“เจ้าอาวาสวัดม่วง” ให้สัมภาษณ์ ครั้งแรกหลังถูกยกเค้าเงินสด 10 ล้านบาท และทองคำแท่ง 250 บาท แจงยิบทั้งหมดเป็นทรัพย์สินส่วนตัวที่เก็บสะสมมาตั้งแต่บวชเรียนกว่า 40 ปี แยก จากเงินวัดชัดเจนเพราะต้องมีคณะกรรมการและไวยาวัจกรดูแลการเบิกจ่าย ส่วนเงินสดที่เบิกมาไม่ได้เอามาลงทุนซื้อทองตามที่เป็นข่าว แต่เบิกมาทำบุญวันเกิด ทั้งแจกทุนการศึกษาเด็กนักเรียน นำไปนิมนต์พระมาทำบุญ รวมถึงนำบางส่วนไปใช้ก่อสร้างเจดีย์ ด้านการสืบสวนหาตัวคนร้าย ชุดสืบสวนนครบาลเร่ง พฐ.ตรวจสอบฮาร์ดดิสก์วงจรปิดในกุฏิที่ถูกบันทึกภาพทับไปแล้ว หวังกู้ภาพคืนมาได้จะเห็นตัวคนร้ายชัดๆ ส่วนการตรวจสอบที่มาของทรัพย์สินที่ถูกขโมยมูลค่ากว่า 22 ล้านบาท เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. และ พศ.ลงเก็บข้อมูลละเอียดยิบ “รองเต่า” ลั่น อยากคุยเจ้าอาวาสวัดม่วง เคลียร์ให้ชัด ได้ทรัพย์สินมาจากไหนกรณีกลุ่มคนร้ายไม่ทราบจำนวนบุกเข้าไปลักทรัพย์ภายในกุฏิพระราชวัชรพัฒนาทร (ณรงค์ ปสนฺโน) เจ้าอาวาสวัดม่วง และเป็นเจ้าคณะเขตหนองแขม ได้เงินสด 10 ล้านบาท และทองคำแท่งหนัก 250 บาท รวมมูลค่ากว่า 22 ล้านบาท หลังทราบเรื่องตำรวจ สน.เพชรเกษม เข้าสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีได้ข้อมูลว่าเงินทั้งหมดไม่ได้เป็นเงินของวัด แต่เป็นเงินเก็บส่วนตัวที่พระราชวัชรพัฒนาทรสะสมมาหลายสิบปี บางส่วนเอาไปลงทุนซื้อทองคำมาเก็บไว้ และเพิ่งเบิกเงินสดมาเตรียมไว้ลงทุนเพิ่มอีก นอกจากตำรวจ สน.เพชรเกษม จะดำเนินการเรื่องการติดตามคนร้ายแล้ว ตำรวจ บก.ปปป.ยังเข้าตรวจสอบที่มาของเงินที่ถูกขโมยไปว่าได้มาถูกต้องตามที่กล่าวอ้างหรือไม่ความคืบหน้าจากวัดม่วง เมื่อเวลา 09.20 น.วันที่ 3 ก.ค. เจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) จำนวนหนึ่ง เดินทางมายังวัด ผู้สื่อข่าวเข้าไปสอบถามถึงสาเหตุของการมา ให้ข้อมูลสั้นๆว่า เดินทางมาตรวจสอบข้อมูลด้านการเงินของวัดม่วง หลังปรากฏข่าวถูกคนร้ายขโมยเงินสดและทองคำไปจำนวนมากต่อมาพระราชวัชรพัฒนาทร เจ้าอาวาสวัดม่วง เผยว่า เงินที่หายไปเป็นปัจจัยที่เบิกมาเพื่อเตรียมนำมาทำบุญวันเกิด จะนำเงินส่วนนี้ไปแจกเป็นทุนการศึกษาให้เด็กนักเรียน นำไปนิมนต์พระมาทำบุญ รวมถึงจะนำบางส่วนไปใช้ก่อสร้างเจดีย์ วันที่ไปเบิกเงินจากธนาคารเดินทางไปกับคนสนิท 2 คนเบิกเงินจำนวน 10 ล้านบาท หลังจากนั้นเดินทางกลับวัดนำปัจจัยใส่กระเป๋าวางไว้ใต้โต๊ะในกุฏิแล้วเอาผ้าคลุมไว้ เนื่องจากตู้เซฟใช้เก็บเงินวัดจะไม่นำไปรวมกัน โดยอาตมารู้ที่เก็บเงินเพียงคนเดียว“ยืนยันว่าแยกบัญชีส่วนตัวกับเงินวัด ส่วนของวัดมีกรรมการและไวยาวัจกรดูแล แต่เงินของอาตมาที่เก็บมากว่า 40 ปี มีประมาณ 20 ล้านบาท เปิดบัญชีส่วนตัวชื่อตัวเองแยกจากวัดชัดเจน ส่วนกรณีใช้กระดาษปิดหน้ากล้องวงจรปิด อาตมานำไปปิดจริงเพราะกังวลว่าจะมีภาพไม่เหมาะสมขณะเปลี่ยนจีวร หรือนอนหลับเผยแพร่ออกไป จะเอากระดาษออกต่อเมื่อเดินทางไปต่างประเทศ ส่วนทองคำแท่งที่ซื้อเก็บไว้ความจริงมี 300 บาท แต่ก่อนเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้ถูกลักไป 50 บาท เหลือ 250 บาท ครั้งนั้นไม่ได้แจ้งความเพราะกลัวเป็นเหมือนครั้งนี้” เจ้าอาวาสวัดม่วงกล่าวด้านนางสมบุญ ธนธนาพร อายุ 74 ปี โยมอุปัฏฐาก เผยว่า ตนรู้จักเจ้าอาวาสมาเกือบ 50 ปี เพราะเป็นแม่ครัวประจำวัดและโยมอุปัฏฐากของวัดแห่งนี้ พอทราบเรื่องจากลูกที่ดูข่าวในโซเชียลมาเล่าให้ฟัง โทร.หาเจ้าอาวาสยอมรับว่าเงินหายจริง ไม่รู้ว่าเงินหายไปได้อย่างไร ส่วนตัวเชื่อว่าเจ้าอาวาสพูดความจริง เพราะที่ผ่านมามักนำเงินส่วนตัวมาใช้จ่ายในการพัฒนาวัด ทั้งการสร้างศาลาการเปรียญ สร้างพระทองคำ รวมถึงให้ทุนการศึกษาเด็กด้วย“ส่วนตัวตั้งข้อสังเกตว่า ถ้าเงินที่หายไปเป็นการยักยอก เหตุใดเจ้าอาวาสต้องจัดฉากยักยอกเงินตัวเอง ส่วนพระลูกวัดที่เคยออกมาว่าในทางไม่ดี ส่วนตัวไม่เคยรู้จักแต่ทราบว่ามีความขัดแย้งกับเจ้าอาวาสมานานนับ 10 ปี สาเหตุจากเจ้าอาวาสจะจับสึก แต่พระรูปดังกล่าวไม่ยอม ส่วนที่เจ้าอาวาสซื้อทองมา 300 บาทแล้วหายไป 50 บาท เหลือ 250 บาท ก่อนมาถูกลักไปอีก ตนไม่ทราบ เพิ่งมาทราบเรื่องตอนที่มีเหตุเงินหายรอบล่าสุด” นางสมบุญกล่าวต่อมาผู้สื่อข่าวติดต่อ พ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผกก.สน.เพชรเกษม ทางโทรศัพท์เผยว่า เรื่องเงินและทองที่หายไปขณะนี้เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และสำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ลงมาร่วมตรวจสอบแล้วว่า ทรัพย์ที่ถูกลักไปเป็นของเจ้าอาวาสหรือเป็นของวัด ส่วนเรื่องการติดตามจับคนร้ายและตามทรัพย์สินคืน สน.เพชรเกษม ร่วมกับ กก.สส.บก.น.9 และ บก.สส.บช.น. ร่วมสืบสวนอย่างเต็มที่ วันนี้ฝ่ายสืบสวนสนธิกำลังตรวจค้นหลายจุดต้องสงสัย ที่เชื่อว่าคนร้ายเอาทรัพย์สินไปซุกซ่อนไว้ รวมทั้งส่งฝ่ายสืบสวนไปคุยกับเจ้าอาวาสเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็นทองแท่งที่หายไปก่อนหน้านี้อีก 50 บาท“จากการสอบสวนเจ้าอาวาสทราบว่า นายศักดา เลิศฤทธิ์สมบูรณ์ ไวยาวัจกรวัดม่วง เป็นคนแนะนำให้ซื้อทองคำแท่งมาเก็งกำไร ให้เงินนายศักดาไปซื้อจากร้านทองฮั่วเซ่งเฮง เยาวราช น้ำหนักรวม 300 บาท เมื่อเดือน มี.ค. พร้อมใบเสร็จมาให้เจ้าอาวาส แต่หลังจากนั้นเจ้าอาวาสตรวจสอบแล้วเหมือนทองหายไป 50 บาท สอบถามนายศักดาบอกว่ารวมอยู่ในกระเป๋าใส่ทองนั่นแหละ ไม่หายไปไหนหรอก ประกอบกับเจ้าอาวาสคิดว่าอาจหลงๆ ลืมๆนับผิด จนเวลาผ่านมาเกิดเหตุการณ์เงินและทองหายครั้งที่ 2 โดยครั้งแรกไม่ได้แจ้งความ” ผกก.สน.เพชรเกษม กล่าวมีรายงานด้วยว่า ขณะนี้ชุดสืบสวนร่วม บช.น.นำฮาร์ดดิสก์กล้องวงจรปิดในจุดเกิดเหตุ กุฏิของพระราชวัชรพัฒนาทรไปให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบภาพย้อนหลังที่ถูกบันทึกภาพซ้ำไปแล้ว เพื่อดูว่าสามารถกู้ภาพช่วงเกิดเหตุกลับมาได้หรือไม่ ถ้าสามารถจะเห็นตัวผู้ก่อเหตุขณะลงมืออย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังนำกล้องวงจรปิดจุดใกล้เคียงกุฏิเจ้าอาวาสอีกหลายตัวไปตรวจสอบด้วย เป็นพยานแวดล้อมเพื่อความมั่นใจในการระบุตัวผู้ต้องหาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เวลา 11.30 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เผยว่า ขณะนี้สำนักพุทธฯกับตำรวจ บก.ปปป.กำลังลงพื้นที่ตรวจสอบ เพราะต้องการทราบข้อเท็จจริง เป็นเรื่องที่ปล่อยผ่านไปไม่ได้ ต้องว่ากันไปตามระบบ แต่อยากพูดคุยกับเจ้าอาวาสโดยตรงเพราะต้องการข้อเท็จจริง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินสะสมที่เก็บออมมาตั้งแต่สมัยเริ่มบวช เงินไหลมาจากไหนต้องอธิบายให้ชัดเจน การเก็บเงินสดไว้ไม่เข้าธนาคารมันมีเหตุและผล ตัวเจ้าอาวาสต้องอธิบายให้กระจ่างชัด ส่วนที่ออกมาชี้แจงผ่านสื่อเป็นสิทธิ์ที่ทำได้ แต่ในส่วนของเจ้าหน้าที่ยังต้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป ยืนยันเราทำอย่างตรงไปตรงมาให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย หากตรวจสอบแล้วไม่พบความผิดปกติ ก็ไม่มีอะไร แต่หากตรวจพบข้อสงสัยต้องว่าไปตามกฎหมาย“เงินก้อนนี้ทราบข้อมูลเบื้องต้นว่าไวยาวัจกรวัดเป็นคนบอกให้เจ้าอาวาสนำไปลงทุนทองคำเก็บไว้ในธนาคารไม่เกิดประโยชน์ แต่สุดท้ายเงินหาย เรื่องนี้ไม่มีอะไรซับซ้อน ตำรวจโรงพักทำอยู่ แต่สิ่งที่เราสงสัยคือเงินก้อนนี้มีที่มาอย่างไร หากเป็นของวัดนำออกมาลงทุนยังไงก็ผิด เพราะเงินวัดถ้าเอาออกมาต้องนำไปทำประโยชน์ให้วัดหรือชาวบ้าน จะสร้างโรงเรียน บูรณะซ่อมแซมวัดก็ว่าไป แต่ต้องมีหลักฐานชี้แจง ไม่ใช่เอาเงินออกมาซื้อทองเก็งกำไร การที่เจ้าอาวาสบอกว่าเป็นเงินส่วนตัวเป็นสิทธิ์ของท่าน แต่เราต้องตรวจสอบ อาจใช้เวลาสักระยะ” รอง ผบช.ก.กล่าวพล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวด้วยว่า เรื่องที่พระมีเงินเยอะหรือน้อย เราสามารถมองภาพวัดจนและวัดรวยได้ ถ้าวัดรวยเงินจำนวนนี้ถือว่าไม่เยอะ แต่วัดม่วง ในมุมมองของตน เชื่อว่าไม่ได้มีเงินเยอะมากมายขนาดนั้น ดังนั้น สิ่งที่น่าสงสัยคือเงินก้อนนี้มาจากไหน การที่เจ้าอาวาสบอกว่าเป็นเงินส่วนตัว ถือเป็นเรื่องดีที่เราจะต้องเข้าไปตรวจสอบว่าเป็นเงินอะไรอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่