ชุดสืบสวน กก.5 บก.ป.บุกทลาย แก๊งคอลเซ็นเตอร์ไทยแท้ 3 คน อาละวาดลวงเหยื่อทางออนไลน์ว่าเป็นพนักงานแบงก์กรุงไทย รับสมัครเปิดบัตรเครดิตและบัตรเดบิตทางออนไลน์ เหยื่อหลงเชื่อให้ข้อมูลไปเปิดบัตร เชิดไปใช้กินเที่ยว ซื้อทองคำจนเกือบเต็มวงเงิน แล้วค่อยส่งบัตรให้เจ้าของตัวจริงไปผ่อนใช้หนี้ที่ตัวเองไม่ได้ก่อ เบื้องต้นพบผู้เสียหายทั่วประเทศเกือบ 400 คน ความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท หัวหน้าแก๊งอ้างเคยถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลักษณะเดียวกันมาก่อน เลยเอามาหลอกคนอื่นบ้างกองปราบฯบุกรวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์คนไทย เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 27 มิ.ย. พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป. พ.ต.อ.ภัทราวุธ อ่อนช่วย ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ท.สิทธิเกียรติ ศรีจันทร์ รอง ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ท.ศรัณย์ ศรีพักตร์ รอง ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ต.ปิยะวัตร ปราบเสร็จ สว.กก.5 บก.ป. และ ร.ต.อ.ชนกันต์ บุรผากา รอง สว.กก.5 บก.ป. แถลงผลการจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ “ลวงเปิดบัตร หลอกเอารหัส OTP ซื้อทอง” จับกุมนายกรกรต แซ่เขียว อายุ 29 ปี และนายกฤตนัย มณีเลิศ อายุ 28 ปี ที่ห้องในคอนโดมิเนียมซอยสุขุมวิท 24 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย ส่วนนายปพนธีร์ ลักษณะเขตต์ อายุ 30 ปี จับกุมที่บ้านในพื้นที่หมู่ 7 ต.ทะเลชุบศร อ.เมืองลพบุรีตามหมายจับศาลจังหวัดสงขลาที่ จ.364-366/2568 ลงวันที่ 11 มิ.ย.68 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนอันมิใช่ความผิดฐานหมิ่นประมาท และร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ พร้อมของกลาง 53 รายการ อาทิ รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ C200 คูเป้ สีแดง ทะเบียน ฐ 9936 กรุงเทพมหานคร โทรศัพท์มือถือ 23 เครื่อง คอมพิวเตอร์ 6 เครื่อง เครื่องนับธนบัตร ทองคำแท่ง 2 แผ่น ซิมการ์ด สมุดบัญชี และอุปกรณ์อื่นอีก 20 รายการการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเดือน ก.พ. ตำรวจ กก.5 บก.ป.ได้รับการประสานจากฝ่ายตรวจสอบธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) แจ้งว่า ลูกค้าของธนาคารฯหลายรายที่สนใจสมัครบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต ถูกคนร้ายแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารหลอกลวงให้สมัครผ่านช่องทางออนไลน์ อ้างว่าสามารถช่วยให้อนุมัติบัตรได้ถึงแม้รายได้ไม่ถึงตามเกณฑ์ แต่ต้องทำประเมินตามทางออนไลน์เป็นการตอบแทน หลังจากลูกค้าหลงเชื่อสมัครทำบัตรและทำประเมินตามขั้นตอนแล้ว แก๊งคอลเซ็นเตอร์ดังกล่าวกลับนำบัตรไปรูดซื้อสินค้าจนเกือบเต็มวงเงิน ก่อนส่งบัตรตัวจริงคืนไปให้เหยื่อหลังรับข้อมูลชุดสืบสวน กก.5 บก.ป.ตรวจสอบพบว่า กลุ่มคนร้ายทำงานลักษณะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกลวงประชาชนจำนวนมากไปทั่วประเทศ ออกหมายจับผู้ต้องหา 3 คน ก่อนเปิดปฏิบัติการตรวจค้น 4 จุดใน 3 จังหวัด คือ กรุงเทพมหานคร จ.ลพบุรี และ จ.ปทุมธานี สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ เริ่มต้นจากผู้ต้องหาติดต่อหาซื้อเพจเฟซบุ๊กที่ยอดผู้ติดตามสูง นำเพจมาปรับแต่งลงรูปธนาคาร ใบโฆษณา และข้อความประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการสมัครบัตรเครดิตหรือเดบิต หลังมีเหยื่อติดต่อมาอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร ส่งนามบัตรให้ดูทางออนไลน์แล้วหลอกเอาข้อมูลเหยื่อไปเปิดบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต หลังจากธนาคารอนุมัติส่งบัตรมาให้ นำบัตรไปรูดใช้จ่ายฟุ่มเฟือย รวมทั้งเอาไปรูดซื้อทองคำจนเกือบเต็มวงเงิน แล้วถึงส่งบัตรกลับไปให้เจ้าของตัวจริงมีรายงานด้วยว่า จากการสืบสวนรวบรวมหลักฐานพบว่า นายกรกรต เป็นหัวหน้าแก๊ง ยังเรียนสาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ปี 4 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ถึงแม้ว่าอายุ 29 ปีแล้ว ที่คิดการหลอกลวงลักษณะนี้ขึ้นมาเพราะเคยถูกแก๊งคอล เซ็นเตอร์หลอกลักษณะเดียวกันจนสูญเงินไปหมดบัญชี 3 หมื่นบาท จึงนำวิธีการเดียวกันมาหลอกเหยื่อ ขณะนี้มีผู้เสียหายเกือบ 400 คน ความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท คุมตัวทั้ง 3 คนพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ป.ดำเนินคดีอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่