จากกรณีพระสงฆ์ ระดับเจ้าอาวาส เจ้าคณะจังหวัด พระราชาคณะ 10 กว่ารูป ละเมิดพระธรรมวินัย เสพเมถุนกับสีกา สร้างความเสื่อมเสียแก่พระพุทธศาสนา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกฯ เปิดเผยว่า สมเด็จพระสังฆราชฯ รับสั่งให้ทุกฝ่ายช่วยกัน ปกป้องไว้ซึ่งพระพุทธศาสนาโดยให้จัดการได้อย่างเต็มที่ ถ้าผิดปาราชิกก็ให้ทำไปตามพระธรรมวินัย และหากจะมีการออกกฎระเบียบก็ให้นำกฎหมายเก่ามาพิจารณาเพิ่มความเข้มงวด อย่าให้พระพุทธศาสนามีความเสื่อม และการแก้กฎหมายให้หารือมหาเถรสมาคม โดยให้ทำอย่างเข้มงวด รวมทั้งกรณีที่เกี่ยวกับ โลกโซเชียลฯ ซึ่งจะต้องสังคายนาทั้งหมดด้านนายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกฯ กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ระบุขอน้อมนำข้อห่วงใยของสมเด็จพระสังฆราชฯ ในเรื่องพระสงฆ์ที่เกิดขึ้น เพื่อพิจารณาแนวทางแก้ไข พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 ให้ทันกับสถานการณ์ปัจจุบัน รวมทั้งการลงโทษพระที่ทำผิดพระวินัย และการบริหารจัดการทรัพย์สินของวัดขณะนี้ได้มีการหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว โดยอยู่ในกระบวนการศึกษาเพื่อความรอบคอบ รัดกุม และครอบคลุม พร้อมทั้งกำชับให้ทำอย่างรวดเร็ว และประสานกับกระทรวงมหาดไทย องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น และ ผบ.ตร. ในการบูรณาการทำงานร่วมกันเพื่อให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพราะ พศ.ไม่มีอำนาจจับกุมทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าโลกปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปจากสมัยอดีตมาก เพราะเป็นโลกยุคดิจิทัลที่มีการพัฒนาเทคโนโลยีการสื่อสาร ผ่านอินเตอร์เน็ต ออนไลน์ และโซเชียลมีเดีย ทุกคนสามารถติดต่อสื่อสารกันได้อย่างง่ายดาย ทั้งการส่งข้อความ รูปภาพ และวิดีโอคอล พูดคุยแบบเห็นรูปร่างหน้าตาของคู่สนทนาได้ทุกที่ ทุกเวลาด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารที่ล้ำสมัย ทำให้พระสงฆ์ยุคนี้เสี่ยงต่อการถูกยั่วยวน หลอกล่อ จนโดนกิเลส ตัณหาครอบงำได้ง่ายกว่าสมัยอดีตกาล ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยเหตุที่ทำให้พระสงฆ์ ชั้นพระราชาคณะหลายรูป ทำผิดพระธรรมวินัย โดยแอบติดต่อพูดคุยจนมีสัมพันธ์กับสีกา สร้างความเสื่อมเสียต่อพระพุทธศาสนาดังนั้น ผู้รับผิดชอบในรัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการสังคายนาร่าง พ.ร.บ.สงฆ์ และกฎหมายอื่นๆ เพื่อกำหนดมาตรการป้องกันและบทลงโทษอาญาพระสงฆ์ที่ละเมิดพระธรรมวินัยและฆราวาสที่สร้างความเสื่อมเสียแก่พระพุทธศาสนา จึงไม่ควรมองข้ามกรณีปัญหาการใช้สื่อโซเชียลฯ ที่ไม่เหมาะสมของพระสงฆ์ในยุคนี้ด้วย.คลิกอ่านคอลัมน์ “บทบรรณาธิการ” เพิ่มเติม