นายกฯขอโทษแม่ทัพภาคที่ 2 อย่างเป็นทางการ หลังพบหน้า เป็นครั้งแรก ขณะเดินทางไปปฏิบัติภารกิจเยี่ยมให้กำลังใจ กำลังพลกองกำลังสุรนารี และมอบสิ่งของบำรุงขวัญ ที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เอ่ยปากชวนแม่ทัพภาคที่ 2 ร่วมรับดอกไม้ จากประชาชนที่มาต้อนรับ ขณะให้สัมภาษณ์เจอไมค์นักข่าวทีวีโขกหัวอย่างแรง หลังกลับจากชายแดน ปิดห้องถก รมว.ต่างประเทศ ถึงมาตรการเพิ่มเติมชายแดนไทย-กัมพูชา สมเด็จฮุน เซน ขยี้ ไทยต่อเนื่อง โพสต์เฟซแฉภาพนายกฯอิ๊งค์ ไปเยี่ยมบ้านระหว่างไปเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการ พร้อมขอชมห้องนอน ของ “พ่อ” กับ “อา” ที่ฮุน เซน จัดไว้รองรับ เครือข่าย ประชาชนผู้รักชาติแถลงการณ์ จี้ “แพทองธาร” ลาออก จากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีทันที หลังคลิปเสียงสนทนา กับ “ฮุน เซน” หลุด 28 มิ.ย.นี้ ปลุกคนไทยรวมตัว ขับไล่ ด้าน “สมคิด เชื้อคง” รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง แจ้งจับ “ฮุน เซน” เป็นภัยต่อความมั่นคง ประเทศ ผบช.ไซเบอร์ชี้สามารถเอาผิดและดำเนินคดีตามกฎหมายไทยได้ สื่อกัมพูชาวิจารณ์นายกฯไทยนายกรัฐมนตรีพบหน้าแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นครั้งแรกและกล่าวขอโทษอย่างเป็นทางการหลังถูกพาดพิงในคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ระหว่างการเดินทางไปตรวจเยี่ยมชายแดนที่ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ขณะที่สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ยังปั่นและขยี้ไทยไม่หยุด โพสต์เฟซบุ๊กภาพนายกฯไทยไปเยือนบ้านที่กัมพูชาแล้วขอชมห้องที่ “พ่อ” กับ “อา” เคยพักอาศัยในบ้านแถมทวงบุญคุณว่าเคยช่วยเหลือให้ที่พำนักแก่ 2 อดีตนายกฯของไทยอีกด้วย สร้างความขบขันให้กับคนไทยเมื่อได้เห็นการตกแต่งบ้านของสมเด็จฮุน เซนนายกฯประชุมช่วย ปชช. 7 จว.ชายแดนที่ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 20 มิ.ย. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ เป็นประธานการประชุมติดตามดูแลการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนไทยและวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับผู้ว่าราชการจังหวัด 7 จังหวัดชายแดน ประกอบด้วย อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ตราด จันทบุรี สระแก้ว มี น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง และนายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เข้าร่วมการประชุมย้ำเลี่ยงปะทะแต่ของเราต้องพร้อมน.ส.แพทองธารกล่าวเปิดการประชุมว่า เห็นว่ามีการเปลี่ยนแปลง แต่อยากให้ทำงานเพื่อประเทศและประชาชนต่ออย่างเข้มแข็งไม่มีการเปลี่ยนแปลง เรื่องสถานการณ์ชายแดน ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่สุรินทร์ มีการพูดคุยเรื่องหลุมหลบภัย ขอให้ดูเรื่องของคุณภาพ รวมทั้งได้พูดคุยกับหน่วยงานด้านความมั่นคงในเรื่องยุทโธปกรณ์ต่างๆที่ยังไม่เพียงพอ ขอให้กองทัพช่วยกันดูว่า ของเรามีความ พร้อมอยู่เสมอ แน่นอนว่าต้องการเลี่ยงการปะทะ แต่หากเกิดเหตุสุดวิสัยต้องรักษาชีวิตของทหารชายแดนนับหมื่นคน รัฐบาลยังคงให้ความสำคัญกับความปลอดภัยชีวิตของประชาชนเป็นหลักเป็นสิ่งสำคัญ รัฐบาลกำลังพูดคุยไม่ให้เกิดการปะทะแต่ขอให้มีการเตรียมความพร้อมทุกอย่าง หากเกิดเหตุการณ์มีการปะทะ โรงพยาบาลและทุกอย่างต้องมีความพร้อมขอทำงานเข้มแข็ง ยึดทำประโยชน์ ปชช.นายกฯกล่าวอีกว่า ที่เคยบอกไปก่อนหน้านี้ มหาดไทยเป็นบ้าน ทหารเป็นรั้ว มหาดไทยเองก็ต้องดูแลคนในบ้านให้ปลอดภัย ถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆในพื้นที่ 7 จังหวัด มีผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ นายกองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ขอให้ดูแลประชาชน บุคลากรต้องพร้อม ควบคู่ไปกับเรื่องยาเสพติดในพื้นที่ ขอให้สร้างความมั่นใจกับประชาชนเรื่องเฟกนิวส์ที่มีการลือว่าจะอย่างนั้นอย่างนี้จะถูกทำอย่างไร ขอให้รับข้อมูลจากเพจข่าวทางการเป็นคนได้เจอหลายคนในที่นี้มาหลายครั้ง ได้ทำงานร่วมกันและได้ทราบฝีมืออยู่แล้ว มั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า ทุกท่านจะสามารถทำประโยชน์ ทำงานอย่างต่อเนื่อง วันนี้มี รมช.มหาดไทยอยู่ตรงนี้ ช่วยกันทำงานให้เข้มแข็งที่สุด ขอสัญญาว่า รัฐบาลไม่มีทางทิ้งกระทรวงไหนแน่นอน ทุกกระทรวงสามารถทำประโยชน์ให้กับประชาชนได้ ขอให้เรายึดเป้าหมายเป็นสำคัญ ให้ความมั่นใจกับทุกคนตรงนี้ไปช่องบก ขอโทษ มทภ.2 หลังประชุมเสร็จเวลา 11.43 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กับคณะ เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ ไปยังท่าอากาศยานทหารกองบิน 21 อ.เมืองอุบลราชธานี ไปพบปะกำลังพลกองกำลังสุรนารีมอบสิ่งของบำรุงขวัญที่ อ.น้ำยืน น.ส.แพทองธารและคณะเดินทางถึงกองบิน 21 เวลา 13.30 น. มี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 มารอต้อนรับ เมื่อพบหน้า พล.ท.บุญสิน น.ส.แพทองธารได้ยกมือไหว้ก่อนกล่าวกับ พล.ท.บุญสิน ว่า “ขอโทษอย่างเป็นทางการค่ะ” พล.ท.บุญสิน ได้ยิ้ม จากนั้นนายกฯและคณะพร้อมด้วย พล.ท.บุญสินเดินทางต่อไปยัง อบต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน มีว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผวจ.อุบลราชธานี นายเกรียง กัลป์ตินันท์ อดีต รมช.มหาดไทย รวมทั้ง สส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย อาทิ น.ส.กิตติ์ธัญญา วาจาดี น.ส.สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ มารอต้อนรับไม่ตอบสื่อเคลียร์ใจ มทภ.2 หรือยังน.ส.แพทองธารได้มอบสิ่งของถุงยังชีพ เป็นขวัญกำลังใจให้ตัวแทนชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) พร้อมกล่าวขอบคุณและเป็นกำลังใจต่อการปฏิบัติหน้าที่ดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ ขณะที่ชาวบ้านหลายคนนำดอกกุหลาบและผ้าขาวม้า มาผูกเอวเป็นกำลังใจให้ น.ส.แพทองธาร ระหว่างที่ประชาชนมอบดอกไม้ น.ส.แพทองธารได้ชวนแม่ทัพภาคที่ 2 มารับดอกไม้และถ่ายภาพร่วมกัน ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการพูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 2 ว่าได้เคลียร์ใจแล้วหรือไม่ น.ส.แพทองธารไม่ตอบคำถาม จังหวะที่ผู้สื่อข่าวกำลังสอบถามสัมภาษณ์นายกฯอย่างชุลมุน ปรากฏว่าไมค์ของสื่อทีวีช่องหนึ่งที่นักข่าวถืออยู่ไปโดนศีรษะ น.ส.แพทองธารเสียงดังโป๊ก ทำให้ น.ส.แพทองธารอุทานว่า “โอ้ยเขกหัวหนึ่ง” ก่อนที่สื่อมวลชนจะรีบขอโทษ น.ส.แพทองธารได้หัวเราะและยิ้มขำออกมาพร้อมตอบว่าไม่เป็นไรเยี่ยมกำลังพลดูความเป็นอยู่จากนั้นเวลา 14.00 น. น.ส.แพทองธารและคณะเดินทางต่อไปยังฐานปฏิบัติการมรกต ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน ที่เป็นจุดใกล้พื้นที่พิพาทกับทหารกัมพูชามากที่สุด พบปะให้กำลังใจกองกำลังพลกองกำลังสุรนารี และมอบสิ่งของบำรุงขวัญ พล.ท.บุญสินได้พานายกฯเยี่ยมชมฐานดูความเป็นอยู่กำลังพล บรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น จากนั้นนายกฯรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ความมั่นคง ท่ามกลางฝนโปรยปรายลงมา น.ส.แพทองธารกล่าวว่า การลงพื้นที่มาพบปะทหารทุกนายในวันนี้ ตั้งใจมาให้กำลังใจที่ทำหน้าที่อย่างเข้มแข็ง ด้วยความกล้าหาญอดทนอดกลั้น ต่อสิ่งที่ต้องเผชิญในแต่ละวันขอบคุณ มทภ.2 ที่มุ่งมั่นปกป้องชาติ–ปชช.นายกฯกล่าวอีกว่า ขอชื่นชมในความเสียสละ ที่ต้องห่างไกลบ้าน ห่างไกลครอบครัว สิ่งสำคัญต้องขอขอบคุณแม่ทัพภาคที่ 2 รวมถึงผู้บังคับบัญชาทหารทุกนาย ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาทำหน้าที่ปกป้องประชาชน ปกป้องประเทศชาติ ปกป้องอธิปไตยอย่างแน่วแน่ ด้วยความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่อง ขอให้คำมั่นว่ารัฐบาลพร้อมสนับสนุนกองทัพอย่างเต็มที่ ทุกคนคือคนไทย แผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย จะต้องช่วยกันรักษา ทหารเปรียบเสมือนรั้วของชาติ รัฐบาลต้องการให้รั้วของชาติมีสุขภาพดี ทั้งแรงกาย แรงใจ มีความสุขในการทำหน้าที่ อะไรที่ต้องการให้รัฐบาลสนับสนุน ยินดีและพร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ ในนามรัฐบาลขอขอบคุณ ขอส่งกำลังใจให้ทหารทุกนาย พร้อมทั้งขอนำกำลังใจจากประชาชนทุกคนมามอบให้ในวันนี้บอกคุยเข้าใจไร้ปัญหาจากนั้น น.ส.แพทองธารเดินทางกลับมาที่อบต.โดมประดิษฐ์ เพื่อเดินทางกลับ กทม. ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่าวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง น.ส.แพทองธารตอบว่า ทุกคนทำงานหนัก ดีมากเลย มาให้กำลังใจ ระหว่างนั้นนายวสวรรธน์ พวงพรศรี หัวหน้าพรรคไทรวมพลัง ได้ยื่นหนังสือถึงนายกฯเรื่องบังเกอร์ นายกฯรับหนังสือแล้วกล่าวว่า “อ้าว เราสั่งไปเรียบร้อยแล้ว เรื่องบังเกอร์” เมื่อถามว่าให้กำลังใจกำลังพลเป็นอย่างไรบ้าง นายกฯกล่าวว่า ดีมากเลยที่ได้ไปเจอมา เมื่อถามอีกว่าการพูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นอย่างไร น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เป็นไปได้ด้วยดี ท่านแม่ทัพภาคที่ 2 คุยดีตั้งแต่แรก เมื่อถามว่าแม่ทัพภาคที่ 2 เข้าใจ ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธารยืนยันว่า ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว เป็นเทคนิคการคุยระหว่างกัน เพิ่งเจอครั้งที่สองเอง จะไม่ชอบเขาได้ยังไงเจรจาสันติภาพจะทำให้ดีที่สุดเมื่อถามถึงภาพรวมการลงพื้นที่ น.ส.แพทองธาร ตอบว่า ตอนนี้กองทัพเตรียมกำลังทหารหมดแล้ว เตรียมดูแลพี่น้องประชาชนเป็นอย่างดี ไม่ต้องห่วง เมื่อสักครู่ได้พูดคุยทั้งแม่ทัพภาคที่ 2 และเจ้าหน้าที่ที่ดูกองทัพต่างๆ ยืนยันว่ามีความพร้อมหมด ดังนั้น ไม่ต้องห่วงเลยในเรื่องของความปลอดภัย แน่นอนว่าตนไม่อยากให้เกิดความรุนแรง เพราะเราขึ้นไปเห็นเจ้าหน้าที่ทุกคนมา หากเกิดความรุนแรงตรงนั้นจะเดือดร้อนและจะเกิดอันตราย เราต้องรักษาทุกชีวิตและจะทำให้ดีที่สุดในการเจรจาเพื่อสันติภาพ แต่ไม่ต้องห่วงทุกคนสแตนด์บายพร้อม หากมีการปะทะ จากนั้นนายกฯกล่าวขอบคุณสื่อมวลชนและเดินทางกลับทันที ก่อนเดินทางกลับมีประชาชนมารอให้กำลังใจนายกฯ บางคนบอกว่า“ยังเหมือนเดิมนะคะ” และบางคนก็สวมกอดพร้อมมอบพวงมาลัย ผ้าขาวม้าปิดห้องถก รมว.กต.มาตรการชายแดนกระทั่งเวลา 16.40 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ลงเครื่องที่ศูนย์เครื่องบิน ขส.ทบ. ดอนเมือง พร้อมนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม แล้วเข้าห้องรับรองหารือกับนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ ที่มารอพบ ใช้เวลาหารือ 45 นาที ถึงมาตรการเพิ่มเติมกรณีสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ก่อนนายกฯเดินทางกลับโดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชน ทั้งนี้ มีรายงานว่าช่วงบ่ายวันที่ 23 มิ.ย. นายกฯจะประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกรณีสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาด้วยฮุน เซน โพสต์ FB ขยี้ไทยไม่หยุดส่วนความเคลื่อนไหวของสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ที่ยังปั่นและขยี้ไทยไม่หยุด หลังเกิดกรณีคลิปเสียงการสนทนาส่วนตัวกับ “หลานอิ๊งค์” หลุดรั่วออกมา เมื่อเวลา 13.10 น. วันที่ 20 มิ.ย. สมเด็จฮุน เซน โพสต์เฟซบุ๊กเป็นภาพเมื่อครั้งต้อนรับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย ที่เดินทางไปเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทาง การเมื่อช่วงเดือน เม.ย. 2568 กับภาพที่นายกฯอิ๊งค์อยู่ที่บ้านพักส่วนตัว ของสมเด็จฮุน เซน มีการระบุในโพสต์ว่า หลังเสร็จภารกิจทางการ นายกรัฐมนตรีและสามี ได้มาร่วมรับประทานอาหารค่ำที่บ้านของสมเด็จฮุน เซน ในบรรยากาศครอบครัว อีกทั้งก่อนเดินทางกลับนายกฯอิ๊งค์ ได้ขอเข้าชมห้องที่นายทักษิณ ชินวัตร (บิดา) และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ (อา) ที่สองอดีตนายกรัฐมนตรีเคยพำนัก สามีของนายกรัฐมนตรีไทยได้ถ่ายภาพและบันทึกวิดีโอห้องทั้งสองห้องแฉอิ๊งค์เยี่ยมบ้านดูห้องพ่อ–อาสมเด็จฮุน เซน ยังโพสต์ข้อความด้วยว่า บ้านของเขาได้สงวนห้องไว้สองห้อง ได้แก่ “ห้องทักษิณ” และ “ห้องยิ่งลักษณ์” ทั้งยังยืนยันว่า ตัวสมเด็จฮุน เซน กับรัฐบาลกัมพูชา ต่างเคยให้การสนับสนุนอดีตนายกฯทักษิณและยิ่งลักษณ์ ที่เป็นบิดาและอาของนายกรัฐมนตรีไทยคนปัจจุบัน รวมทั้งยังกล่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสองครอบครัวแน่นแฟ้นยาวนาน ถึง 30 ปี ต้องถูกทำลายเพราะคลิปเสียงสนทนาทางโทรศัพท์หลุดออกมา สมเด็จฮุน เซน ระบุว่า คลิปเสียงที่หลุดออกมานั้นเกิดจากเจ้าหน้าที่กัมพูชาคนหนึ่งที่ไม่พอใจ มองว่าทั้งเขาและรัฐบาลกัมพูชาถูกดูหมิ่น ถูกกล่าวหาว่าไม่มีความเป็นมืออาชีพชี้คลิปเสียงหวังได้นกทั้งรังก่อนหน้านี้เมื่อคืนวันที่ 19 มิ.ย. เพจเฟซบุ๊ก “ศูนย์เฉพาะกิจฯ ชายแดนไทย-กัมพูชา-Team Thailand “โพสต์ข้อความว่า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะ ผอ.ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) กล่าวในการประชุม ศบ.ทก.ตอนหนึ่งว่า วันที่ 18 มิ.ย.ประเทศของเราต้องเผชิญกับอุบัติการณ์ทางการเมืองที่ไม่มีใครคาดคิด คลิปเสียงการสนทนาระหว่างผู้นำระดับสูงของไทยและกัมพูชาถูกเผยแพร่ออกมาโดยเจตนาหวังผลร้ายต่อประเทศไทยอย่างแน่นอน แต่ขอเรียนอย่างหนักแน่นว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ หากแต่เป็นส่วนหนึ่งของการวางแผน การที่ซับซ้อน มีเป้าหมายที่ลึกซึ้ง แยบยลจากฝ่ายตรงข้าม การปล่อยคลิปเสียงในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงการหวังผลทางการทูต แต่เป็นการ “ยิงกระสุนนัดเดียว เพื่อหวังจะได้นกทั้งรัง” และเราจะไม่ยอมให้เขาสมหวังเป็นอันขาดขอฝากประเทศรักษาไว้ในมือทุกคนพล.อ.ณัฐพลกล่าวว่า ส่วนของการเมืองขอไม่กล่าวถึง ให้เป็นไปตามกลไกการเมืองที่เหมาะสม แต่ในส่วนของ “Team Thailand” ขอยืนยันว่าศูนย์เฉพาะกิจนี้จะต้องเดินหน้าต่อไป ขอวิงวอนให้ทุกท่านร่วมใจกัน ด้วยหลัก “รอบคอบ รอบด้าน ใช้สติ สร้างสันติ” ยึดถือผลประโยชน์ชาติเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง แม้วันหนึ่งข้างหน้า ตนจะไม่ได้อยู่ ณ จุดนี้ แต่ขอฝากประเทศไทยไว้ในมือของคนกล้าคิด กล้าทำ กล้าร่วมกันรักษาแผ่นดินนี้อย่างสง่างามย้ำไม่เคยปิดกั้นส่งสินค้าข้ามแดนส่วนการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เมื่อเที่ยงวันที่ 20 มิ.ย. พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศและรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการประชุม ศบ.ทก.โดยนางมาระตีกล่าวว่า ที่ประชุมย้ำว่าไทยไม่เคยปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา มาตรการที่ดำเนินการอยู่เป็นการควบคุมคนเข้า-ออก มีการปรับเวลาเปิด-ปิดด่าน โดยไม่ได้ปิดกั้นการขนส่งสินค้าข้ามแดน ทั้งนี้ เพื่อรักษาความมั่นคงและความปลอดภัยของประชาชนตามแนวชายแดนเนื่องจากสถานการณ์ในพื้นที่รัฐบาลมีความห่วงใยจะพิจารณาปรับเปลี่ยนมาตรการตามสถานการณ์และความจำเป็นทำกระทบจรรยาบรรณระหว่างรัฐนางมาระตีกล่าวว่า ฝ่ายไทยเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชา คำนึงถึงความเป็นอยู่ของประชาชนทั้งสองฝั่งตามแนวชายแดน ในการออกมาตรการใดๆ เนื่องจากปัญหาที่เกิดขึ้น เป็นปัญหาระหว่างรัฐบาล ไม่ใช่ปัญหาระหว่างประชาชน ไม่ควรนำมาให้เป็นประเด็นระหว่างประชาชนทั่วไป ที่ต้องได้รับความเดือดร้อน กระทบถึงความจำเป็นต่างๆด้านมนุษยธรรม ทั้งนักเรียน นักศึกษา ผู้มารักษาพยาบาลฝั่งไทย แรงงานกัมพูชา กรณีกระทรวงการต่างประเทศ แถลงเรื่องการเปิดเผยบทสนทนาส่วนตัว ระหว่างนายกฯไทยและสมเด็จฮุน เซน ย้ำว่า การกระทำดังกล่าว กระทบต่อจรรยาบรรณและมารยาทปฏิสัมพันธ์ระหว่างรัฐ ที่สำคัญเป็นการทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน ที่ส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ เหตุการณ์นี้ไม่ควรทำให้เกิดความแตกแยกในสังคมไทยและรัฐบาล ขอให้คนไทยมั่นใจในเอกภาพการทำงาน ระหว่างรัฐบาลกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รัฐบาลไทยยังคงเชื่อมั่นกลไกทางการทูต กลไกทวีภาคีในการแก้ปัญหาไม่ผลักดันแรงงานกัมพูชากลับขณะที่ พล.ร.ต.สุรสันต์กล่าวว่า ประเด็นการหารือด้านความมั่นคง มีการหารือการเข้าออกด่านชายแดนและยืนยันมาตรการปฏิบัติของฝ่ายไทยที่เป็นขั้นตอนเหมาะสม ตามระดับสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ โดยการปฏิบัติและแบ่งเป็น 4 ขั้นตอนคือ 1.จำกัดการผ่านแดนโดยอนุญาตเฉพาะบุคคลที่มีเหตุจำเป็น เช่น การค้าขายขนส่งสินค้า แรงงาน และงานอื่นๆที่จำเป็น 2.การปรับลดช่วง เวลาในการเปิด-ปิดจุดผ่านแดน กำหนดวัน เวลาเข้าออกอย่างชัดเจน 3.ปิดด่านบางจุด 4. ปิดจุดผ่านแดนตลอดแนวชายแดนกรณีที่เกิดสถานการณ์วิกฤติ เพื่อควบคุมสถานการณ์ในระดับสูงสุด ปัจจุบันเน้นย้ำว่าการปฏิบัติของฝ่ายไทยดำเนินการ 2 ขั้นตอนแรกเท่านั้น คือจำกัดคน จำกัดเวลา โดยยึดหลักมนุษยธรรมและความพยายามบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ เรื่องแรงงานและเกษตรกรในพื้นที่ ไทยเน้นย้ำว่ามีมาตรการช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะแรงงานไทยในกัมพูชา รัฐบาลมีมาตรการเตรียมการเรียบร้อยและพร้อมให้การช่วยเหลือเมื่อต้องการ ส่วนแรงงานกัมพูชาในไทยรัฐบาลไม่มีนโยบายผลักดันกลับประเทศเขมรรุกคืบร้องเพลงบนปราสาทตาควายนอกจากนี้ เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. น.ส.วาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวอาวุโสสายทหาร โพสต์คลิปทหารกัมพูชานำชาวเขมรขึ้นมาร้องเพลงบนปราสาทตาควาย ลงในเฟซบุ๊กเพจ “Wassana Nanuam” พร้อมข้อความระบุว่า “เขมร รุกคืบ ปราสาทตาควาย!! ทหารเขมรนำชาวเขมรมาร้องเพลงอีกแล้ว ที่ปราสาทตาควาย จนทหารไทย ต้องเข้าไปห้ามปราม พบว่า หลังรัฐบาลกัมพูชา ฟ้องศาลโลก ICJ เคลม ปราสาทตาเมือนธม-ตาเมือนโต๊ด-ตาควาย และช่องบก ทหารเขมรก็พาชาวเขมรขึ้นมาเที่ยวปราสาทตาควายมากขึ้นๆ ทุกวันๆ แบบผิดปกติกว่าแต่ก่อน จนที่สุดก็มีการร้องเพลงที่ปราสาทตาควาย ทั้งนี้หลังการสู้รบปี 2554 ที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ ทหารไทยและกัมพูชา มีข้อตกลงที่จะอยู่ร่วมกัน แบ่งพื้นที่ปราสาทคนละครึ่ง มีทหารอยู่ร่วมกันตลอด 24 ชั่วโมง มีข้อตกลงในเรื่องการห้ามแสดงสัญลักษณ์ต่างๆ เช่นเดียวกับที่ปราสาทตาเมือนธมทหารไทยเข้าระงับเหตุอย่างสุภาพต่อมา พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี โดยกองร้อยทหารพรานที่ 2606 ว่า เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.68 เวลาประมาณ 13.00 น. พบคณะนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชา ประมาณ 30 คน เดินทางเข้ามายังบริเวณปราสาทตาควาย ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ มีการบันทึกภาพวิดีโอ และร่วมร้องเพลงในพื้นที่ดังกล่าว ทหารฝ่ายไทยได้เข้าระงับเหตุการณ์อย่างสุภาพและเหมาะสม ทั้งเข้าเจรจาอธิบายด้วยเหตุผล เพื่อสร้างความเข้าใจชี้แจงให้ทราบว่า การแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในพื้นที่ดังกล่าว ไม่สอดคล้องกับแนวทางและข้อตกลงร่วมกัน ที่ทั้งสองฝ่ายเคยหารือไว้ก่อนหน้านี้ ขอความร่วมมือให้งดเว้นพฤติกรรมในลักษณะเช่นนี้ นักท่องเที่ยวกัมพูชาได้แสดงความเข้าใจและยุติกิจกรรมโดยสมัครใจ ก่อนออกจากพื้นที่หลังใช้เวลาอยู่บริเวณดังกล่าวประมาณ 20 นาที เหตุการณ์เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและยังสามารถพูดคุยในบรรยากาศที่ดีตามแนวทางความร่วมมือที่ทั้งสองฝ่ายยึดถือร่วมกัน ทั้งนี้ตามข้อตกลงร่วมกันระหว่างไทย-กัมพูชา พื้นที่ปราสาทตาควายสามารถจัดเจ้าหน้าที่ทหารที่ไม่พกพาอาวุธ เข้ามาอำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่มาท่องเที่ยวในพื้นที่ปราสาทได้เครือข่าย ปชช.ผู้รักชาตินัดชุมนุมอีกด้าน ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ เวลา 10.00 น. เครือข่ายประชาชนผู้รักชาติ ประกอบด้วย กลุ่ม คปท. กองทัพธรรม เครือข่ายองค์กรแรงงานรัฐวิสาหกิจ มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน นักการเมือง อดีต สว. นักวิชาการ ฯลฯ นำโดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ นายนิติธร ล้ำเหลือ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส นายสมชาย แสวงการ นายแก้วสรร อติโพธิ ฯลฯ ออกแถลงการณ์ประณาม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และเพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยฯ และความผาสุกของประชาชน ให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลาออกทันที เพราะสิ้นความชอบธรรมแล้ว พร้อมกันนี้เครือข่ายฯยังเรียกร้องเชิญชวนประชาชนไทย ร่วมแสดงตนในวันเสาร์ที่ 28 มิ.ย. เวลา 16.00-21.00 น. ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกและให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลทันที และจะยืนเคียงข้างทหาร ปกป้องแผ่นดินและอำนาจอธิปไตยของชาติอย่างกล้าหาญมั่นคง“สมคิด” แจ้งจับฮุน เซนปล่อยคลิปที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง เข้าพบ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. แจ้งความดำเนินคดี สมเด็จฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชาและประธานวุฒิสภากัมพูชา กรณีคลิปเสียงการสนทนาทางโทรศัพท์ส่วนตัวกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หลุดว่อนโซเชียล นายสมคิดเผยว่าได้แจ้งดำเนินคดีสมเด็จฮุน เซน ข้อหาเกี่ยวกับ ภัยความมั่นคง การแจ้งความไม่ได้เป็นการแจ้งแก้เกี้ยวให้นายกฯ ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่มองว่าการที่คลิปเสียงหลุด สมเด็จฮุน เซนได้ประโยชน์ สร้างความได้เปรียบทางการเมืองของตัวเอง โดยการเอาดีและเหยียบหัวคนอื่น นายกฯไทยเป็นผู้ถูกกระทำ ทำให้คนเข้าใจผิดคิดว่านายกฯอ่อนข้อต่อกัมพูชา ทำให้เสียเกียรติยศชื่อเสียงของประเทศไทย ผิดมารยาทการทูต หลายประเทศไม่ทำกัน จึงต้องการใช้กฎหมายไทยในการดำเนินคดี นายสมคิดกล่าวผบช.สอท.ชี้เรื่องนี้เอาผิดได้ขณะ พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า จากการสอบปากคำไปเบื้องต้น ยืนยันว่าในข้อกฎหมายสามารถเอาผิดได้ ไม่ว่าการกระทำดังกล่าวจะเกิดขึ้นในหรือนอกราชอาณาจักร รวมทั้งเป็นคนไทยหรือต่างชาติ หากมีการทำลายความมั่นคง ส่งผลกระทบในราชอาณาจักร สามารถดำเนินคดีตามกฎหมายไทยได้ ขั้นตอนต่อไป ตำรวจจะต้องรวบรวมพยานหลักฐาน สืบค้นว่าแหล่งที่มาของต้นโพสต์อยู่ที่ใด หากพบว่าอยู่ต่างประเทศจะหารือกับอัยการสูงสุดและประสานไปยังสถานทูตประเทศนั้นๆ ให้ส่งเอกสารไปยังประเทศปลายทางของผู้ที่ถูกออกหมายจับ บุคคลที่ทำความผิดไม่มีข้อยกเว้น แม้ว่าจะเป็นบุคคลใดก็ตาม ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ส่วนจะได้ตัวหรือไม่ ไม่อยากให้คาดการณ์ ตำรวจดำเนินการตามขั้นตอน แต่หากผู้ต้องหารายนั้นถูกออกหมายจับ จะต้องประสานสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองให้เฝ้าระวังกับบุคคลดังกล่าว หากพบว่าเดินทางเข้ามาไทยก็สามารถจับกุมได้แบนนักมวยไทยไปชกในกัมพูชาที่จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เช้าวันเดียวกัน จนท.