็นไปตามคำพิพากษาศาลฎีกา ศาลอุทธรณ์ ภาค 3 และศาลปกครองกลางรองปลัด มท. เป็น ปธ. ดึงอัยการร่วมสำหรับคณะกรรมการชุดนี้ประกอบด้วย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัด มท. เป็นประธาน พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน นายปรัชญา ทัพทอง อัยการพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด น.ส.ปาริชาติ เพชรวงค์ อัยการพิเศษฝ่ายคุ้มครองสิทธิประชาชนระหว่างประเทศ นายไกรศรี สว่างศรี ผู้อำนวยการส่วนแผนที่และเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ นายไพโรจน์ โพธิ์บอน อาณาบาลบังคับคดี 5 สำนักงานอาณาบาล รฟท. และนายไทย์ธน รุ่งเรือง เป็นกรรมการ มีอำนาจพิจารณาเสนอความเห็นเกี่ยวกับผลการตรวจสอบคำสั่งอธิบดีกรมที่ดิน โดยตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานทั้งปวงที่เกี่ยวข้อง รับฟังพยานบุคคล ตรวจสอบเอกสาร วัสดุ หรือสถานที่เชิญบุคคลหรือผู้แทนหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงข้อมูลและข้อเท็จจริง รวมทั้งดำเนินการ อื่นที่เป็นประโยชน์ จนกว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จ และส่งสรุปผลการตรวจสอบ พร้อมเสนอความเห็นต่อผู้แต่งตั้งเพื่อพิจารณาสั่งการต่อไปครม.ตั้ง “ชนินทร์” นั่งเลขาฯ มท.1อีกเรื่อง น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุม ครม.ว่า ครม.มีมติแต่งตั้งนายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ ดำรงตำแหน่งเลขานุการ รมว.มหาดไทย และมีมติแต่งตั้งข้าราชการการเมือง 2 ตำแหน่ง คือ น.ส.สกาวใจ พูนสวัสดิ์ ที่ปรึกษา รมว.วัฒนธรรม นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ เป็นเลขานุการ รมว.วัฒนธรรม นอกจากนี้ ครม.ยังมีมติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข 3 ราย ดังนี้ นายณัฐพล วงศ์วิวัฒน์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการแพทย์ น.ส.สุภัทรา บุญเสริม ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และนายสราวุฒิ บุญสุข เป็นอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์“ประวุธ” สมหวังนั่งอธิบดีราชทัณฑ์น.ส.ศศิกานต์กล่าวอีกว่า ครม.ยังอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงยุติธรรม จำนวน 4 ราย ดังนี้ พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เป็นอธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายไตรยฤทธิ์ เตมทิวงศ์ รอง ปลัดกระทรวง เป็นอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ น.ส.รวิวรรณ จตุรพิธพร เป็นรองปลัดกระทรวง พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมคุมประพฤติ เป็นเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.)อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่