เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาในคอลัมน์ “ซอกแซก” ของผมนั้น บรรดาทีมงานได้ช่วยกันเขียนแนะนำละครเวที เรื่อง “อันธพาล 2499 เดอะมิวสิคัล” ของคุณบอย ถกลเกียรติ วีรวรรณ ชื่นชมว่าเป็นละครเพลงที่ดีมากเรื่องหนึ่งผมเองไม่ได้ไปดูด้วย เพราะยังอยู่ในระยะพักฟื้นตัวหลังป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาลอยู่หลายวัน แต่ก็ติดตามข่าวคราวต่างๆของ ละครเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด จึงให้คำแนะนำและรายละเอียดบางประการที่เคยเกิดขึ้นในยุคโน้นเท่าที่พอจำได้แก่น้องๆที่มาช่วยเขียนคอลัมน์ซอกแซกของผมได้ในหลายๆแง่มุมรวมไปถึงแง่มุมที่มีการบอกเล่าเรื่องราว หรือตีความเรื่องราวและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแก่อันธพาลดังๆใน พ.ศ.ดังกล่าวไปคนละทาง สองทาง จริงบ้าง เท็จบ้าง แต่งขึ้นมาเองบ้าง ซึ่งมีมาตั้งแต่ช่วงแรกๆแล้วแต่ของแทร่หรือของจริงก็คือตัวละครเหล่านี้มีอยู่จริงๆใน พ.ศ.ดังกล่าว ตั้งแต่ แดง ไบเล่, ปุ๊ ระเบิดขวด, ดำ เอสโซ่, เปี๊ยก วิสุทธิ์กษัตริย์ ฯลฯ และ “จังหวัดพระนคร” หรือ กทม. ฝั่งกรุงเทพฯ ก็มี “อันธพาล” มี นักเลง หรือบางครั้งหนังสือพิมพ์มักจะเรียกว่า “ผู้กว้างขวาง” คุมท้องที่อยู่จริงๆมาจนถึงปี 2499 ดังกล่าวดังนั้น ในการ “รัฐประหาร” ของ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ที่ลุกขึ้นมาโค่นล้ม จอมพล ป.พิบูลสงคราม ผู้ครองอำนาจมาถึง 10 ปีติดต่อกัน เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2500 จึงมีการจับกุมกวาดต้อนอันธพาล และผู้กว้างขวางทั้งหมดเข้าคุกเข้าตะรางไปด้วยส่งผลให้จอมพลสฤษดิ์เข้ายึดอำนาจได้อย่างเบ็ดเสร็จ โดยในช่วงแรกๆมีการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีพลเรือน นายพจน์ สารสิน ขึ้นมาขัดตาทัพก่อนแล้วก็ให้ จอมพลถนอม กิตติขจร มาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกช่วงหนึ่งจนถึงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2502 จอมพลสฤษดิ์ซึ่งไปรักษาตัวที่สหรัฐฯอยู่ระยะหนึ่งก็กลับมาทำรัฐประหาร (แบบขยิบตา) กับรัฐบาลจอมพลถนอมและขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีด้วยตนเองจอมพลสฤษดิ์ดำเนินนโยบายสำคัญ 2 อย่างคู่กันไปคือ “เด็ดขาด” กับ “การพัฒนา” ในช่วงแรกๆถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูง...การปราบปรามนักเลงอันธพาลก็ดี การจัดการกับยาเสพติด ยกเลิกการค้าฝิ่นโดยเด็ดขาดก็ดี ทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อยเมื่อบวกด้วยการพัฒนาประเทศอย่างจริงจัง จัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับที่ 1 โดยการร่วมมือของธนาคารโลกและบุคลากรระดับหัวกะทิของประเทศเช่น ม.ล.เดช สนิทวงศ์, ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์, นายสมหมาย ฮุนตระกูล, นายบุญมา วงศ์สวรรค์, นายบุญชนะ อัตถากร, นายฉลอง ปึงตระกูล ฯลฯ ก็ยิ่งทำให้แผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับที่ 1 ประสบความสำเร็จอย่างใหญ่หลวงมา “ดีแตก” ในช่วงสุดท้าย เมื่อพบว่าจอมพลสฤษดิ์มีอนุภรรยานับร้อยคน มีมรดกที่มีการฟ้องร้องโดยผู้สืบสกุลนับเป็นพันล้านบาท และต่อมาก็มีการตั้งกรรมการยึดทรัพย์ในที่สุดอย่างไรก็ดี แม้จะมีข้อเสียหายในบั้นปลายชีวิตหลังล่วงลับไปแล้ว แต่ในเชิง ประวัติศาสตร์เศรษฐกิจ ต้องยอมรับว่า จอมพลสฤษดิ์คือผู้เริ่มต้นของการพัฒนาประเทศยุคใหม่ นำประเทศไทยจากเกษตรกรรมเข้าสู่อุตสาหกรรม และการพาณิชย์เป็นครั้งแรกดังนั้นสำหรับแฟนละครรุ่นเก่าอย่างผม นอกจากจะพอจำความยุค “อันธพาล 2499” แดง ไบเล่, ปุ๊ ระเบิดขวด ฯลฯ ได้แล้ว ยังจำเหตุการณ์ “ปฏิวัติ 2500” ของจอมพลสฤษดิ์ หรือ “เจ้าพ่อผ้าขะม้าแดง ณ บ้านสี่เสา” ที่มาปราบ “อันธพาล” ต่างๆจนสิ้นซาก และเริ่มต้นพัฒนาประเทศไทยอย่างถูกวิถีทางอยู่ระยะหนึ่งฝากคุณบอยไว้ด้วยละกัน...ถ้าจะให้ “อันธพาล 2499 มิวสิคัล” จบลงอย่างสมบูรณ์ จะจัดทำ “เจ้าพ่อผ้าขะม้าแดง 2500 เดอะมิวสิคัล” ต่ออีกชุดก็ดีเหมือนกันนะครับหมายเหตุ : ประมาณ 2503-2504 มีด็อกเตอร์เศรษฐศาสตร์หนุ่มจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน ชื่อ “อำนวย วีรวรรณ” (บิดาใครไม่รู้) มาช่วยราชการในทีมจอมพลสฤษดิ์ด้วยนะครับ ซ.ต.พ."ซูม"คลิกอ่านคอลัมน์ “เหะหะพาที” เพิ่มเติม