3 เหล่าทัพไทยผนึกกำลังพร้อมเผชิญศึกชายแดน ไทย-กัมพูชา ผบ.ทอ.ยันพร้อมบินเผชิญศึกภายใน 5 นาที แม้พร้อมรบแต่ไม่รุกรานใคร ส่วน ผบ.ทร.แจงแผนเผชิญเหตุรับมือชายแดน ขณะที่ ผบ.ทหารสูงสุด ระบุ ผบ.เหล่าทัพคิดรอบคอบปกป้องอธิปไตย แม่ทัพภาคที่ 2 รับเหรียญพระบรมรูปในหลวง นำมอบเป็นขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่ชายแดน ชี้การแก้ปัญหาชายแดนอยู่ที่ 2 ผู้นำประเทศ ไม่สนฮุน เซน ปั่นเรื่องนายกฯ พูดพาดพิง เชื่อสถานการณ์ไทย-กัมพูชา จบก่อนเกษียณ หน่วยงานความมั่นคงเผย กัมพูชาไร้ขีดความสามารถเรื่อง อาวุธหนักสู้รบตามที่คุยเขื่อง ศบ.ทก.ย้ำสถานการณ์ความมั่นคงไม่เปลี่ยนแปลง ยันไทยยังมีเอกภาพ จ่อผ่อนปรน-ขนส่งข้ามแดน สมช.ยังคุมเข้มมาตรการชายแดนกับกัมพูชา ไม่เพิ่มมาตรการ เชื่อสถานการณ์ดีขึ้น ระบุยังไม่คุยกิจกรรมครบรอบ 75 ปี3 เหล่าทัพไทยประกาศพร้อมเผชิญเหตุการณ์ ในสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่อีกฝ่ายยังไม่ยอมถอนกำลังออกจากพื้นที่ ขณะที่ไทยยังตรึงกำลังเฝ้าดู ส่วนม็อบ “ไล่นายกฯ” ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ที่มีขึ้นวันที่ 28 มิ.ย. ตำรวจจัดกำลังเต็มที่รับมือการชุมนุมแสดงพลังทอ.พร้อมบินเผชิญศึกใน 5 นาทีที่รัฐสภา เมื่อเช้าวันที่ 27 มิ.ย. พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผบ.ทอ. กล่าวถึงกรณีที่ประชุมสภากลาโหม อนุมัติให้เตรียมแผนเผชิญเหตุในสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทอ.เตรียมความพร้อมปกติ หากเกิดสถานการณ์สู้รบ สามารถนำเครื่องบินขึ้นปฏิบัติการได้ภายใน 5 นาที เมื่อถามถึงกรณี พล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประกาศจะให้โบนัสทหารกัมพูชาที่ยิงเครื่องบินรบของไทยตก ผบ.ทอ.กล่าวว่า การปฏิบัติการของเราคงไม่ถึงขนาดนั้น หน้าที่ของเราเพื่อปกป้องอธิปไตย ไม่มีอะไรต้องไปกังวล เพราะเราไม่ได้รุกรานใคร เพียงแต่เราต้องเตรียมความพร้อม ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการปกป้องอธิปไตยชาติ ขอให้มั่นใจประสิทธิภาพกองทัพ กองทัพอากาศ รวมถึงเหล่าทัพอื่นๆ มีความพร้อมสูงสุดในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ เรามีความมั่นใจและยึดมั่นว่าจะไม่รุกรานใคร นอกจากนี้นายภูมิธรรม เวชยชัย รมว.กลาโหม ท่านระบุว่า เชื่อมั่นในกองทัพในการร่วมมือกันดูแลประเทศด้วยมทภ.2 รับเหรียญพระบรมรูป ร.10ที่ห้อง 109 สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล เวลา 11.00 น. พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เข้าร่วมพิธีรับเหรียญพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เพื่อนำไปมอบให้แก่กำลังพลในสังกัดเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ มีนางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดสำนักนายก รัฐมนตรี เป็นประธานพิธี สำหรับเหรียญพระบรมรูป สร้างขึ้นตามพระดำริสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ที่ทรงพระดำริพร้อมด้วยคณะสงฆ์ จัดสร้างถวายเป็นที่ระลึกแห่งมงคลสมัยและเพื่อเป็นเครื่องเฉลิมพระธรรมบารมี ครั้นถึงมหามงคลสมัยที่พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ โดยได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตจัดสร้าง พร้อมทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตมอบเหรียญพระบรมรูป 500,000 เหรียญ ให้ สปน.ดำเนินการเชิญไปมอบแก่ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ประชาชนที่สมควรได้รับพระราชทานรอความชัดเจนผู้นำ 2 ประเทศต่อมา พล.ท.บุญสินให้สัมภาษณ์กรณีสมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ไลฟ์เรื่องประเทศไทยว่า ก็ติดตามอยู่ขอให้เป็นเรื่องของรัฐบาลและนายกฯที่จะแก้ไข ส่วนกองทัพดูแลความมั่นคงในพื้นที่ตามแนวชายแดนเป็นหลัก ปัญหาแนวชายแดนยังไม่มีอะไรน่าห่วง กองทัพของ 2 ประเทศ พยายามพูดคุยกันในระดับผู้ปฏิบัติ ให้หลีกเลี่ยงการใช้อาวุธ ขอให้ประชาชนทั้ง 2 ประเทศ โดยเฉพาะไทยให้ความมั่นใจว่า ช่วงนี้ยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง สถานการณ์ตามแนวชายแดนยังปกติและควบคุมได้ เรายังตรึงกำลังควบคุมกำกับดูแลแนวชายแดนให้ปกติที่สุดอยู่เพราะเขายังไม่ถอนกำลัง ขณะนี้รอความชัดเจนและนโยบายของผู้นำทั้ง 2 ประเทศว่าจะคุยอย่างไรต่อเชื่อศึกชายแดนจบก่อนเกษียณผู้สื่อข่าวถามว่า สมเด็จฮุน เซน ระบุว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ พูดพาดพิงถึงแม่ทัพภาคที่ 2 เหมือนเป็นการดูหมิ่นและทำให้ประเทศเสียหาย คิดว่ามีวัตถุประสงค์อะไร พล.ท.บุญสินตอบว่า เป็นเรื่องของสมเด็จฮุน เซน เขาพูดอะไรก็เป็นเรื่องของเขา ไม่เกี่ยวกับตน ไม่เคยหวั่นไหว แต่ถ้ามาเกี่ยวข้องกับชายแดนตนก็ทำหน้าที่พร้อมอยู่แล้ว เพราะเขาพูดประจำ เมื่อถามว่า ในทางทหารมีสัญญาณ บวกจากกัมพูชาหรือไม่ พล.ท.บุญสินตอบว่า สัญญาณบวกมีมาตั้งแต่การปรับกำลังบริเวณช่องบกแล้ว ส่วนเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. สมเด็จฮุน เซน ลงพื้นที่ชายแดนกัมพูชาและมีการปรับตำแหน่งเป็นเสนาธิการทหารสูงสุด มีนัยทางการทหารอะไรบ้าง คงเป็นการแสดงออกถึงความเป็นผู้นำ เมื่อถามว่า แนวโน้มสถานการณ์น่าจบก่อนท่านจะเกษียณอายุราชการหรือไม่ พล.ท.บุญสินตอบว่า น่าจะจบก่อน“ทรงวิทย์” ยัน ผบ.เหล่าทัพคิดรอบคอบด้าน พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวถึงกรณีสมเด็จฮุน เซน ที่กล่าวถึงศักยภาพกองทัพของกัมพูชาว่ามีอาวุธยิงวิสัยไกลถึง กทม.แต่ไม่ทำ กองทัพจะสกัดกั้นและให้ความมั่นใจประชาชนอย่างไร ว่า ทุกเหล่าทัพต้องทำหน้าที่ปกป้องประชาชนในพื้นที่ เมื่อถามว่าตอนนี้ดูเหมือนสงครามจิตวิทยาข้ามประเทศ มีการออกมาให้ข้อมูลรายวัน ปั่นกระแสต่างๆ ผบ.ทหารสูงสุดกล่าวว่า เราต้องตั้งสติ ตั้งมั่นในกฎระเบียบที่เรามีอยู่ เป็นกำลังใจให้คนที่อยู่หน้าแนวทั้งประชาชนและทหาร เราไม่สามารถปฏิบัติทางทหารที่ฉุกละหุกโดยไม่คิดรอบด้าน ผบ.เหล่าทัพเห็นร่วมกันว่าเราต้องคิดอย่างรอบคอบในทุกมิติในการปกป้องอธิปไตย ส่วนที่สภากลาโหมมีการเตรียมแผนเผชิญเหตุฉุกเฉิน หากพื้นที่ชายแดนมีการใช้กำลังทางทหาร พล.อ.ทรงวิทย์ กล่าวว่า ต้องถามแม่ทัพภาค 2 น่าจะอัปเดตมากกว่าทร.มีแผนเผชิญเหตุพร้อมอยู่แล้วขณะที่ พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผบ.ทร. ให้สัมภาษณ์ กรณีการดูแลสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ในส่วนความรับผิดชอบของกองทัพเรือ กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) ว่า ได้สั่งการไปแล้วและให้นำคำสั่งการไปสู่ผู้ปฏิบัติ เราต้องมั่นใจเตรียมความพร้อมทุกอย่าง เรื่องที่ประชุมสภากลาโหมได้ย้ำให้เตรียมแผนเผชิญเหตุ เรามีแผนอยู่แล้วก็ปฏิบัติตามแผน ให้แต่ละหน่วยสำรวจว่าอะไรขาด ให้ทำเรื่องขอการสนับสนุน อย่ากังวลหยันขีปนาวุธเขมรวิสัยยิงไม่ถึง กทม.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แหล่งข่าวจากหน่วยความมั่นคงของกองทัพได้เปิดเผยเกี่ยวกับกรณีจากการวิเคราะห์ยุทธศาสตร์และเทคนิค ประเด็นอาวุธกัมพูชายิงถึงกรุงเทพฯ ตามที่สมเด็จฮุน เซน กล่าวจริงหรือไม่ ว่า ชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณสุรินทร์ สระแก้ว ถึง กทม. ราวๆ 250-300 กิโลเมตร โดยเฉลี่ย ดังนั้น อาวุธใดที่จะยิงถึง กทม.ได้ ต้องมีพิสัยยิงอย่างน้อย 200-300 กิโลเมตรขึ้นไป โดยอาวุธปล่อยทางบกของกัมพูชาที่เป็นที่รู้จักและเปิดเผยต่อสาธารณะ มีดังนี้ 1.PHL-03 MRL:ระบบจรวดหลายลำกล้องของจีน คล้าย BM-30 Smerch 2.พิสัยยิงมาตรฐาน 70-130 กม. ขึ้นอยู่กับกระสุน 3.แม้แต่รุ่นปรับปรุง AR-2 ก็มีพิสัยราว 150 กม. เท่านั้น 4.Type-81/AS-1/WS-1B (บางรุ่น) จรวดหลายลำกล้องขนาดเล็ก-กลาง และ 5.พิสัยต่ำกว่า 100 กม.เผยกัมพูชาไม่มีอาวุธพร้อมรบนอกจากนี้ ในส่วนที่กัมพูชาไม่มี ตามฐานข้อมูลในเรื่องของ 1.ไม่มีหลักฐานว่ากัมพูชามีขีปนาวุธพิสัยไกลกว่า 200 กม. 2.ไม่มีขีดความสามารถด้าน ขีปนาวุธนำวิถีพื้นสู่พื้น (SRBM, MRBM) 3.ไม่มีอากาศยานขับไล่ติดอาวุธปล่อยระยะไกล (เพราะไม่มีฝูงบินขับไล่เลย) และตามข้อเท็จจริงคือกัมพูชาไม่มีเครื่องบินขับไล่ ไม่มีอากาศยานรบ/โจมตี (Fighter Aircraft) ในกองทัพอากาศไม่มีเรดาร์ควบคุมการบิน/ระบบสั่งการอากาศสมัยใหม่ ไม่มียุทโธปกรณ์ที่ต้องอาศัยการฝึกนักบินระดับสูง แม้แต่ประเทศเล็กกว่าอย่างลาวยังมี Yak-130 (เครื่องบินฝึกโจมตี) แต่กัมพูชายังไม่มีแม้แต่ UAV รบที่มีอาวุธบลัฟกลับอาวุธไทยยิงถึงพนมเปญแหล่งข่าวจากหน่วยความมั่นคงของกองทัพ ยังมองด้วยว่า สำหรับงบถือเป็นข้อจำกัดใหญ่ที่สุดของกัมพูชา งบกลาโหมกัมพูชาปี 2567 มีประมาณ 550 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯหรือ 20,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงบกลาโหมของไทย ซื้อ Gripen E/F เพียง 4 ลำ ใช้งบประมาณราว 19,000 ล้านบาท เท่ากับงบทั้งกระทรวงกลาโหมกัมพูชาทั้งปี ส่วนขีดความสามารถของฝ่ายไทยมีเครื่องบินรบ Gripen C/D, F-16 A/B eMLU F-5TH T-50TH เครื่องบินเหล่านี้มีพิสัยโจมตีถึงพนมเปญได้สบายและยังสามารถกลับฐานได้ มีอาวุธนำวิถีแม่นยำ เช่น GBU-49 (GPS/Laser Guided Bomb) AIM-120 AMRAAM และ AGM-65 Maverick แหล่งข่าวความมั่นคงจึงมองว่า คำกล่าวอ้างของสมเด็จฮุน เซน ว่า มีอาวุธที่สามารถโจมตีถึงกรุงเทพฯ แต่ไม่มีความประสงค์จะใช้ เป็นคำพูดไร้น้ำหนักในเชิงยุทธศาสตร์ กัมพูชาไม่มีระบบอาวุธพิสัยไกลและระบบควบคุมการยิงที่รองรับ ที่สำคัญไม่มีงบและโครงสร้างพื้นฐานในการพัฒนา สันนิษฐานได้ว่าเป็นการกล่าวเพื่อสร้างแรงกดดันทางการเมืองภายใน เสริมภาพลักษณ์ผู้นำ ไม่ใช่ข้อเท็จจริงเชิงยุทธศาสตร์ศบ.ทก. ชี้ไทยยังมีเอกภาพช่วงเที่ยง พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย โฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ด้านความมั่นคง นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศและรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการประชุม ศบ.ทก.ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ร.ต.สุรสันต์กล่าวว่า สถานการณ์ความมั่นคงยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง ในส่วนการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ยังคงดำเนินการตามปกติ พร้อมกับเน้นย้ำกลไกลการทำงานของไทย ว่าเป็นการดำเนินการอย่างเป็นเอกภาพ มี ศบ.ทก. รับผิดชอบในการขับเคลื่อนมาตรการในการควบคุมจุดผ่านแดนต่างๆ และติดตามประเมินผลการปฏิบัติอย่างต่อเนื่องยังเข้มงวดควบคุมการผ่านแดนด้านนางมาระตีกล่าวว่า ที่ประชุมได้รับรายงานจากฝ่ายความมั่นคงและหน่วยงานในพื้นที่ ที่รับผิดชอบด่าน จุดผ่านแดนต่างๆ ว่าส่วนใหญ่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย การดำเนินการตามมาตรการควบคุมการผ่านแดนยังคงมีความเข้มงวด ยืนยันไทยอนุโลมสำหรับการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ช่วง 10 วันที่ผ่านมา ด่าน จ.สระแก้ว มีนักเรียน นักศึกษา 6,500 คน ได้รับการอนุโลมผ่านแดน 500-700 คนต่อวัน ผู้ป่วยทั้งหมด 30 ราย นอกจากนี้ยังอนุโลมให้ประชาชนทั่วไปเดินทางกลับภูมิลำเนาได้ ขอให้เชื่อมั่นว่ารัฐบาลไทยยึดหลักสิทธิมนุษยชนและมนุษยธรรมตามที่ได้ปฏิบัติมาโดยตลอด ยังคงหารือ และประสานงานกับฝ่ายกัมพูชาอย่างต่อเนื่องUN ระบุกัมพูชาที่ตั้งสำคัญแก๊งคอลนางมาระตีกล่าวว่า ที่ประชุมยังหารือถึงภารกิจของ ศบ.ทก. เรื่องปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ มีรายงาน 2 ฉบับสำคัญ เมื่อวันที่ 25 เม.ย. จากสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ ที่รายงานเกี่ยวกับการหลอกลวงทางออนไลน์ ทางภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ระบุว่ากัมพูชาเป็นหนึ่งในที่ตั้งสำคัญของขบวนการหลอกลวงทางออนไลน์ ล่าสุดองค์กรนิรโทษกรรมสากลได้เผยแพร่รายงานอีกฉบับ เกี่ยวกับปัญหาการค้ามนุษย์และการหลอกลวงออนไลน์ในกัมพูชา รายงานทั้ง 2 ฉบับตอกย้ำความสำคัญและเหตุผลความจำเป็นที่รัฐบาลไทยต้องยกระดับมาตรฐานการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ กับประการหนึ่งคือเพิ่มความเข้มข้นของการควบคุมจุดผ่านแดนในแนวชายแดนไทย-กัมพูชา หวังเป็นอย่างยิ่งว่าฝ่ายกัมพูชาจะร่วมมือกับฝ่ายไทยอย่างจริงจังจริงใจ เพื่อลดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สิน เสริมสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนทั้งสองฝ่ายใช้ช่องทางทางการสื่อสารเท่านั้นนางมาระตีกล่าวด้วยว่า ล่าสุดกระทรวงการต่างประเทศออกแถลงการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ เพื่อเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศร่วมมือกับไทยที่จะแสดงบทบาทดังกล่าวในเรื่องนี้ต่อไป และกระทรวงการต่างประเทศได้ออกแถลงการณ์ เพื่อความเข้าใจจากการพยายามปั่นกระแสในสังคมออนไลน์ของฝ่ายกัมพูชา รัฐบาลไทยขอยืนยันและทำความเข้าใจกับฝ่ายกัมพูชาว่า รัฐบาลไทยจะใช้ช่องทางที่เป็นช่องทางทางการเท่านั้น ในการสื่อสารกับรัฐบาลฝ่ายกัมพูชา อยากให้ประชาชนติดตามข้อมูลจากส่วนราชการบช.น.ดูแลม็อบอนุสาวรีย์ชัยฯผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการชุมนุมใหญ่ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิจะเริ่มขึ้นนั้น เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษก ตร. เผยว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.ได้เรียกประชุม ศปก.ตร. รับฟังรายงานข่าวสารทั้งจากตำรวจนครบาล ตำรวจสันติบาล ตำรวจภูธรในพื้นที่ต่างๆ และมอบหมายให้ บช.น.เป็นหน่วยหลักในการดูแลความสงบเรียบร้อยจัดกำลังตำรวจ อคฝ. ดูแลความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย ใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 13 กองร้อย เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน บก.สส.บช.น. กก.สส.บก.1-9 ลงพื้นที่และจุดสูงข่ม ป้องกันมือที่ 3 มาก่อเหตุ สังเกตจับตาบุคคลต้องสงสัย การลักลอบนำอาวุธเข้ามาในพื้นที่ จัดชุดเคลื่อนที่เร็วและชุดจู่โจมไว้ระงับเหตุเร่งด่วน ได้พูดคุยทำความเข้าใจกับกลุ่มผู้ชุมนุมเกี่ยวกับการใช้สิทธิเสรีภาพภายใต้กรอบของกฎหมาย พร้อมขอความร่วมมือผู้เข้าร่วมชุมนุมงดนำสิ่งของผิดกฎหมาย วัตถุต้องห้าม หรือของมึนเมาเข้าพื้นที่การชุมนุม นอกจากนี้ยังมีการแจ้งการชุมนุมคู่ขนานในต่างจังหวัดประมาณ 10 แห่ง ได้หารือร่วมกับ กลุ่มผู้จัดการชุมนุมและหารือกับสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยรวมทั้งสื่อมวลชนกำหนดแนวปฏิบัติในการทำข่าว รวบรวมข้อมูลอย่างเหมาะสม ลดความเสี่ยงจากความเข้าใจผิด หรือความวุ่นวายที่อาจเกิดขึ้น ผู้จัดการชุมนุมแจ้งขอใช้เวลาทำกิจกรรมเพียง 1 วัน ไม่มีการพักค้างคืนในพื้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิยังคุมเข้ม–ไม่เพิ่มมาตรการชายแดนที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ทำเนียบรัฐบาล วันเดียวกัน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.กลาโหม เป็นประธานประชุม สมช. มีรัฐมนตรีและหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม จากนั้นให้สัมภาษณ์ว่า ที่ประชุมพิจารณาทบทวนมาตรการต่างๆ ในการดูแลพื้นที่ชายแดนทั้งหมด โดยเฉพาะชายแดนไทย-กัมพูชา ยังยืนยันมาตรการที่ใช้ในปัจจุบันหลักๆคือแก้ปัญหาด้วยสันติวิธี พยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้ประชาชนสองฝ่ายได้รับผลกระทบ และความเดือดร้อนต่างๆ ดำเนินมาตรการสนับสนุนให้มีการเจรจาทั้งสองฝ่าย ส่วนเรื่องเปิด-ปิดด่าน ยืนยันมาตรการว่าอยู่ขั้นที่ 1-2 คือ กำหนดเวลาเข้า-ออกและกำหนดปริมาณคนไม่ได้คุยถึงกิจกรรมครบรอบ 75 ปีเมื่อถามว่า ส่วนที่ ผวจ.สระแก้วเสนอให้ยกเลิกกิจกรรมส่งเสริมความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาครบรอบ 75 ปี ยังไม่ได้ถูกนำเข้าในที่ประชุม แต่มาตรการที่ดำเนินการขณะนี้ เราแสดงความจริงใจและมีความชัดเจนว่ารักษาจุดยืน พยายามแสวงหาความร่วมมือ แต่หากมีการเปลี่ยนแปลงมาตรการใดๆ มีผลกระทบอะไร ทำไปตามสถานการณ์ อยากให้ความรุนแรงเป็นมาตรการสุดท้ายที่จะแก้ปัญหา ถามว่าพร้อมไหมก็พร้อม แต่ไม่อยากให้เกิดความสูญเสียกับประชาชนทั้งสองฝ่าย ระมัดระวังการใช้มาตรการต่างๆ ยืนยันว่าเรารักษาเอกราชอธิปไตยของประเทศและผลประโยชน์ของประเทศ ขณะนี้ทุกอย่างดำเนินการตามหลักสากล ได้ชี้แจงยืนยันทุกอย่างให้ประเทศต่างๆ ได้รับทราบ สิ่งสำคัญขณะนี้ คือการแก้ไขปัญหาสแกมเมอร์ มอบหมายให้ส่วนที่เกี่ยวข้องดำเนินการตั้งฮับดูแลป้องกันสแกมเมอร์ในประเทศไทย ไทยเป็นเจ้าภาพในการประสานงาน“วิโรจน์” เตือนอย่าเต้นตาม “ฮุน เซน”อีกด้านที่รัฐสภา ตอนสายวันเดียวกัน นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร รองหัวหน้าพรรค ปชน.ในฐานะประธาน กมธ. การทหาร สภาฯ ให้สัมภาษณ์ถึงการเคลื่อนไหวของสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ว่า ทุกอย่างที่เขาทำเป็นกระบวนการ ล่าสุดบอกจะแฉนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เป็นการปลุกปั่น สมเด็จฮุน เซน คือบิดาของสแกมเมอร์แห่งภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่าหลงเป็นเหยื่อ แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่ใส่ใจ แต่ไม่ใช่อยู่ดีๆสมเด็จฮุน เซน ไม่มีหลักฐานอะไร แล้วเอาคำสัมภาษณ์สมเด็จฮุน เซน ไปแจ้ง ม.112 ต่อนายทักษิณ อันนี้ไม่ได้ ต่อให้มีคลิปเสียงก็ต้องพิสูจน์ก่อน ยุคนี้ AI ทำได้ ตอนนี้เรารู้แต่ว่าคนใกล้ตัวที่ทำให้นายกฯมีปัญหา ชื่อเล่นอ.อ่าง นายกฯต้องแต่งตั้งโฆษก มอบหมายเป็นการเฉพาะ โฆษกรัฐบาลอย่างเดียวคงไม่พอ บทบาทนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ อาจเงียบเกินไปควรมี รมว.ต่างประเทศที่เก่งกว่านี้ ต้องหาคนที่ไว กล้าตัดสินใจมากกว่านี้บี้นายกฯร่วมมือต่างชาติขึ้นบัญชีดำเมื่อถามว่า 2 พ่อลูกตระกูลฮุน ต้องการให้ไทยทำรัฐประหารใช่หรือไม่ นายวิโรจน์กล่าวว่า พยายามอ่านเกมแล้ว มี 4-5 เรื่อง อย่างเขากังวลเรื่องปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ที่ฐานใหญ่สุดอยู่ที่กัมพูชา ถ้าตามข่าวทั้งบริษัท ฮุยวัน รวมถึงออกญาลียงพัด เกี่ยวข้องกับ LYP กรุ๊ป ถูกคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ แม้แต่ออกญามงฤทธี มือไม้สมเด็จฮุน เซน ดังนั้น ถ้าเราดูเส้นทางทางการเงินเหล่านี้ หลายกรณีพัวพันกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยเฉพาะบริษัทฮุยวัน ที่คณะทำงานปฏิบัติการทางการเงิน (FATF) ของสหรัฐฯ ติดตามเรื่องการฟอกเงินอยู่ เพราะพบเบาะแสว่า มีความเชื่อมโยงกับแฮกเกอร์ในกลุ่มประเทศเกาหลีเหนือ ที่ถูกขึ้นบัญชีดำจาก FATS เป็นคณะทำงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน รวมถึงใช้เงินในการก่อการร้าย เป็นการรวมกันของหลายประเทศ นายกฯ ควรจะสั่งการคณะกรรมการ ปปง. และกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) ให้รวบรวมข้อมูล ร่วมกับ ปปง.ต่างประเทศ เพราะเส้นทางทางการเงิน ปปง.มีอยู่แล้ว เมื่อข้อมูลตกผลึก สามารถให้ FATF ขึ้นบัญชีดำกัมพูชาเลย หรือไม่กล้าเพราะ ปม 7 นักการเมืองฟอกเงินค้ำคอเรียกร้องนายกฯลงนามสัตยาบัน UNCCนายวิโรจน์กล่าวอีกว่า ขอเรียกร้องให้ นายกฯลงนามในสัตยาบัน UNCC ของอนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยอาชญากรรมทางไซเบอร์ เราจะสามารถขอให้ส่งผู้ร้ายที่ก่อเหตุอาชญากรรมทางไซเบอร์ข้ามแดนได้ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่สมเด็จฮุน เซน กลัวที่สุด แต่ตนต้องตั้งคำถามไปที่นายกฯ ว่า ทำไมไม่ทำหรือเป็นเพราะสมเด็จฮุน เซน เปิดเผยว่า มีนักการเมือง 7 คนไปฟอกเงินที่กัมพูชาเมื่อถามว่าใน กมธ.การทหาร ได้เปิดเผยรายชื่อนักการเมืองไทย 7 คน หรือไม่ นายวิโรจน์กล่าวว่า ปปง.รู้ เพราะทุกธุรกรรมตั้งแต่ 700,000 บาทขึ้นไป ไม่ว่าจะออกหรือเข้า ปปง.ต้องทราบ พอที่จะคาดการณ์ได้ว่าเป็นใคร แต่มีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นบุคคลใกล้ชิดนายกฯ หรือไม่ นายกฯรู้จักหรือไม่ ถ้าหนักกว่านั้น อาจจะเป็นอดีตรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีหรือไม่ หากใช่ ก็จะโดนข้อหาแจ้งบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จปปง.มีข้อมูลทุนไทยไปฟอกเงินกัมพูชานายวิโรจน์กล่าวต่อว่า นายกฯก็ไปแต่งตั้งคนที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมข้ามชาติ การฟอกเงินมาเป็นรัฐมนตรี ก็จะผิดจริยธรรม แล้วมีจุดจบเหมือนนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ จึงมีการตั้งข้อสังเกตว่า เป็นเพราะประเด็นเหล่านี้หรือไม่ ที่นายกฯไม่ได้จริงจังในการจัดการ ทั้งที่สามารถพุ่งเป้าไปที่กระเป๋าเงินตระกูลฮุนได้ ซึ่งแม่นยำ ได้ผล กดดันและสร้างผลกระทบให้ผู้ประกอบการชายแดนน้อยกว่าที่เป็นอยู่ ผลการประชุม กมธ.การทหารเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ได้ทำหนังสือข้อสังเกตและข้อมูลลับถึงนายกฯแล้ว ดังนั้น จะบอกว่าไม่รู้ไม่ได้ เชื่อตนหรือไม่ เผลอๆ ตนอาจจะเอาเรื่องที่นายกฯรู้อยู่แล้วไปบอกก็ได้ อาจจะรู้ละเอียดกว่าตนด้วยซ้ำข้อมูลดังกล่าว กมธ.ก็ตกใจ ตอนนี้ ปปง.รู้ทุกอย่างทั้งกลุ่มทุนไทย ที่น่าจะไปฟอกเงินในกัมพูชา หรือกลุ่มทุนกัมพูชาที่เข้ามาปฏิบัติการในประเทศไทยอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่