ฝนหนาเม็ดรับฤดูเข้าพรรษา ห้วงปฏิทินย่างเข้าครึ่งปีหลังวันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วว่องไว ล้อไปกับจังหวะการขับเคลื่อนกระดานอำนาจการเมืองแบบไทยๆที่พลิกผัน เกมเปลี่ยนปุบปับแทบจะแบบวันต่อวันล่าสุดถึงจุดพลิกผันบนเส้นทางสองแพร่งของผู้นำรัฐบาลตามมติศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมาก 7 ต่อ 2 สั่งให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยเป็นที่สุดจุดต่อเนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญ 9 ต่อ 0 เสียง มติเป็นเอกฉันท์ รับคำร้องของประธานวุฒิสภาและ สว.ยื่นเรื่องให้วินิจฉัย พิจารณาถอดถอน น.ส.แพทองธารออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคสามจากกรณีคลิปลับ สนทนากับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชานับเวลาจากวันเกิดเหตุ “คลิปหลุด” เป็นข่าวใหญ่ ผ่านไปแค่ 2 สัปดาห์ สถานการณ์ของ “ผู้นำคนสุดท้องตระกูลชิน” ก็ไหลตกร่องวิบากกรรมตามรอยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯคนพ่อ กับ “อาปู” อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตรรู้ชะตาตามคาด แต่ก็ไม่วายใจหาย หัวหมุนโกลาหลสภาพการณ์ลักลั่นแบบที่เช้าวันจันทร์ต้นสัปดาห์ ราชกิจจานุเบกษาเพิ่งประกาศแต่งตั้งรัฐมนตรีชุดใหม่ บรรยากาศชื่นมื่นดีใจ แต่ไม่กี่อึดใจ ตอนเที่ยงก็เจอข่าวร้าย ศาลรัฐธรรมนูญสั่ง “พักงาน” นายกฯแพทองธารผลคือต้องกลับไปใช้รถส่วนตัวแทนรถประจำตำแหน่งนายกฯชั่วคราวเบื้องต้นต้อง “คืนของหลวง” ไว้ก่อน รวมถึงสิทธิ อำนาจหน้าที่บนเก้าอี้เบอร์หนึ่งทำเนียบรัฐบาลต้องหยุดชะงักไปตามกฎหมายนั่นทำให้ “เดอะซัน” นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯและ รมว.คมนาคม ต้องรับบท “ผู้นำจำเป็น” ตามสถานะรักษาราชการแทนนายกฯนำ ครม.ชุดใหม่เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณตามพิธีกรรมโดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ที่เพิ่งได้รับโปรดเกล้าฯให้ดำรงตำแหน่ง รมว.วัฒนธรรม อีกตำแหน่ง ยืนเข้าแถวเรียงลำดับรัฐมนตรี ในพิธีสำคัญ“หมากขั้นเทพ” ของโคตรเซียนรัฐธรรมนูญสูตรไม่ลับ ตำรับเดียวกับ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ ที่เคยโดนสั่งพักงาน แต่ได้สิทธิ รมว.กลาโหม เข้านั่งกำกับเกมในที่ประชุม ครม.ด้วยบริการของ “เนติบริกร” อย่างนายวิษณุ เครืองาม กุนซือพิเศษของรัฐบาลแต่นั่นก็ไม่ใช่หลักประกันว่าจะอยู่รอดปลอดภัยเหมือนผู้นำทหารเฒ่าตามเค้าลางไม่สู้ดีที่เหมือนเงาทมิฬเจ้ากรรมนายเวรตามไล่ล่า อย่างที่ นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ หัวขบวนฝ่ายต้านอำนาจตระกูลชิน วิ่งดักหน้าดักหลัง ยื่นเรื่องให้ประธานวุฒิสภา ส่งฟ้องศาลรัฐธรรมนูญจัดการ “นายกฯอิ๊งค์” ที่เบี่ยงคำสั่ง “พักงาน” ไปนั่งเก้าอี้ รมว.