ล้างบางสิงห์น้ำเงินประเดิมเชือด “ไชยวัฒน์-นฤชา” อธิบดีปกครอง-อธิบดี สถ.พ้นวงโคจรอำนาจ ครม.ไฟเขียว ผวจ.เชียงใหม่ ผวจ.เพชรบุรี ขึ้นแทน “ภูมิธรรม” แจงยิบดูปัจจัยทำงานเป็นหลัก ปัดไม่เกี่ยวเด้งคนสายบุรีรัมย์ กร้าวล้างบางทุกสีที่ไม่สนองนโยบายรัฐบาล แถมขึงขังขึ้นลิสต์บิ๊กมหาดไทยเกียร์ว่างหรือแอ็กทีฟไว้ยกแผง รัฐบาลถอนฟืนออกจากกองไฟดึงร่างเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์พ้นสภา “จุลพันธ์” ยอมถอยหนึ่งก้าวให้ประเทศเดินหน้าได้ รอจังหวะเหมาะลุยไฟใหม่ ปชน.-ภท.ประสานเสียงเย้ยรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำกลัวโดนคว่ำกลางสภา แต่รอโอกาสเปิดเตรียมผลักดันต่อ “นายกฯอิ๊งค์” ปลุกใจลูกพรรคต่อสู้คดีคลิปคุยกับลุงเต็มที่ ทวงคืนความเป็นธรรมกลับมา เพื่อไทยมั่นใจที่ประชุมสภารับหลักการร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมครม.อิ๊งค์ 1/2 บริหารประเทศได้เพียง 1 สัปดาห์ ล่าสุดเริ่มกระชับอำนาจกลไกในกระทรวงต่างๆ เริ่มที่ กระทรวงมหาดไทยเสนอ ครม. เด้งอธิบดีกรมการปกครอง อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นสายสีน้ำเงินสมัยพรรคภูมิใจไทยกำกับดูแลกระทรวงคลองหลอด เข้ากรุ ดึง 2 ผู้ว่าฯฝีมือดีขึ้นกุมบังเหียนแทนครม.เชือด 2 อธิบดีเข้ากรุ 2 ผวจ.เสียบเมื่อวันที่ 8 ก.ค. เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.วัฒนธรรม เข้าร่วมประชุม มีรัฐมนตรีแจ้งลาประชุม 3 คน ประกอบด้วย1.นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯและ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม 2.น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกฯ และ 3.นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ เพื่อพิจารณาวาระแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงในกระทรวงมหาดไทย และการพิจารณาถอนร่าง พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ออกจาก สภาผู้แทนราษฎรนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุม ครม.ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทย เสนออนุมัติแต่งตั้งข้าราชการตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง จำนวน 4 ราย เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่างและสลับสับเปลี่ยน โดยให้นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง เป็นผู้ตรวจราชการ สำนักงานปลัดกระทรวง นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เป็นผู้ตรวจราชการ และมีมติแต่งตั้งนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผวจ.เชียงใหม่ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครอง และ ร.ต.ท.ภพชนก ชลานุเคราะห์ ผวจ.เพชรบุรี เป็นอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น“ภูมิธรรม” ย้ายบิ๊ก ขรก.ไม่เกี่ยวการเมืองนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกฯ ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุม ครม.ถึงการพิจารณาโยกย้ายข้าราชการระดับสูงในกระทรวงมหาดไทย (มท.) โดยจะมีตำแหน่งปลัดกระทรวง มท. หรือตำแหน่งอธิบดีกรมต่างๆหรือไม่ว่า ยังไม่ทราบ เมื่อถามว่าโยกนายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ไปเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง มท.จริงหรือไม่ ทั้งสองมีความผิดอะไร นายภูมิธรรมตอบว่า รอให้ ครม.พิจารณาก่อน เห็นลือกันไปมีทั้งปลัดกระทรวง อธิบดีและผู้ว่าราชการจังหวัด แต่ตนทำให้เห็นว่าสามารถทำงานได้ ส่วนที่มอบนโยบายข้าราชการกระทรวง มท.จะประเมินผลงาน 3 เดือนนั้น ไม่ได้หมายความให้ครบ 3 เดือน อะไรที่เป็นอุปสรรคต่อการทำงาน สามารถโยกย้ายได้ ตรงนี้ได้บอกตั้งแต่เริ่มทำงานวันแรก เมื่อถามว่า 2 อธิบดีที่ถูกโยกย้ายเป็นสายบุรีรัมย์ นายภูมิธรรมตอบว่า ไม่เกี่ยวกับสายบุรีรัมย์เกี่ยวกับงาน เมื่อถามต่อว่า งานไหนไม่ตอบโจทย์ นายภูมิธรรมตอบว่า เดี๋ยวเอาให้ชัดเจนก่อนว่าเขาย้ายใคร ยืนยันไม่เกี่ยวกับการเมืองลั่นไม่สนองนโยบายล้างบางทุกสี“ผมบอกแล้วว่ามาทำงาน นับจากนี้เป็นต้นไป ถ้าทำงานก็ไม่มีอะไร ถ้าไม่ทำงาน ไม่ทำอะไรโดยเฉพาะแก้ปัญหายาเสพติด ตอนนี้มีลิสต์อยู่ ตรงไหนไม่ปฏิบัติตาม ไม่ว่าสีไหน ถ้าตรงไหนเข้าไปถามแล้วไม่ทำ มีปัญหาแน่นอน เวลาผมเข้าไปก็เข้าไปได้เลย ไม่ต้องมีพิธีการ ไม่มีหมายนัด ผมกินข้าวกล่องได้ จากนี้ผมจะไป ถ้าตรงไหนผมเข้าไปแล้วมีปัญหาก็จะดำเนินการ” นายภูมิธรรมกล่าว เมื่อถามว่า อธิบดีกรมการปกครองเหลือเวลาอีก 2 เดือนก็เกษียณอายุราชการ ย้ายแบบนี้กระทบขวัญกำลังใจข้าราชการหรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า ไม่ทำลาย สิ่งที่ดำเนินการข้าราชการส่วนใหญ่ต้องรับรู้ว่า เป็นปัญหาอย่างนี้จริงๆ เรื่องบัตรประจำตัวประชาชนที่ จ.บุรีรัมย์ รอให้เกิดเรื่องอย่างนี้ได้อย่างไร ทั้งที่จัดซื้อตามวงรอบอยู่แล้ว ต้องมีการดำเนินการ ไม่ควรเกิดเรื่องแบบนี้ ได้สั่งการแก้ปัญหาแล้ว แต่สำหรับตนไม่ใช่เรื่องนี้ เรื่องยาเสพติดเรื่องเดียว เมื่อถามว่าข้าราชการที่ใกล้ชิดนายอนุทินชาญวีรกูล อดีตรองนายกฯและ รมว.มหาดไทย จะถูกโยกย้ายด้วยหรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า ที่ย้ายไม่ใช่ใกล้ชิดอดีต มท.1 ย้ายเพราะต้องการทำงานในเรื่องยาเสพติดและอะไรหลายๆอย่าง เอาประสิทธิภาพของงานเป็นหลัก บอกว่าไม่มีสี มีแต่สีมหาดไทย เมื่อถามว่าปลัดกระทรวง มท.จะมีการโยกย้ายหรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า ไม่ได้ตั้งเป้าจะย้ายคนไหน แต่ดูเรื่องงานมีลิสต์เด้ง ผวจ.เกียร์ว่างทั่วประเทศเมื่อถามว่าตามกระแสข่าวสาเหตุที่ย้าย ผวจ.เชียงใหม่เป็นอธิบดีกรมการปกครอง เพราะเป็นสายของพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า เคยไปแก้ปัญหาน้ำท่วมในภาคเหนือ ไปเจอที่ จ.เชียงใหม่เห็นการทำงานอยู่แล้ว ใครดีไม่ดีอย่างไรเดี๋ยวก็รู้ ตอนนี้เอกซเรย์ทั้งประเทศ ไม่ใช่เอกซเรย์เฉพาะตรงนั้นตรงนี้ ในลิสต์ของตนใครแอ็กทีฟหรือใครตีกอล์ฟตลอดมีอยู่ เคยบอกตั้งแต่แรกแล้วว่ากลไกสำคัญที่ทำให้นโยบายต่างๆไม่ลงไป ส่วนหนึ่งถูกแช่แป้งจากฝ่ายนโยบาย ส่วนหนึ่งเกิดจากฝ่ายปฏิบัติ เมื่อถามว่าสาเหตุที่รีบโยกย้าย เพื่อเตรียมความพร้อมเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้หรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า “โอ๊ย ผมยังไม่คิดเรื่องการเลือกตั้งเลย ผมยังมีเวลาอีกตั้งเยอะ”กฤษฎีกาอุบไต๋อำนาจยุบสภานายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีให้ความเห็นทางกฎหมายในห้องประชุม ครม. ที่ถูกคนนำไปตีความว่ารักษาราชการแทนนายกฯไม่มีอำนาจยุบสภาว่า พูดให้ที่ประชุม ครม.นัดพิเศษฟัง ไปเขียนอย่างนั้นอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ใครเป็นคนเอาข่าวในที่ประชุมไปพูดไม่ดีเลย เรื่องใน ครม. ขอให้เลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นผู้ตอบบางทีพูดมาแล้วนำมาพูดสั้นๆ มันไม่ถูกต้องกับข้อเท็จจริง ขอตำหนิคนที่เอาเรื่องในที่ประชุม ครม.มาพูด และการเผยแพร่ข้อความในเฟซบุ๊กของตน ที่ตั้งความเป็นส่วนตัวไว้ แต่ก็มีการนำมาลง โดยตั้งใจเขียนให้เพื่อนในเฟซบุ๊กได้อ่าน แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน เมื่อออกมาแล้วก็ไม่เป็นไร แต่ขอร้องอย่าทำอีก ไม่ดีเลย เมื่อถามว่าขณะนี้มองข้อกฎหมายคนละมุมกัน นายปกรณ์ตอบว่า อยู่ที่หลักการ เวลาอธิบายควรอธิบายหลัก ไม่ใช่อธิบายผล แล้วมาบอกว่าอย่างนี้ก็ทำได้ อย่างนั้นก็ทำได้ มันไม่ใช่ แต่วิธีอธิบายกฎหมายคือ ที่มาที่ไปของมันเป็นอย่างไร แล้วจะส่งผลอะไร นั่นคือสิ่งที่ต้องอธิบาย แต่ไม่ได้บอกว่าเป็นเช่นนี้แล้วหาเหตุผลอธิบาย ทั้งนี้ นายปกรณ์กล่าวทิ้งท้ายว่า “วันนี้ดุหน่อยนะ” พร้อมยิ้มให้สื่อ จากนั้นขึ้นห้องประชุม ครม.ทันทีครม.เห็นชอบถอนร่างฯคอมเพล็กซ์นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายก รัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังประชุม ครม.ว่า ที่ประชุมเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังให้ถอนร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอนเตอร์ เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ออกจากสภา เนื่องจากได้มี พระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้รัฐมนตรีพ้นจากความเป็นรัฐมนตรี และมีการแต่งตั้งรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ประกอบกับร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าว มีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับภาคสังคม เห็นสมควร ถอนร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ออกจากการพิจารณาของสภา“จุลพันธ์” แจงยิบถอนนโยบายเรือธงด้านนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุม ครม.ว่า ไม่ได้ห่วงเสียงในสภา แต่ต้องการให้พิจารณาอีกครั้ง เพราะ ครม.