เป็นประเด็นเปราะบางของคนไทยกรณีความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชาในการอ้างสิทธิเกี่ยวกับพื้นที่ และเกิดการปะทะระหว่างกองกำลังไทยและกัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี วันที่ 28 พ.ค.ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ร่วมประชุม ผบ.เหล่าทัพ ติดตามสถานการณ์ ยืนยันว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ความสำคัญสูงสุดในการพิทักษ์ปกป้องรักษาชาติ และคุ้มครองอธิปไตยของดินแดนไทยผบ.ตร.เดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมกำลังพลตำรวจพื้นที่ สั่งการให้ บช.ตชด.เตรียมความพร้อมกำลัง นำเครื่องมืออาวุธยุทโธปกรณ์พร้อมปฏิบัติและสนับสนุนเต็มที่ ไม่ให้ผู้ใดล่วงล้ำอธิปไตยชาติไทยเด็ดขาดสั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดนไทย สืบสวนหาข่าวในพื้นที่ จัดเตรียมความพร้อมแผนปฏิบัติการ เตรียมแผนเผชิญเหตุ และพร้อมสนับสนุนการปฏิบัติหน่วยงานทหาร เมื่อได้รับการสั่งการลงมาบช.สอท.เฝ้าระวังการโจมตีทางไซเบอร์ การปล่อย “ข่าวปลอม” ทางสื่อโซเชียลออนไลน์ทำให้สังคมเกิดความสับสนวุ่นวายในสังคมไทย ให้บังคับใช้กฎหมาย ปิดกั้นกรณีที่มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับทางเทคโนโลยีอย่างเด็ดขาดควบคุมมิให้มีการแพร่กระจายข่าวหรือปล่อยข่าวปลอมที่จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศไทย สั่งให้ บช.สตม. เพิ่มความเข้มคัดกรองคนต่างด้าวเข้าไทยตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองเข้มงวดผบ.ตร.สั่ง พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่ ชายแดนไทยที่มีความสุ่มเสี่ยงเข้าปะทะ ตรวจสอบความพร้อมกำลังพล อาวุธยุทโธปกรณ์ ร่วมสนับสนุนการปฏิบัติฝ่ายทหารและหน่วยงานเกี่ยวข้องผบ.ตร.ย้ำจุดยืนในการปกป้องรักษาอธิปไตยของชาติว่า จะไม่ให้ผู้ใดล่วงล้ำอธิปไตยของชาติไทยอย่างเด็ดขาด พร้อมบังคับใช้กฎหมายและสนับสนุนการปฏิบัติทางยุทธการพิทักษ์พื้นที่ชายแดน-พื้นที่ส่วนหลังเต็มกำลัง.“เพลิงพยัคฆ์”pluengpayak@thairath.co.thคลิกอ่านคอลัมน์ “เลขที่1 วิภาวดีฯ” เพิ่มเติม