ครม.มีมติวันอังคาร (10 มิ.ย.) เห็นชอบร่างแก้ไข พ.ร.บ.หลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ ว่าด้วย “หลักทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์ (Digital Securities)” ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เพื่อรองรับ “พันธบัตรออมทรัพย์ดิจิทัล” ของรัฐบาลที่จะออกมาในรูปแบบใหม่ G-Token (Government Token) ในเร็วๆนี้ คุณพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ ก.ล.ต. เปิดเผยว่า ก.ล.ต.สนับสนุนให้ยกระดับ “ระบบนิเวศหลักทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์ (Digital Securities Eco system)” และผลักดันการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อรองรับหลักทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์ตามยุทธศาสตร์ ก.ล.ต. 2568–2570 ที่มุ่งส่งเสริมให้ตลาดทุนไทยเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญสู่เศรษฐกิจดิจิทัล และจัดทำกฎหมายรองเพื่อรองรับหลักทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์หลักทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือ หลักทรัพย์ดิจิทัล คือ หลักทรัพย์ที่ออกในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ไม่มีการออกใบหลักทรัพย์ ตั้งแต่ต้นนํ้าจนถึงปลายนํ้า เช่น การออกเสนอขาย การโอนและส่งมอบ การใช้เป็นหลักประกัน การบังคับประกัน เป็นต้น เพื่อลดอุปสรรคและต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับผู้เล่น เอื้อให้เกิดการแข่งขันและนวัตกรรมใหม่ๆในตลาดทุนไทยก่อนหน้านี้ คุณพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯและรัฐมนตรีคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังจะออก “พันธบัตรรัฐบาล” ในรูปแบบ “สินทรัพย์ดิจิทัล” หรือ G–Token เป็นครั้งแรก เพื่อระดมทุนจากประชาชนโดยตรง จากเดิมที่ออกเป็นใบพันธบัตร G–Token เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีความมั่นคง ไม่ใช่คริปโตเคอร์เรนซี (เงินดิจิทัล) ไม่สามารถนำไปใช้แทนเงินสดหรือซื้อขายสินค้าได้ ไม่ใช่เครื่องมือการชำระเงิน แต่ประชาชนจะได้ผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝากทั่วไป และสามารถเริ่มต้นลงทุนในวงเงินน้อยๆได้เทคโนโลยีที่ใช้ออก G–Token ยังไม่เปิดเผย แต่ข้อมูลจาก ก.ล.ต. ระบุว่า จะใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) หรือ DLT (Distributed Ledger Technology) ที่รัฐบาลใช้ทำกระเป๋าเงินดิจิทัล หรือ Digital Wallet เพื่อแจกเงิน 10,000 บาท แต่จนถึงวันนี้ก็ยังทำไม่สำเร็จต้องเลื่อนออกไม่มีกำหนด ซึ่งจะเป็นการนำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้กับตลาดทุนไทยครั้งแรกคุณพชร อนันตศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า คาดว่ากระทรวงการคลังจะออก G–Token ในวงเงินไม่เกิน 5,000 ล้านบาทภายในไม่เกิน 45 วัน ระหว่างนี้ต้องรอให้ ก.ล.ต.ออกกฎเกณฑ์ออกมาให้ชัดเจนก่อน การออก G–Token ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ในการระดมทุนของภาครัฐ เป็นทางเลือกใหม่ของประชาชน G–Token จะออกภายใต้กรอบ “การกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ” ใช้วงเงินของพันธบัตรออมทรัพย์ ข้อดีคือต้นทุนจะตํ่ากว่าการออกพันธบัตรตามปกติ ต้นทุนที่ประหยัดได้จะใส่กลับเข้าไปเป็นผลตอบแทนให้กับผู้ลงทุน ซึ่งจะมากกว่าพันธบัตรออมทรัพย์ก็ต้องรออีก 45 วันหรือสองเดือนนี้ กระทรวงการคลังจะสามารถออก G–Token ได้หรือไม่สัปดาห์ที่แล้ว นสพ.ประชาชาติธุรกิจ รายงานว่า กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการหาผู้ดำเนินการออก G–Token และตัวแทนจำหน่าย โดยระบุว่า กระทรวงการคลังได้เรียกเอกชนที่สามารถออก G–Token ได้ไปประชุม 7 บริษัท แต่บริษัทที่มีระบบพร้อมทำได้จริงเพียง 3 บริษัท คือ Token X ในเครือไทยพาณิชย์ SCBX Kubix Digital Asset ในเครือธนาคารกสิกรไทย และ เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล ในข่าวระบุว่า บริษัท เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล มีโอกาสสูงที่จะได้งานนี้ เพราะอีกสองบริษัทเป็นบริษัทลูกของธนาคารก็ต้องจับตาดูกันต่อไปที่ผมเป็นห่วงก็คือ การใช้เทคโนโลยี Blockchain หรือ DLT กับผู้ถือพันธบัตร G-Token รายย่อย ต้อง “จำรหัส” และเก็บไว้ให้ดี G–Token นี้รัฐบาลตั้งใจขายให้ประชาชนระดับล่าง ขายเป็นหน่วยย่อย แต่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงสุด ดูมันสวนทางกันชอบกล.“ลม เปลี่ยนทิศ”คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม