หลังอีเวนต์งานใหญ่ พากันฉายภาพตาม “ฉากทัศน์บ้านเมือง” ของ “อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร” บนเวทีเอกซ์คลูซีฟทอล์กที่จัดโดยสำนักข่าวแห่งหนึ่งในหัวข้อที่เรียกความสนใจ “ผ่าทางตันประเทศไทย”รายการนี้อดีตนายกฯในฐานะพ่อของ “นายกฯแพทองธาร ชินวัตร” ผู้นำหญิงคนปัจจุบัน โผล่มาในห้วงลูกสาวกำลังเผชิญผลพวงแห่งความผิดพลาด เจอเอฟเฟกต์ “คลิปเปลี่ยนชีวิต” ฉายภาพน่าสนใจเอ่ยคำพูดติดปากในรายการ “ไม่เป็นไร” หลายรอบไม่ต่างจากอดีตผู้นำมาดนักซิ่ง พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เมื่อครั้งอดีต มีวลีติดปาก “โนพร็อบเบลม” ที่ว่า “ไม่มีปัญหา” เท่ากับ “มีปัญหา” คำว่า “ไม่เป็นไร” วันนี้ก็เข้าลักษณะ “I am ok–not ok”กำลังมึนๆ อะไรๆก็ “ยุ่งตายห่ะ” ทำนองนั้นแต่ด้วยสไตล์วิถีคนกล้าแห่งสมัชชาคนจริง ไม่มีอ่อนเปลี้ยเพลียพลังให้เห็น “ทักษิณ” ย้ำโชว์ ทุกปัญหาของรัฐบาลแพทองธารแก้ได้หมด ทั้งวิกฤติอำนาจ วิกฤติบริหารทุกมิติ ปมเศรษฐกิจ สังคม ความมั่นคงเมื่อผู้นำหลังม่านได้เวลาลุยช่วย สทร.มาแล้ว ก็ ย.ห.อย่าได้ห่วงถ้าไล่เรียงปัญหาโฟกัสเนื้อหาทอล์กโชว์อดีตผู้นำ อันดับแรกไม่พ้นกรณี “ฮุน เซน” อดีตผู้นำเพื่อนบ้าน เล่นเล่ห์ลวงเดียงสานายกฯหญิงไทย “ทักษิณ” ฉุนขาด ไม่อยากนับญาติ ถือพี่ถือน้องกันอีกที่น่าสนใจคือแนวทางแก้ปัญหาวิกฤติชายแดน ข้อขัดแย้งลุกลามสัมพันธ์ประเทศ “ทักษิณ” พูดหรูดูดีมีหลักการ แต่ยังไม่ผ่าน เพราะเน้นแต่ปัญหารอยแตกระหว่าง “ตระกูลชินฯ–ตระกูลฮุน”ส่วนปมขัดแย้งประเทศ ขอให้อดทนเหมือนดำน้ำ “ใครจะอึดกว่ากัน”เช่นเดียวกับปมปัญหาบ้านเมืองอื่นๆ ที่อดีตนายกฯมือฉมังการบริหารก็ไม่ต่างกันทั้งกรณีภาษีทรัมป์ ประเทศไทยเจอทุบอัตราโหด ปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ ทิศทางการค้า การลงทุนก็ออกแนวติวเตอร์เก่า เลกเชอร์ซ้ำๆ ยังไม่เห็นฟอร์ม “อ๋องเศรษฐกิจ”แต่ที่เป็นไฮไลต์เวทีทอล์กรอบนี้ ไม่พ้นปมแก้การเมือง “ทักษิณ” ย้ำหลายรอบ“ไม่ถึงทางตัน” ยังมี 3 ฉากทัศน์ทางเลือก “ไปต่อ–ร่วงก็เปลี่ยนผู้นำ–ยุบสภา”เป็นบทวิเคราะห์กึ่งโชว์แผนหลังคำพิพากษาศาลรัฐธรรมนูญ โยงชะตาอำนาจนายกฯหญิง แผนไปต่อของรัฐบาลลูกสาว ทั้งไม่ผิดก็บริหารบ้านเมืองต่อ ถ้าโดนโทษก็เปลี่ยนเป็น “ชัยเกษม นิติสิริ” แคนดิเดตนายกฯในบัญชีพรรคเพื่อไทย หรือถ้าสถานการณ์ไม่สู้ดี ก็ยังมั่นใจมีดาบอาญาสิทธิ์ “ยุบสภา”ฝ่าทางตันตามสเต็ปหน้างานที่ยกมาเล่าได้ แต่หลังฉากมีอีกหลายตัวแปรไพ่ลับ ท่าไม้ตาย ไม่แพลมไต๋อยู่แล้วแต่ที่เด่นชัดจริงๆอีกเรื่องก็คือ เกมอัดฝ่ายตรงข้าม ทั้งค่ายศัตรูสีน้ำเงิน กระแทก “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ไล่ตั้งแต่แฉกระทรวงมหาดไทยยุค “บิ๊ก น.หนู” ขัดขวางการบริหารทุกเรื่องชี้นิ้วกล่าวโทษเป็นต้นเหตุ ทำให้งานรัฐบาลไม่เดินหน้าไปจนกระทั่งแฉไต๋ ตามที่ได้ยินความหลุดจากลูกชายของ “อนุทิน” ประกาศทั่ว “พ่อจะเป็นนายกฯ”อีกทางก็ไม่พลาด จวก “ขาประจำหน้าเดิม” ที่ “ทักษิณ” บอกอโหสิให้ แต่บ่นแรงกระแทกไม่หยุดเหมือนกันสรุปความในวิกฤติรุมเร้า มรสุมถาโถม “ดุลอำนาจ” รัฐบาลและตัวเองรอบนี้ อดีตนายกฯฝีปากจัดจ้าน ครบเครื่องเรื่องวาจาเหมือนเดิมกองเชียร์ฟังตามแล้วก็เคลิ้มได้ แต่ฝั่งตรงข้ามคิดตามละเอียดก็มีหนาวเพราะล้วนแล้วแต่ประเภทชี้นิ้วบริภาษ กล่าวโทษทั่วทิศ ทั้งเกลอเก่า “ฮุน เซน” อดีตลูกน้อง “เสี่ยหนู” และครูใหญ่ ลากไปถึงขาประจำม็อบต้าน แม้กระทั่งผู้นำประเทศมหาอำนาจ ก็ยังโดนวิจารณ์เฉี่ยวๆเป็นท่วงท่าลีลาเฉพาะตัว ละม้าย “โจโฉ” มั่นคง เด็ดเดี่ยว กล้าได้กล้าเสีย มีโอกาสรีบฉวยตามคำนิยมตัวละครเอกสามก๊ก “ทรยศคนได้ทั้งโลก แต่ไม่ยอมให้ใครทรยศข้า”ขึ้นเวทีรอบนี้ “ทักษิณ” ถึงได้สวมบท “ดัชนีนาย” นิ้วชี้พิฆาตแม้โชว์ชิลชิลสบายๆ แต่ชี้นิ้วฝังแค้นรอบทิศเหมือนกัน.ทีมข่าวการเมืองคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม