ทีมข่าว “SEE TRUE” ไทยรัฐทีวี 32 เกาะติดปัญหา “ยาเสพติด” ที่ทะลักเข้ามาทางภาคอีสาน พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุว่า เส้นทางนำเข้ายาเสพติด พื้นที่ อ.ปากชม จ.เลย เป็นพื้นที่ชายแดนที่ติดกับฝั่งลาว มีเพียงลำน้ำโขงขวางกั้นลักษณะสองฟากฝั่งเต็มไปด้วยป่าเขา สลับบ้านเรือนประชาชนบ้างบางระยะ โดยเฉพาะกลางลำน้ำโขงมีพื้นที่ดอนหลายแห่งที่งอกออกมาตามธรรมชาติ ทุกจุดล้วนสุ่มเสี่ยงกับการส่งยาเสพติดทั้งนั้น ทางการข่าวของกองทัพภาคที่ 2 สืบทราบมาว่า เครือข่ายผู้กระทำผิด พ.ร.บ.ยาเสพติด ใน สปป.ลาว และในพื้นที่ อ.ปากชม พบความเคลื่อนไหวผู้กระทำผิดทั้งหมด 7 เครือข่าย หนึ่งในนั้นมีเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ฝั่งลาวที่เคยถูกจับกุม ชื่อย่อ “ท้าว ก.” ทำให้เราทราบถึงกระบวนการอันแยบยลของทั้งสองฝั่ง โดยเครือข่ายฝั่งลาว ประกอบด้วยนายทุนใหญ่จะประสานงานกับ “ท้าว” ที่เป็นหัวหน้าทีมรับลำเลียงยาเสพติดข้ามมาฝั่งไทยโดยนายทุนลาวจะตกลงผลประโยชน์การส่งยาเสพติดกับนายทุนไทย เมื่อตกลงกันลงตัวจะเป็นหน้าที่ของท้าวในการกระจายยาเสพติด โดยใช้ “มือน้ำ” หรือคนขนยาเสพติดฝั่งลาวเป็นคนส่งยาข้ามฝั่งโขง เมื่อมั่นใจว่าฝั่งไทยปลอดภัย ไร้ทหาร ก็จะขนยาเสพติดลงเรือเตรียมพร้อมข้ามมาฝั่งไทย หลังภารกิจสำเร็จ...มือน้ำฝั่งลาวจะวกเรือกลับทันทีจากนั้น “มือน้ำฝั่งไทย” จะมารับยาเสพติดลำเลียงใส่รถ กระจายต่อให้กับนักบิน 3 สาย นักบินสายสั้น...จะส่งยาเสพติดเขตอำเภอต่างๆในจังหวัดเลย นักบินสายกลาง...ส่งยาเสพติดเขตจังหวัดชั้นในทางภาคอีสาน ส่วน นักบินสายยาว...ส่งยาเสพติดยิงยาวสู่ภาคใต้ พร้อมกระจายต่อไปยังประเทศที่สามส่วนเส้นทางลำเลียงยาเสพติด เครือข่ายนักค้ายาลำเลียงยาเสพติดมาจากสามเหลี่ยมทองคำ ลงมาถึง อ.ปากชม จ.เลย เครือข่ายยาเสพติดจะใช้เส้นทางหลักในการลำเลียง จากแหล่งผลิต ยาเสพติดเข้าสู่ สปป.ลาว ก่อนส่งเข้าประเทศไทยตามแนวชายแดนส่วนเมืองที่เป็นแหล่งพักยาเสพติดใน สปป.ลาว ที่อยู่ตรงข้าม อ.ปากชม คือ บ.ดอนเชียง, บ.หาดเบี้ย, บ.วัง, บ.คกไผ่, บ.น้ำจั่น, บ.ห้วยทับชัย, บ.ห้วยหล้า และ บ.คกเว้า ขณะที่หมู่บ้านที่เป็นจุดลักลอบนำเข้ายาเสพติดสำคัญ ในเขต อ.ปากชม จ.เลย มี 7 หมู่บ้าน เดิมทีเรามักพบการขนยาเข้าไทยผ่านช่องทางธรรมชาติภาคเหนือซึ่งมีลักษณะเป็นพื้นดินต่อกันตามแนวภูเขา แต่เพราะความตึงเครียดในประเทศเมียนมาที่มีการสู้รบของกองกำลังชาติพันธุ์ในพื้นที่รัฐฉานตอนเหนือและเขตเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง จึงดูเหมือนว่า...ภูมิประเทศของแม่น้ำโขงที่มีเกาะดอนจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าเพราะเกาะดอนส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ สปป.ลาว ซึ่งสามารถใช้เป็น “จุดพักยาเสพติด” เตรียมส่งข้ามแม่น้ำโขงมาไทย แค่ในอาณาเขตประเทศไทยเองก็พบเกาะดอนในอำเภอปากชมถูกใช้เป็นจุดพักยาเสพติดไปแล้ว 8 ดอนจากทั้งหมด 26 ดอน...หนึ่งในช่องโหว่คือวิถีชีวิตของคนแนวชายแดน “การร่อนทอง” หารายได้เสริมที่คนไทย คนลาวนิยมจะมีการแฝงตัวเข้ามาเพื่อลักลอบส่งยา นอกจากนี้ยังพบการสร้างที่พักจำนวนมากตลอดริมฝั่งโขงปรากฏว่า...บางแห่งคือจุดพักยาเสพติดและเป็นที่ซ่องสุมของเครือข่ายเพื่อเตรียมกระจายยาเสพติดต่อ ซึ่งรวมถึงบ้านพักที่เคยเป็นของเครือข่าย “ท้าว ก.” “บอมม์ ขี้คุกเขียนรูป” อดีตพ่อค้ายา ได้เปิดเผยด้านมืดของตำรวจว่าได้จ่ายสินบนแลกกับการไม่ถูกจับกุมและรับช่วงนำยาเสพติดของกลางจากตำรวจไปขายต่อ นี่น่าจะเป็นอีกหนึ่งในสาเหตุที่การปราบปรามยาเสพติดไม่เคยหมดไป? และเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ? แน่นอนว่าเรามีการป้องปรามตามตะเข็บชายแดนไทย-ลาวตลอดกลางวันและกลางคืน...ทหารพรานจะลาดตระเวนทั้งบนพื้นที่ราบและจุดสูงข่ม... จุดสังเกตการณ์บนที่สูง เพื่อให้เห็นความเคลื่อนไหวของกลุ่มนักค้ายาซึ่งแทบทุกจุดมีความสุ่มเสี่ยงด้วยกันทั้งสิ้น รวมถึงมีจุดตั้งด่านตรวจสกัด ซึ่งเปรียบเสมือนปราการด่านแรกที่คอยสกรีนยาเสพติดหลังขึ้นฝั่งไทย อย่างไรก็ตาม แม้จะมีมาตรการมากมายแต่ที่ผ่านมาก็ยังมีเล็ดลอดไปได้หลายครั้ง นั่นแสดงถึงความพยายามลักลอบค้ายาต่อเนื่องจนผู้มีหน้าที่ปราบปรามยังตามไม่ทันเส้นทาง ขนยาเสพติดได้ดำเนินต่อมาสู่พื้นที่กรุงเทพฯ...แต่จากการสอบสวนสมาชิกแก๊งส่งยาพบว่ายาเสพติดบางส่วนที่นำมาปล่อยในเมืองหลวง ไม่ได้ถูกส่งมาจากทางภาคอีสานหรือภาคเหนือ แต่...ถูกส่งมาจากชายแดนด้านตะวันตกพล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. ย้ำว่า ตอนนี้นอกจากพื้นที่ภาคเหนือและอีสานแล้ว ป.ป.ส. ได้กำหนดพื้นที่เร่งด่วนเพื่อสกัดกั้นยาเสพติดเพิ่มอีกหนึ่งพื้นที่ คือ ชายแดนด้านภาคตะวันตก ในจังหวัดกาญจนบุรี 5 อำเภอ คือ สังขละบุรี ทองผาภูมิ ไทรโยค ด่านมะขามเตี้ย และอำเภอเมือง ดูเหมือนว่าการสกัดกั้นตามชายแดนจะมีประสิทธิภาพพอสมควร จากการที่ยาบ้ามีราคาสูงขึ้นจากเมื่อปลายปี 66 ราคา 10 บาท บางที่ 5 บาท หรือ 100 บาท ซื้อ “ได้ 5 เม็ด” ปัจจุบันแนวชายแดนเอง “เม็ดละ” 50 บาท บางที่ 100 บาท หมายความว่ายาบ้าเริ่มขาดตลาดแล้วเราพบว่าปฏิบัติการที่เพิ่งเริ่มเมื่อต้นปีที่ผ่านมา “Seal Stop Safe” ซีลคือการสกัดกั้นยาเสพติดที่ทะลักตามแนวชายแดน สต็อปคือการตั้งด่านสกัดไม่ให้ยาหลุดเข้าพื้นที่ชั้นใน และเซฟ ก็คือการให้ชุมชนมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหายาเสพติดทุกวิถีทาง น่าจะเป็นกลยุทธ์ที่เป็นความหวัง สรุป เราอาจไม่สามารถสกัดกั้นยาเสพติดทั้งหมดได้ตั้งแต่ชายแดน ผู้ค้ายาใช้ช่องโหว่และกลเม็ดหลากหลายจนตามไม่ทัน ดังนั้นเราต้องมีวิธีการเพิ่มเติม หนึ่งในนั้นคือ “Seal Stop Safe” ที่ช่วยสอดส่องในระดับพื้นที่ชั้นในจนไปถึงระดับชุมชน และต้องไม่ลืมที่จะปราบปรามการรับสินบนของเหล่าข้าราชการสิ่งสำคัญที่สุดคือต้องสาวไปถึงกลุ่มขบวนการใหญ่ให้ได้ เพื่อตัดวงจรยาเสพติดตั้งแต่ต้นทางปัญหายาเสพติดยังคงเป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องเร่งแก้ไข เป็นภัยร้ายบ่อนทำลายประเทศชาติ จึงเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนต้องช่วยกันสอดส่องดูแล เพื่อสกัดกั้นยาเสพติดให้หมดไป. คลิกอ่านคอลัมน์ “สกู๊ปหน้า 1” เพิ่มเติม