เปลี่ยนหน้าเยอะจริงๆ เมื่อถามย้ำว่าไม่ใช่การยกเลิกใช่หรือไม่ นายจุลพันธ์ตอบว่า ถอนครับ ต้องยอมรับ ความจริงองค์ประกอบของรัฐบาลมีการเปลี่ยนแปลง เป็นเหตุผลที่เหมาะสมที่ดึงกลับมาให้ทุกคนได้พิจารณา อีกครั้ง ขณะเดียวกันก็มีจังหวะเวลาทำความเข้าใจกับสังคมให้มากขึ้น เพราะเวลานี้อาจไม่ใช่เวลาที่ เหมาะสม ส่วนเหมาะสมเมื่อไหร่นั้น ตอบไม่ได้ สถาน การณ์การเมืองเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่เห็นว่าควรชะลอ เมื่อถามว่าหากนำร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้เข้าสู่ที่ประชุมสภาอีกครั้ง ต้องผ่าน ครม.ก่อนหรือไม่ นายจุลพันธ์ตอบว่า ถูกต้อง ต้องเริ่มต้นใหม่ เมื่อถามว่า ในเมื่อเป็นนโยบายเรือธงพรรคเพื่อไทย แล้วเมื่อไร ถึงได้ทำ นายจุลพันธ์ตอบว่า อยู่กับความเป็นจริง นาทีนี้อาจไม่เหมาะสม ต้องยอมถอยหนึ่งก้าว เพื่อให้ประเทศเดินหน้าได้ รัฐบาลมองถึงจังหวะที่มี ความพร้อมและเหมาะสมต่อไป ไม่ได้เป็นประเด็นคอขาดบาดตาย แต่ส่วนตัวรู้สึกเสียดายความล่าช้า เป็นการสูญเสียโอกาสของประเทศ น่าเสียดาย ช้าแค่ไหนก็คือความสูญเสียของประเทศ เมื่อถามว่ามั่นใจ หากเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาจะผ่านได้ใช่หรือไม่ นายจุลพันธ์ตอบว่า เป็นรัฐบาลต้องมั่นใจว่าเสียงเกินครึ่งปชน.ยังระแวงเพื่อไทยดันเข้าใหม่วันเดียวกัน ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน รับหนังสือจากนายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน ในนาม เครือข่ายภาคประชาชน ขอให้ใช้กลไกรัฐสภา กดดันรัฐบาลถอนร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ นายธนากรกล่าวว่า ภาคประชาชนสนับสนุนฝ่ายค้านใช้ทุกสรรพกำลังให้ร่าง พ.ร.บ.นี้ถูกถอนออกไปจากรัฐสภา เพราะการใช้การพนันบนดินแก้ปัญหาการพนันใต้ดิน เป็นแนวคิดหลงทาง เพิ่มการขยายตัวการพนันอย่างชอบธรรมโดยนโยบายรัฐ ขณะที่นายพริษฐ์กล่าวว่า ข้อเสนอดังกล่าวเป็นจุดยืนของพรรคร่วมฝ่ายค้านที่แสดงต่อสาธารณะ ไม่ให้ ร่างกฎหมายนี้ผ่านความเห็นชอบ แม้รัฐบาลเสนอ ถอนร่าง พ.ร.บ.นี้ แต่ต้องวิเคราะห์ให้ดีว่า เป็นการ ถอนแบบจริงใจหรือไม่ ถ้าเสนอถอน โดยยอมรับร่างกฎหมายนี้มีปัญหา ไม่ควรเสนอเข้าสภา ถือเป็น เหตุผล แต่ถ้าเสนอถอนเพราะเสียงรัฐบาลไม่พอ หวังถอนออกไปเพื่อรอเวลาเติมเสียงให้รัฐบาล แล้วนำร่างกลับเข้ามาใหม่ในวันที่เสียงพอ เป็นการถอนแบบไม่จริงใจ ขอให้ประชาชนติดตามสาเหตุการถอนร่างของรัฐบาลให้ดีว่าจริงใจหรือไม่ภท.เย้ย รบ.ถอนเหตุกลัวแพ้ในสภาน.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย โฆษกพรรคภูมิใจไทย (ภท.) แถลงภายหลังการประชุมพรรคว่า พรรค ภท.มีมติไม่สนับสนุนร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจรที่รัฐบาลเสนอ ส่วนที่รัฐบาลถอนร่างกฎหมายฉบับนี้ ออกจากวาระการประชุมสภา เป็นการถอนที่ไม่จริงใจ เพราะเกรงแพ้ลงมติในสภา ที่จะส่งผลกระทบกับรัฐบาล ไม่ยุบสภาหรือต้องลาออก ถ้ารัฐบาลมีความจริงใจขอให้แถลงในที่ประชุมสภาว่า รัฐบาลจะไม่เสนอร่าง ดังกล่าวเข้ามาอีกแต่ถ้าถอนออกไปก่อน แสดงว่า ยังไม่เลิก เพียงแต่รอจังหวะเวลาแล้วส่งเข้ามาอีก เป็นการแสดงเจตนารมณ์ของรัฐบาลว่า ยังมีนโยบายให้มีกาสิโนในประเทศ พรรค ภท.จะคัดค้านถึงที่สุด “ถ้ารัฐบาลมั่นใจว่า เป็นเครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจไทยจริง ก็ไม่ต้องถอน เปิดโอกาสให้ สส.ได้พิจารณากัน เต็มที่ แล้วตัดสินกันในสภาให้เป็นที่เด็ดขาดไปเลย ถ้าเสียงส่วนใหญ่ลงมติเห็นด้วย พรรค ภท.ก็ยอมรับ ไม่ควรใช้วิธีชักเข้าชักออก หลบๆซ่อนๆแบบนี้”“อิ๊งค์” เข้าใจกฎแห่งการเปลี่ยนแปลงสำหรับความเคลื่อนไหวของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ และ รมว.วัฒนธรรม เมื่อเวลา 10.50 น. ภายหลังการประชุม ครม. ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.วัฒนธรรม ถึงการแต่งตั้งคณะทำงานชี้แจงศาลรัฐธรรมนูญ แต่ น.ส.แพทองธารไม่ตอบคำถาม เพียงแต่ยิ้มให้สื่อมวลชน ต่อมาเวลา 14.00 น. น.ส.แพทองธารเป็นประธานพิธีเปิดการประชุมนานาชาติด้านซอฟต์พาวเวอร์ (SPLASH-Soft Power Forum 2025) ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ มีรัฐมนตรีไปร่วมงานหลายคน อาทิ นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ประธานกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ และนายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี น.ส.แพทองธาร ภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดงาน ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงกรณีกัมพูชาต้องการให้ไทยส่งคืนวัตถุโบราณ 20 รายการ โดยทางกัมพูชาจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการขนส่งเอง รวมถึงกรณีสหรัฐอเมริกาแจ้งอัตราภาษีศุลกากรไทย ที่ไทยถูกเรียกเก็บภาษี 36% โดยนายกฯไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าว เป็นที่น่าสังเกตว่าตลอดทั้งวันนายกฯไม่ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนเลยก่อนหน้านั้นเวลา 10.00 น. น.ส.แพทองธาร แชร์ข้อความของแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต ผ่านสตอรีอินสตาแกรม ว่า “ความเปลี่ยนแปลงเป็นอนิจจัง อยากอยู่เย็นเป็นสุขต้องอยู่อย่างไม่ทุกข์กับความเปลี่ยนแปลง”“นายกฯอิ๊งค์” ลั่นต่อทวงความเป็นธรรมต่อมาเวลา 15.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) มีการประชุม สส.พรรค มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ และ รมว.วัฒนธรรม หัวหน้าพรรค พท. เข้าประชุมด้วย มีเพื่อนสมาชิกมอบช่อดอกไม้เป็นกำลังใจให้กับนายกฯ ต่อมานายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรค พท.แถลงภายหลังการประชุมว่า นายกฯให้ความมั่นใจกับ สส.ว่ายังเดินหน้าทำงานอย่างเข้มข้นต่อ นายกฯยังมีกำลังใจที่ดี ให้ความมั่นใจกับสมาชิกพรรคว่ามีเจตนาดำเนินการต่างๆเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ จะต่อสู้อย่างเต็มที่เพื่อคืนความชอบธรรมกลับมา และปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ ในระหว่างนี้ไม่ต้องมีความกังวล เพราะมีรองนายกฯที่รักษาการนายกฯ ในการดำเนินนโยบายต่างๆอย่างต่อเนื่อง และให้คำมั่นกับเพื่อน สส.ว่า เป็นจังหวะที่ดีใช้กลไกในฝั่งบริหารทั้งหมด ผลักดันนโยบายที่ยังติดขัดอยู่ของพรรค พท.ให้ถึงมือประชาชนให้ได้ โดยเพื่อนสมาชิกยังเชื่อมั่นนายกฯจะผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆไปได้ และสามารถกลับมาปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ในระยะเวลาที่เร็วที่สุดเพื่อไทยผลักดันนิรโทษกรรม 9 ก.ค.นายชนินทร์กล่าวว่า ส่วนกรณีเสียงปริ่มน้ำในสภา มีการกำชับผ่านวิปรัฐบาลไปแล้ว ในวันที่ 9 ก.ค. จะรักษาองค์ประชุมอย่างเข้มข้น ยืนยันร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ในวันที่ 9 ก.ค. จะขอเสนอเพื่อเลื่อนญัตตินี้ให้มาเป็นเรื่องด่วนเรื่องแรก คาดหวังหากเลื่อนญัตติเรียบร้อยโดยไม่ขัดแย้งกัน ในสัปดาห์หน้าจะได้ยืนยันร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ส่วนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่มี 4 ฉบับจะพิจารณาในวันที่ 9 ก.ค. ในที่ประชุมจะเปิดให้ถกเถียงกันก่อนลงมติรับหลักการ นำไปสู่การตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯลงรายละเอียดให้ครอบคลุมในประเด็นไหนบ้างโต้ รทสช.ปูดมติคว่ำร่างนิรโทษฉบับ ปชน.วันเดียวกัน ที่รัฐสภา นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.พรรคประชาชน (ปชน.) ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงกรณีที่ประชุมวิปรัฐบาลมีมติไม่รับร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับพรรค ปชน.และฉบับของภาคประชาชน ที่มีเนื้อหานิรโทษกรรมคดี 112 ที่ประชุมสภาจะพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมวันที่ 9 ก.ค.ว่าได้อ่านมติของวิปรัฐบาลแล้ว ไม่มีมติคว่ำร่างพรรค ปชน. ไม่แน่ใจตัวแทนวิปพรรครวมไทยสร้างชาติที่เปิดประเด็นนี้มีเจตนาอะไร เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยไม่ชัดเจน เพราะมีกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ โดนคดี 112 ด้วย นายปกรณ์วุฒิตอบว่า เป็นไปได้ แต่อยากให้ตัดสินใจโดยที่ไม่ได้คิดว่าเกิดกับใคร แต่ต้องคิดว่าผลทางสังคมเกิดขึ้นเวลากฎหมายบังคับใช้ต้องใช้กับทุกคน เราพยายามปลดล็อกให้ทุกคนที่แสดงออกทางการเมืองตามสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ได้รับโอกาสนิรโทษกรรม เนื่องจากการกระทำที่เกิดจากแรงจูงใจทางการเมืองทั้งหมด เมื่อถามว่าพรรคภูมิใจไทยยืนยันมาโดยตลอดไม่นิรโทษกรรมคดี 112 นายปกรณ์วุฒิตอบว่า เป็นสิทธิของแต่ละพรรค แต่ก็มีการพูดคุยทำความเข้าใจกัน ร่างของพรรค ปชน.ไม่มีคำว่า 112 ไม่ได้ระบุอะไรเอาไว้ แต่เปิดทางให้พูดคุยกันเท่านั้นไม่น่าจะมีปัญหาอะไรศาลฎีกาไต่สวนพยานคดีชั้น 14 นัดที่ 3เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ศาลนัดไต่สวนคดีการบังคับโทษจำคุกนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เพื่อหาข้อเท็จจริงในการบังคับโทษคดีถึงที่สุดกับนายทักษิณว่าเป็นไปตามผลคำพิพากษาของศาลฎีกาหรือไม่ โดยในวันนี้เป็นการไต่สวนพยานที่เป็นกลุ่มเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ 9 ปาก ที่เป็นกลุ่มพัศดีเวร ผู้คุมและชุดปฏิบัติการพิเศษที่ควบคุมตัวนายทักษิณจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯมารักษาตัวยังโรงพยาบาลตำรวจ ศาลฯได้กำชับสื่อมวลชนไม่เผยแพร่รายละเอียดการเบิกความของพยานและไต่สวนนัดต่อไปวันที่ 15 ก.ค.68 เวลา 09.00 น.ซ่อม สส.เขต 5 ศรีสะเกษ ภท.ชน พท.วันเดียวกัน สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่เอกสารระบุว่า กกต.ประกาศกำหนดให้วันที่ 10 ส.ค. เป็นวันเลือกตั้งซ่อม สส. เขต 5 อ.ขุนหาญ และ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ แทนนายอมรเทพ สมหมาย สส.พรรคเพื่อไทยที่เสียชีวิตลง เปิดรับสมัครเลือกตั้งระหว่างวันที่ 14-18 ก.ค. ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. ห้องประชุมชั้น 2 ที่ว่าการ อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษทั้งนี้ คาดว่าจะส่ง น.ส.ภูริกา สมหมาย บุตรสาวของนายอมรเทพ ลงป้องกันแชมป์ ด้านพรรคภูมิใจไทยส่ง น.ส.จินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล บุตรสาวนายธีระ ไตรสรณกุล อดีต สส.ศรีสะเกษ ส่วนพรรคประชาชนไม่ส่งคนลง โดยนายศรายุทธิ์ ใจหลัก เลขาธิการพรรคประชาชน ให้เหตุผลว่าคาดอีกไม่นานจะมีการเลือกตั้งใหญ่สว.น้ำเงินเดือดตะเพิด “นันทนา”เมื่อเวลา 10.00 น. ที่รัฐสภามีการประชุมวุฒิสภา มีนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุมพิจารณาวาระเลือกกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานตามมาตรา 70 พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) โดย น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว.กลุ่มพันธุ์ใหม่ หารือว่ากลุ่มบุคคลที่ สว.กำลังให้ความเห็นชอบเป็นซุปเปอร์บอร์ดมีความสำคัญ สว.ภูมิใจหรือที่ทำหน้าที่เห็นชอบตำแหน่งสำคัญในขณะที่ สว.เกินครึ่งถูกแจ้งข้อหามีที่มามิชอบ หากดึงดันลงมติจะถูกมองใช้สถานะสว.เพื่อประโยชน์ตัวเอง แม้กฎหมายไม่ได้เขียนห้ามไว้ แต่สมควรทำหรือไม่ ฝ่าฝืนจริยธรรมหรือไม่ ทำให้นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สว.กลุ่มสีน้ำเงิน โต้ว่า ประเด็นนี้ สว.เคยลงมติไปแล้ว วันนั้น น.ส.นันทนาไม่ได้เข้าร่วม หากรู้สึกว่าเป็นเช่นนั้น ประตูด้านหลังสองบานว่างอยู่ แนะนำให้เดินออกไปได้เลย วันนี้ต้องลงมติ ทำให้ น.ส.นันทนาใช้สิทธิพาดพิงว่า ไม่มีสิทธิไล่ออกจากห้องประชุม ขอเรียกร้องจิตสำนึกที่สูงกว่ากฎหมายมีหรือไม่ พยายามรักษาผลประโยชน์ประชาชน หรือทำเพื่อผลประโยชน์กลุ่มตัวเองขณะที่นายมงคลที่ทำหน้าที่ประธานการประชุมวินิจฉัยว่า เรื่องนี้ที่ประชุมวุฒิสภาเคยพิจารณาญัตตินายเทวฤทธิ์ มณีฉาย สว. เรื่องการชะลอการทำหน้าที่ให้ความเห็นชอบของ สว. ได้อภิปรายกันไปแล้ว ขอให้หยุดเรื่องนี้ได้แล้ว ก่อนตัดบทเข้าสู่วาระการประชุมถัดไปอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่