ของกัมพูชา ยังคงมีมาตรการห้ามนำเข้าผลไม้ไทย พืชผักของสด ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหมู เนื้อไก่ และอาหารทะเลต่างๆ เหมือนมาตรการห้ามนำเข้าทางช่องทางด่านอื่นเช่นเดิม ขณะที่รถบรรทุกสินค้า รถบรรทุกมันสําปะหลังของไทยยังคงทะลักไปขนมันสำปะหลังของกัมพูชากลับมาจำนวนมาก ขณะที่ไทยยังไม่มีกฎข้อห้ามใดๆเกี่ยวกับการนำเข้าของกัมพูชา ห้ามเพียงบุคคลไปบ่อนกาสิโนเท่านั้น นอกจากนี้ มีเจ้าของค่ายมวยอิสระค่ายหนึ่ง เป็นชาวลาว นำนักมวยชาวลาวและชาวต่างชาติ รวม 8 คน ที่มาเก็บตัวและซ้อมที่ค่ายมวยแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.รัตนบุรี ข้ามแดนไปชกรายการมวยทีวีที่กัมพูชา ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นนักมวยไทยแต่กัมพูชาแบนนักมวยไทยจึงให้นักมวยลาวไปชกแทนจับพนักงานบ่อนข้ามช่องธรรมชาติขณะเดียวกัน หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 13 (ร้อย ทพ.1304) ภายใต้การควบคุมของ ฉก.อรัญประเทศ ลาดตระเวนตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา และจับกุมคนไทย 6 ราย เป็นชาย 4 หญิง 2 อายุ 20-35 ปี ขณะพยายามลักลอบข้ามแดนทางช่องทางธรรมชาติ บริเวณบ้านใหม่โคกสะแบง ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่าทั้งหมดเคยทำงานเป็นพนักงานบริษัทคราวน์ กาสิโน ในเมืองปอยเปต กัมพูชา ได้ค่าจ้างเดือนละประมาณ 20,000 บาท และกลับเข้ามาฝั่งไทย เพื่อประทับตราหนังสือผ่านแดนตามขั้นตอนที่เคยใช้ แต่เมื่อจะเดินทางกลับไปฝั่งกัมพูชา พบว่าไม่สามารถผ่านด่านพรมแดนบ้านคลองลึกได้ ติดต่อเพื่อนหาผู้นำทางข้ามช่องทางธรรมชาติจนถูกจับดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้นำตัวทั้ง 6 ราย มอบให้กับพนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก ดำเนินคดีสื่อกัมพูชาวิจารณ์ยับ “นายกฯอิ๊งค์”ทางด้านสำนักข่าวขแมร์ ไทม์ส ของทางการกัมพูชา รายงานบทความวิพากษ์วิจารณ์ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ไร้ความสามารถในการจัดการความไร้เอกภาพภายในประเทศ บริหารจัดการรัฐบาลตัวเองไม่ได้ บริหารจัดการกองทัพไม่ได้ และยังไม่สามารถควบคุมกลุ่มเคลื่อนไหวคลั่งชาติภายในประเทศไทย โดยได้มีการยกตัวอย่างความขัดแย้งภายในพรรคร่วมรัฐบาล ประเด็นคลิปเสียงพาดพิงกองทัพว่าอยู่ฝ่ายตรงข้าม รวมถึงอ้างผลโพลภายในกัมพูชา ว่าชาวกัมพูชาผู้ตอบแบบสอบถามมากกว่า 73.8% ของผู้ร่วมทำแบบสอบถามทั้งหมด 1,588 คน มองว่ากองทัพไทยเป็นฝ่ายยั่วยุก่อน ในเมื่อภาพรวมเป็นเช่นนี้ ย่อมส่งผลให้ฝ่ายกัมพูชาไม่สามารถรู้ได้ว่า ใครคือคู่สนทนาที่สามารถไว้วางใจได้ ในการคลี่คลายปัญหาพรมแดนเปิดโปง “คำสั่งตาย” ของฮุน เซนก่อนหน้านี้ในรายการสารคดี 101 East ของสำนักข่าวอัลจาชีรา ประเทศกาตาร์ เมื่อวันที่ 28 พ.ค.ได้เผยแพร่คลิปเสียงของสมเด็จฮุน เซน ขณะกำลังสั่งการให้จัดการนายพร พันนา นักเคลื่อนไหวฝ่ายค้าน ที่ลี้ภัยอยู่ในประเทศไทย มีเสียงนายฮุน เซน กล่าวว่า ให้ล่อออกมา แต่ถ้าไม่เป็นไปตามแผน ก็ให้ทำลายที่มั่นของพวกมัน ให้ทุกคนในกลุ่มปฏิบัติงานในประเทศไทย โดยเฉพาะกองกำลังที่ทำงานร่วมกับตำรวจไทย ต้องกำจัดกลุ่มเคลื่อนไหวในไทย โดยเฉพาะพร พันนา ต้องเอากลับมายังกัมพูชาให้ได้ ไม่ว่าจะใช้วิธีใดก็ตาม ไม่ว่าจับเป็นหรือจับตาย อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่