วัฒนธรรม ตามบล็อกตามสกัดทางหนีกันทุกประตูฉากอาถรรพณ์ “เดจาวู” ย้อนกลับมาหลอน ส่อเหมือนยุคอดีตนายกฯคนพ่อกับ “อาปู” ที่ตกอยู่ในวงล้อม “นิติสงคราม” ท่ามกลางม็อบโห่ไล่สุดท้ายก็หนีไม่รอด โดนเผด็จศึกในตอนจบแต่ก็เหมือนจะมีประสบการณ์ ทีม “นายใหญ่” ต้องเตรียมแก้ทางหนีทีไล่กันล่วงหน้า ภายหลังพิธีกรรมรัฐมนตรีใหม่ถวายสัตย์ฯ ก็เร่งคิวเรียกประชุม ครม.นัดพิเศษทันทีทันควัน วาระสำคัญคือคิวที่นายสุริยะรีบเซ็นมอบอำนาจ “รักษาราชการแทนนายกฯ” คืนให้นายภูมิธรรม ในฐานะรองนายกฯอันดับหนึ่งมอบดาบ “ยุบสภา” ให้อยู่ในมือพ่อบ้านใหญ่อาณาจักรจันทร์ส่องหล้าอาวุธสุดท้าย จับพลัดจับผลูยื้อสู้ไม่ไหว ตามฟอร์ม “นายใหญ่” ต้องสั่ง “เสี่ยอ้วน” นำทีมเพื่อไทยฝ่าวงล้อมไปตายดาบหน้า ไปว่ากันในสนามเลือกตั้งยังไงก็ไม่ยอมเดี้ยงคามุมอับ โดนปิดประตูตีแมวแต่ทั้งหมดทั้งปวง ตามแนวโน้มสถานการณ์ “ผู้นำคนสุดท้องตระกูลชิน” กำลังนับถอยหลัง จังหวะศาลรัฐธรรมนูญให้เวลา 15 วันในการส่งข้อมูลแก้ต่าง และน่าจะไม่ต้องรอนาน ตามมาตรฐานคดีก่อนหน้า ศาลจะใช้เวลาประมาณ 30–45 วัน ก็รู้คำตอบสุดท้าย รอด หรือร่วงสำรวจราคาต่อรองในวงการเซียนการเมือง อ้างอิงกูรูกฎหมาย ให้น้ำหนักตัวเลข “7 ต่อ 2” ที่ตุลาการเสียงข้างมากสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่อัตราได้เสีย แทง “ร่วง” ได้น้อยกว่าเต็ง “รอด”“นายกฯอิ๊งค์” ลุ้นจอดป้าย ในสภาพร่อแร่ไม่ต่างกันกับภาวะรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ สภาพสำลักจมครึ่งปากครึ่งจมูกในสภา ล่าสุดเจอเกมเขี้ยวของพรรคร่วมฝ่ายค้านที่เพิ่งต้อนรับน้องใหม่อย่างค่ายเซราะกราว ภูมิใจไทย เข้าแท็กทีมประลองพลังเสียงกับฝั่งรัฐบาล ลองของกันตั้งแต่ช็อตแรก เปิดเกมเสนอนับองค์ประชุมทำให้รัฐมนตรีใหม่และรัฐมนตรีเก่าที่พ่วงสถานะ สส.ยังไม่ทันหายปลาบปลื้มกับการถ่ายรูปเป็นเกียรติประวัติ แสดงความยินดีกันครึกครื้นทำเนียบรัฐบาล ต้องวิ่งหูตาตื่นเข้าสภาแต่นั่นก็ไม่ทัน เพราะนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาของพรรคเพื่อไทย ยอมโดนด่าอย่างหนาสั่งปิดประชุมสภากันแบบดื้อๆหนี “สภาล่ม”สภาพไม่ไหว บอกไหว กัปตันเดี้ยง เรือเหล็กรั่วไปทุกจุด จ่ออับปาง เกมอำนาจการเมืองไทยวนกลับมาสู่หลุมดำ ความไม่แน่นอนสื่อต่างประเทศประโคมข่าวผู้นำตระกูลชินวัตรใกล้ล่มสลายแต่มันกลับเกิดปรากฏการณ์น่าตื่นตาตื่นใจตลาดหุ้นไทยดีดขึ้นทันที 20 จุด ในวันที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ “แพทองธาร” หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี และกระดานเขียวต่อเนื่องติดต่อกันนั่นหมายถึงนักลงทุนไม่ได้ตื่นตระหนกกับสถานการณ์ “อิ๊งค์” ตกหล่มในทางกลับกันตลาดทุนไทยน่าจะตอบรับกับความชัดเจนในคดี “ผู้นำคนลูก” ที่พลาดติดเงี่ยงแหลมคมกฎหมายจากคดี “คลิปฉาว”ศาลรัฐธรรมนูญไม่ปล่อยให้อึมครึมนานตามจังหวะสถานการณ์ที่ตีคู่มาพร้อมกับความคาดหวังในการลุ้นผู้เล่นใหม่มากู้สถานการณ์วิกฤติ ตามจังหวะความเคลื่อนไหวในการเปิดแคนดิเดตนายกฯเสียบแทน “ลูกสาวเถ้าแก่ใหญ่”แม้แต่ทีมเพื่อไทยเอง สังเกตว่าตั้งใจให้สปอตไลต์ฉายไปที่นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯในบัญชีคนสุดท้าย ที่โชว์ฟอร์มฟิตออกรอบตีกอล์ฟได้ทั้งวัน สภาพฟื้นจากอาการสโตรกสุขภาพพร้อมรับไม้แบกงานหนักต่อจาก “แพทองธาร”และนั่นก็ห้ามไม่ได้เหมือนกัน ตามจังหวะ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าค่ายพลังประชารัฐ ก็ส่งเสียงพร้อมร่วมวงลุ้นชิงติ้วเก้าอี้ผู้นำฟลอร์เปิดล่วงหน้า ในห้วงเก้าอี้นายกรัฐมนตรีจ่อว่างสื่อกระแสหลักเริ่มนำแคนดิเดตนายกฯในบัญชีพรรคการเมืองที่อยู่ในโพยได้สิทธิลุ้นขึ้นชาร์จโชว์หน้าตา ไล่ตั้งแต่ซีกรัฐบาล นอกจากนายชัยเกษม ก็ยังมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ในบัญชีพรรครวมไทยสร้างชาติ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ จากบัญชีพรรคประชาธิปัตย์ส่วนปีกฝ่ายค้าน ก็มี “เสี่ยหนู” นายอนุทิน ชาญวีรกูล จากบัญชีพรรคภูมิใจไทย กับ “ลุงป้อม” ในบัญชีพรรคพลังประชารัฐวัดกันอยู่ 5–6 รายนี้ ใครจะรวมเสียงหนุนได้เกินกึ่งหนึ่งของสภาแต่ที่ฮือฮา “เซอร์ไพรส์เหนือเซอร์ไพรส์”ตามสัญญาณจากค่ายส้ม พรรคประชาชนโยนหินโครมเบ้อเริ่ม พร้อมโหวตหนุน “นายกฯชั่วคราว”แต่มีข้อแม้ต้องเป็นแค่ “ผู้นำเฉพาะกิจ” เพื่อนำธงแก้ไขรัฐธรรมนูญ รื้อค่ายกล “ซือแป๋มีชัย” แล้วยุบสภา เลือกตั้งใหม่ เป้าหมายเน้นไปที่ชื่อ “อนุทิน” อันดับแรกที่จะได้รับสิทธิ “ถูกหวยรางวัลใหญ่”ตามหลักการเหตุผลที่ “กุมารเท้ง” นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้าน หัวหน้าพรรคประชาชน แจกแจงชัดๆ เป็นกรณีที่พรรคตัดสินใจ พร้อมใช้เสียง สส.ทั้งหมดของค่ายส้มในการ “ผ่าทางตัน” ไม่ให้เกิด “เดดล็อก” ทางการเมืองตามท้องเรื่องที่ไม่ต้องอ่านเกมลึก ฟอร์มเด็กไม่มีลูกเขี้ยวซับซ้อนในเมื่อกระแสสีส้มนำห่างคู่แข่งในสนามเลือกตั้ง โพลทุกยี่ห้อพรรคประชาชนรอกวาด สส.ตั้งรัฐบาลพรรคเดียว ก็ต้องประคองเกม รักษาเส้นทางในสภาไว้ให้ตลอดรอดฝั่ง ปิดทางอำนาจพิเศษนอกระบบดักสกัดสัญญาณ “นายกฯมาตรา 5” ปิดเกมม็อบสลิ่ม.ทีมการเมืองคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม