เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร สก. เขตจอมทอง เปิดเผยว่า ในการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญสมัยที่สาม (ครั้งที่ 1) ประจำปี พ.ศ.2568 ในวันที่ 2 ก.ค.นี้ ตนจะเสนอญัตติขอให้ กทม.สำรวจอาคารที่สุ่มเสี่ยงเป็นแหล่งก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ทั้งนี้ เนื่องจากในปัจจุบันปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศหรือปัญหา “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” เป็นปัญหาใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน มีประชาชนจำนวนมากตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ ถูกหลอกหลวงให้สูญเสียทรัพย์สิน ถูกหลอกลวงให้ก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยีหลากหลายรูปแบบ จากสถิติของศูนย์รับแจ้งความออนไลน์พบว่าตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.65-30 พ.ย.67 มีการแจ้งความเกี่ยวกับคดีออนไลน์มากกว่า 739,000 เรื่อง มูลค่าความเสียหายรวมมากกว่า 77,000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยวันละ 77 ล้านบาทสก.เขตจอมทองกล่าวต่อว่า ตนอยากให้สภา กทม.มีบทบาทในการช่วยเหลือประชาชน ป้องกันไม่ให้กรุงเทพฯเป็นแหล่งก่ออาชญากรรมและนำไปสู่การแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ จึงขอให้ กทม.เร่งตื่นตัว เข้ามาช่วยแก้ปัญหาในเรื่องดังกล่าวไม่ใช่แค่รอเฉพาะรัฐบาล เพราะผู้เสียหายอยู่ในพื้นที่ กทม.เป็นจำนวนมาก โดย กทม.จะต้องมีนโยบายให้ สำนักงานเขตทุกพื้นที่สอดส่องสำรวจอาคารที่สุ่มเสี่ยงเป็นแหล่งก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอยากให้เน้นการตรวจตราอาคารที่มีความผิดปกติมีการต่อเติมอาคารเพื่อเอื้อต่อการจัดตั้งการทำงานของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มีการติดตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์จำนวนมาก และมีชาวต่างชาติจับกลุ่มอยู่จำนวนมาก นอกจากนี้ยังต้องสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนหรือเจ้าของอาคารแจ้งเหตุความผิดปกติเพื่อสามารถเข้าไปตรวจสอบและทลายขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ในที่สุด.อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” เพิ่มเติม