ฉากทัศน์ทางการเมืองจากนี้ไปคงต้องจับตาดูว่าใครจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่แทน “แพทองธาร ชินวัตร” เพราะ...ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 9 ต่อ 0 รับวินิจฉัยคำร้องที่วินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่งอันเนื่องมาจาก “คลิปฮุน เซน”มติ 7 ต่อ 2 ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่“สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รองนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่รักษาการแทนเนื่องจาก “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกรัฐมนตรี คนที่ 1 ที่พ้นจากตำแหน่งและยังไม่ได้เข้าเฝ้าฯเพื่อถวายสัตย์จึงยังทำหน้าที่ไม่ได้แม้ “แพทองธาร” จะยังคงยืนยันไม่ลาออกและไม่ยุบสภาแต่ขอสู้จนถึงที่สุดด้วยการชี้แจงความเป็นมาว่าไม่ได้มีเจตนาเป็นอย่างอื่นนอกจากเป็นการรักษาอธิปไตยของประเทศใน 15 วันแต่ดูจากรูปการณ์โดยเฉพาะมติของศาลนั้นไม่ว่าเหลี่ยมไหนมุมไหนคงรอดยากอีกทั้ง “เพื่อไทย” ยังมีสิทธิที่จะลุ้นจนถึงขั้นสุดท้าย เพราะมั่นใจว่าจะชี้แจงให้ศาลเข้าใจได้และยังไม่พร้อมที่จะ “ยุบสภา”ก็ต้องสู้จนหยดสุดท้าย!หาก “แพทองธาร” ต้องหลุดจากตำแหน่งก็ต้องว่ากันไปตามกระบวนการ นั่นคือการให้สภาลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่จากแคนดิเดตที่เหลืออยู่ 5 คน1.ชัยเกษม นิติสิริ จาก “เพื่อไทย”2.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา 3.พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค จาก “พรรครวมไทยสร้างชาติ”4.อนุทิน ชาญวีรกูล จาก “ภูมิใจไทย”5.จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ จาก “ประชาธิปัตย์”จำนวนแคนดิเดตที่เหลือนี้จะเสนอชื่อให้สภาพิจารณาเพื่อโหวตว่าใครจะได้มากกว่าคนนั้นก็จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นแต่ละคนก็ต้องหาเสียงสนับสนุนจากพรรคการเมืองต่างๆ ซึ่งทุกคนมีสิทธิที่จะได้เป็นทั้งนั้นแน่นอนว่า “เพื่อไทย” เบื้องต้นคงอาศัยเสียงจากพรรคร่วมรัฐบาลที่เหลืออยู่ เพียงแต่จะได้รับการสนับสนุนหรือไม่หากไม่ได้ก็ต้องหาพรรคใหญ่อย่าง “ประชาชน” ที่ต้องการให้ “ยุบสภา” เพื่อเลือกตั้งใหม่ซึ่งเป็นทางออกที่ดีที่สุดแต่ “เพื่อไทย” ไม่ยอมยุบและต้องการให้สนับสนุน “ชัยเกษม” เป็นนายกรัฐมนตรี จะเอาด้วยหรือไม่นี่เป็นแนวทางหนึ่งหรือจะไปสนับสนุน “อนุทิน” ก็เป็นอีกแนวทางหนึ่ง!ว่าไปแล้วการต่อสู้ทางการเมืองเพื่อแย่งชิงเก้าอี้ผู้นำประเทศคนต่อไปคงจะสู้กันเต็มที่และจะเป็นตัวแปรทางการเมืองต่อไป“เพื่อไทย” นั้นคงต้องหาทางเอาชนะให้ได้เพื่อต้องการรักษาอำนาจ เพราะวันนี้คะแนนตกต่ำสุดขีดเพราะถ้าเลือกตั้งอย่างนี้มีแต่แพ้กับแพ้!เว้นแต่ไม่มีทางเลือกที่ดีกว่านี้ก็คงต้อง “ยุบสภา”การเมืองไทยยังไม่อาจหลุดพ้นไปจากวงจรเก่าๆแม้เวลาผ่านพ้นมาหลายปีแล้วก็ตาม แต่ที่แน่ๆตระกูลการเมืองอย่าง “ชินวัตร” กำลังประสบชะตากรรมที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้ทั้งพ่อทั้งลูก...กำลังจะเดินไปสู่หนทางที่เรียกว่าวาระสุดท้ายก็ว่าได้!"สายล่อฟ้า"คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม