วันเสาร์ 21 มิถุนายนที่ผ่านมา เป็นวันเกิดของอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งบินมา ฉลองวันเกิดที่ฮ่องกง มีนักธุรกิจใหญ่และนักการเมืองไทยบินไปร่วมฉลองวันเกิดกันมากมาย แสดงถึงบารมีทางการเมืองของ อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ในรัฐบาลและในแวดวงนักธุรกิจไทยยังคงมีน้ำหนักมากพอสมควร วันเกิดปีนี้จัดเงียบกว่าทุกปี เพราะรัฐบาลหลานรัก นายกฯแพทองธาร ชินวัตร กำลังเจอวิกฤติหนักทั้งศึกนอกศึกใน แต่ไม่ว่าจะยุ่งขนาดไหน “หลานอิ๊งค์” คงไม่พลาดที่จะแฮปปี้เบิร์ธเดย์กับ “อาปู” แน่นอนอนาคตทางการเมืองของ “หลานอิ๊งค์” จากนี้ไปจะไปรอดหรือไม่ คงต้องดูกันต่อไปด้วยแรงกดดันทางการเมือง แรงกดดันทางเศรษฐกิจ และความรู้สึกไม่พอใจของประชาชน ที่ทนไม่ได้กับคลิปสนทนาของ นายกฯแพทองธาร กับ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชาที่นายกฯไทยเรียกว่าลุง ทุกฝ่ายต้องการให้นายกฯแพทองธารลาออกทันที เพื่อเปลี่ยนนายกฯใหม่ จะได้ไม่ตกเป็นเบี้ยล่างของฮุน เซน เจ้าเล่ห์ ซึ่งเวลานี้กำลังทยอยปล่อยภาพเด็ดความสัมพันธ์อันลึกซึ้งระหว่าง ครอบครัวชินวัตร กับ ครอบครัวฮุน เซน ที่สนิทสนมกันมานานกว่า 30 ปี แต่นายกฯยืนยันไม่ลาออกบ่ายวันเสาร์ คุณสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ลงเฟซบุ๊กระบุว่าจากกระแสข่าวลือว่า นายกฯแพทองธาร ชินวัตร อาจตอบรับข้อเสนอจากพรรคการเมืองบางพรรค ด้วยการลาออกหรือยุบสภาหลังผ่านการลงมติ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในวาระที่ 3 นั้น ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ขอเรียนชี้แจงอย่างชัดเจนว่า ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด และ นายกฯได้ยืนยันกับพวกเราชัดเจนว่า จะเดินหน้าทำหน้าที่แก้ไขวิกฤตการณ์ต่างๆ ที่ประเทศกำลังเผชิญอยู่อย่างเต็มความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาชายแดนไทย– กัมพูชา ซึ่งรัฐบาลกำลังดำเนินมาตรการตอบโต้ที่เข้มข้นขึ้น ทั้งในมิติการทูตและด้านความมั่นคง รวมถึงปัญหาวิกฤติภาษีทรัมป์ ที่รัฐบาลได้เร่งผลักดันการเจรจาอย่างจริงจังคุณสรวงศ์ ได้ร่ายยาวถึง นโยบายที่รัฐบาลจะทำแต่ยังไม่ได้ทำ เช่น รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย การสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ แก้ไขหนี้สินประชาชน แก้ไขรัฐธรรมนูญ ฯลฯ แล้วสรุปว่า “ทั้งหมดนี้คือเหตุผลที่รัฐบาลยืนยันจะเดินหน้าทำงานต่อไป ไม่ลาออก และไม่ยุบสภา”นายกฯและพรรคเพื่อไทยคงไม่เข้าใจว่า วันนี้พรรคเพื่อไทยและรัฐบาล “ไม่ได้รับความเชื่อมั่น (trust)” และ “ไม่ได้รับความไว้วางใจ” จากประชาชนและภาคธุรกิจซึ่งอาจรวมถึงกองทัพด้วยก็ได้ จากคลิปเสียงที่เป็นเนื้อหาสนทนาระหว่าง นายกฯแพทองธาร กับ ฮุน เซน ดังนั้น นายกฯยิ่งดันทุรังอยู่ต่อ ก็จะยิ่งสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม เพราะเมื่อ ผู้นำประเทศไม่ได้รับความเชื่อมั่น นักลงทุนที่ไหนจะเข้ามาลงทุน ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้คือตัวชี้วัด แม้นายกฯแพทองธารอยากจะอยู่ต่อ แต่จะอยู่ได้หรือไม่ อยู่ได้นานแค่ไหน ล้วนเป็นบทสรุปที่ไม่เป็นผลบวกต่ออนาคตของประเทศไทยทั้งสิ้นนักการเมืองที่ดี เมื่อทำผิดพลาดก็ต้องรับผิดชอบ ให้ดูนายกฯอังกฤษ เป็นตัวอย่างในแง่ความมั่นคงของรัฐบาลหลังจากที่ พรรคภูมิใจไทย 69 เสียง ถอนตัวออกไปแล้ว ทำให้รัฐบาลเหลือเสียงสนับสนุน 255 เสียง เกินครึ่ง 248 เสียงมาเพียง 7 เสียงเท่านั้น ในขณะที่ พรรครวมไทยสร้างชาติ 36 เสียง ก็มีการแถลงจาก คุณวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรค ถึงมติพรรคอย่างชัดเจนว่า “ขอให้ เปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี ถ้าไม่เปลี่ยนเราก็ต้องลาออก” เพราะนายกฯหมดคุณสมบัติที่จะเป็นแล้ว มติเป็นอย่างนี้ หัวหน้า (คุณพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค) ไม่อยากพูดเพราะท่านเป็นสุภาพบุรุษถ้าพรรครวมไทยสร้างชาติ 36 เสียง ถอนตัวออกไปอีกพรรค รัฐบาลเพื่อไทยจะเหลือเสียงสนับสนุนเพียง 219 เสียง เป็นเสียงข้างน้อย แม้จะมีงูเห่าช่วยก็ไปไม่รอดแน่นอนการเมืองมีกติกา ก็เล่นไปตามกติกาดีกว่า อย่าเอาอนาคตของประเทศ มาสนองความต้องการส่วนตัว ประชาชนจะยิ่งรับไม่ได้.“ลม เปลี่ยนทิศ”คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม