คนไทยนับได้ว่าเป็นยอดนักเล่านิทานให้เข้ากับทุกภูเขา ทุกเกาะแก่งแห่งที่ ฯลฯ ผมจำได้ขึ้นใจหลายเรื่อง แต่ลืมเรื่องเกาะหนู เกาะแมว ไปเสียแล้ว ทำไมไปอยู่เรียงเคียงกันหน้าชายหาดสงขลาเจอนิทานกริมม์ (ยาค็อบและวิลเฮล์ม กริมม์ เขียน อาษา ขอจิตต์เมตต์ แปล (ต้นอ้อ 1999 จำกัด พิมพ์ครั้งที่ 5 พ.ศ.2542) เล่ม 1 เรื่อง ทำไมหมาเกลียดแมว และแมวเกลียดหนูหมาตัวหนึ่งรับใช้สิงโต ราชาแห่งสัตว์ป่ามาหลายปี จนถึงวันที่สิงโตประสงค์จะยกย่องให้บริวารทั้งหลายเห็นในความจงรักภักดี จึงประกาศในที่ประชุมใหญ่ “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ท่านเป็นขุนนาง”แต่งตั้งปากเปล่ายังไม่ขลังพอ สิงโตมอบแผ่นหนังแห้งเขียนด้วยอักษรทองบรรจงให้เป็นหลักฐานหมาผู้ซื่อสัตย์ดีใจ มันคาบเครื่องหมายเชิดชูเกียรตินั้นไปอวดแมว แมวก็พลอยดีใจไปกับฐานะใหม่ของเพื่อนระหว่างลูบคลำแผ่นหนังบรรดาศักดิ์ หมาก็เกิดวิตก ตัวมันออกไล่ล่าหากินไกลๆอยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง จะเก็บแผ่นหนังจารึกอักษรทองไว้ที่ไหนแมวเป็นเพื่อนรักรับอาสาจะดูแลแผ่นหมาบรรดาศักดิ์ให้ดีที่สุด แล้วตระเวนหาที่เก็บ...เจอโพรงต้นโอ๊กใหญ่ มันเห็นว่านี่คือที่ที่ปลอดภัยที่สุดตอนแรกๆแมวก็แวะเวียนไปดู มันเป็นห่วงสารพัด จะถูกขโมย จะถูกความชื้นจนชำรุดเสียหายเวลาผ่านไป หมาเองก็ไม่เคยแวะเวียนมาถามไถ่ แมวก็เผลอลืมช่องว่างเวลาที่แมวลืม หนูเล็กๆตัวหนึ่งมุดเข้าโพรงต้นโอ๊ก มันกำลังหิว เมื่อเจอแผ่นหนังบรรดาศักดิ์หมา มันเห็นเป็นทำเลทอง จึงจับจองโพรงต้นโอ๊กเป็นที่อยู่ พอหิวหาอะไรที่ไหนกินไม่ได้ มันก็หันหน้าเข้าแทะแผ่นหนังกินนานๆเข้าแผ่นหนังบรรดาศักดิ์หมาก็ขาดวิ่นและเว้าแหว่งไปทั่ววันหนึ่ง สิงโตราชาสัตว์ป่ารับคำสั่งให้หมาไปร่วมงานประลองฝีมือ...ที่วัง งานนี้ขุนนางหมาต้องมีแผ่นหนังบอกบรรดาศักดิ์ไปด้วยหมารีบไปหาแมว ขอหนังแห้งคืน พอแมวพาไปโพรงต้นโอ๊ก เจอแผ่นหนังเหลือแผ่นเล็กนิดเดียว แมวก็โกรธหนูเป็นฟืนเป็นไฟ วิ่งไล่ตะปบหนูนับแต่นั้น แมวก็ประกาศอาฆาตหนู ตามราวีหนูไปทั้งชีวิตส่วนหมาเมื่อรู้ว่าจะไม่มีแผ่นหนังบรรดาศักดิ์ หมดโอกาสแสดงตัวขุนนาง ร่วมงานของพระราชา ก็โกรธแมวสุดขีด แยกเขี้ยวกระโจนเข้าใส่มันประกาศอาฆาตแมว เจอหน้าเมื่อไหร่ หมาก็จะวิ่งไล่แมว จนถึงวันนี้ หมาก็ยังวิ่งไล่แมวอยู่ธรรมเนียมนิทานกริมม์ไม่มีคำสอน...ต่อท้าย อ่านแล้วแต่ก็คิดก็เดากันเอง หมาไล่กัดแมวเรื่อยไป แมวก็ไล่กัดหนูอยู่เรื่อยไป ตามธรรมชาติของมันอย่าเอาเรื่องแมวกับหนูไปเปรียบเปรยกับการเมืองเลยนะครับ...การเมืองเป็นเรื่องคนที่รู้กัน ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร เปลี่ยนชังเป็นรัก เปลี่ยนรักเป็นชังได้ทันทีที่คุยกันเรื่องผลประโยชน์ลงตัวเพราะฉะนั้น...หนูที่เห็นๆกันว่ากำลังถูกแมวไล่...ถ้าการเมืองพลิกผันหนูเป็นนายกฯขึ้นมา หนูก็จะเปลี่ยนบท...จากที่เคยพูดๆกัน แมวไม่อยู่หนูร่าเริง แมวมาหลังคาเปิง กลับวิ่งมาไล่แมว แมวก็กลายฝ่ายหนีแบบหลังคาเปิงรสชาติการเมืองเมืองไทย...เปรี้ยวหวานมันเค็มไม่เหมือนประเทศใด โปรดรอชิมต่อไป วันสองวันนี้อย่ากะพริบตา เดี๋ยวจะพลาดฉากสำคัญ.กิเลน ประลองเชิงคลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม